ศูนย์วิจัยกสิกรฯหั่นจีดีพีเหลือ 2.8%

[brid.ladawan]

ศูนย์วิจัยกสิกรฯหั่นจีดีพีเหลือ 2.8%

ส่งออกเดี้ยงศูนย์วิจัยกสิกรไทยลดลดเป้าจีดีพีลงเหลือ 2.8% เหตุราคาน้ำมันในตลาดโลกดิ่งเศรษฐกิจโลกซบ

นางพิมลวรรณ มหัจฉริยวงศ์รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ได้ปรับลดอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยในปีนี้เติบโตเพียง2.8% จากเดิมคาดว่าโต 4% ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากถึง1.2% เป็นผลมากจากเศรษฐกิจฟื้นตัวล่าช้าโดยครึ่งปีแรกโต 3.5% และครึ่งปีหลังเติบโต 2% เนื่องจากส่งออกมีแนวโน้มหดตัวแรงกว่าที่คาดไว้ส่งผลให้ส่งออกไตรมาส1 อาจติดลบ3.9 % เพราะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและการดิ่งลงของราคาโภคภัณฑ์ ทำให้ทั้งปีการส่งออกไม่ขยายตัว จากเดิมคาดว่าโต 3.5% ซึ่งการส่งออกที่ไม่เติบโต ฉุดจีดีพีลง 1%

นอกจากนี้ การบริโภคภาคเอกชนแม้จะได้ผลดีจากราคาพลังงานที่ลดลงแต่ยังไม่สามารถชดเชยความอ่อนแอของกำลังซื้อในกลุ่มเกษตรกรและภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังสูงคาดปีนี้อยู่ที่ 88-89% ของจีดีพี กดดันการบริโภคทำให้การบริโภคภาคเอกชน โตเพียง 2% มีผลต่อจีดีพีหายไป 0.6% ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนโตเพียง5% โดยเอกชนรอสัญญาณฟื้นตัวทางเศษฐกิจและการลงทุนของภาครัฐที่ชัดเจนมากขึ้นโดยการเบิกจ่ายของรัฐบาลยังต่ำกว่าเป้าหมาย โดยเฉพาะงบลงทุนมีอัตราการเบิกจ่ายเพียงแค่ 21.8% คาดหวังว่า ครึ่งปีหลังการเบิกจ่ายภาครัฐจะดีขึ้นจากงบการลงทุนสร้างถนนตามจังหวัดต่างๆ ส่งผลให้การลงทุนภาครัฐโต6.8% และเป็นตัวผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง

ทั้งนี้ต้องจับตามองการฟื้นตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในระยะข้างหน้าซึ่งอาจจะช่วยให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้น และจะเป็นผลบวกต่อส่งออกไทยและจับตาสถานการณ์ราคาน้ำมัน ซึ่งราคาน้ำมันดิบดูไบปีนี้ อยู่ที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

นายเชาว์ เก่งชนกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. มีแนวโน้มจะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกจากปัจจุบันอยู่ที่1.75% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่องทำให้เงินบาทอ่อนค่า คาดเคลื่อนไหว 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 23 มีนาคม 2558