เผยคนไทย 10 ล้านคนป่วยทางจิต

Post Reply
brid.ladawan
Posts: 7045
Joined: 29 Mar 2013, 13:36

เผยคนไทย 10 ล้านคนป่วยทางจิต

Post by brid.ladawan »

เผยคนไทย 10 ล้านคนป่วยทางจิต


ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 30 มีนาคมทุกปี สมาพันธ์โรคไบโพลาร์สากล (The International Society for Bipolar Disorders) กำหนดให้เป็นวันไบโพลาร์โลก (World Bipolar Day) เพื่อรณรงค์ให้ทั่วโลกเร่งป้องกันและดูแลผู้ป่วยโรคไบโพลาร์ (Bipolar Disorder) ซึ่งเป็นโรคที่มีความผิดปกติทางอารมณ์ มีอารมณ์สองขั้วสลับเวียนระหว่างรื่นเริงผิดปกติและซึมเศร้า คาดว่าขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ป่วยประมาณ 27 ล้านคน หรือร้อยละ 1- 2 ของประชากรโลก ร้อยละ 20 ฆ่าตัวตายสำเร็จ


จากการศึกษาในปี 2555 ประเมินจำนวนผู้มีปัญหาสุขภาพจิตที่ต้องเข้าถึงบริการ 10 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นโรคไบโพลาร์ประมาณ 1 ล้านคน มากเป็นอันดับ 2 รองจากโรคจิตเภท การเข้าถึงบริการของผู้มีปัญหาสุขภาพจิตยังต่ำกว่าโรคทางกายมาก เข้าถึงบริการเพียงร้อยละ 61 จึงต้องพัฒนาระบบบริการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ในปี 2558


เน้น 3 เรื่องหลัก คือ 1.เพิ่มการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยจิตเวช โดยโรงพยาบาลศูนย์หรือโรงพยาบาลทั่วไปอย่างน้อย 1 แห่ง จัดหอผู้ป่วยเพื่อดูแลรักษาในโรงพยาบาล เช่นเดียวกับโรงพยาบาลจิตเวช และพัฒนาศักยภาพห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลใหญ่ 33 แห่ง ให้ดูแลผู้ป่วยจิตเวชในภาวะวิกฤตได้


2.เพิ่มการเข้าถึงยาของผู้ป่วย โดยกระจายยารักษาโรคเฉพาะทางจิตเวช อาทิ ยาต้านโรคจิต ยาควบคุมอารมณ์ ยาต้านเศร้า ยาคลายเครียด ยากันชัก เป็นต้น สู่โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยากินอย่างต่อเนื่องโดยสะดวก


3.พัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ในการคัดกรองและจัดกิจกรรมส่งเสริมป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในชุมชน จัดทีมหมอครอบครัวลงติดตามดูแลผู้ป่วยทุกรายอย่างต่อเนื่อง ป้องกันการขาดยา ซึ่งน่าจะลดปัญหาการฆ่าตัวตายได้


ด้านนายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า โรคไบโพลาร์มีสาเหตุจากหลายปัจจัย ตั้งแต่พันธุกรรม เด็กที่เกิดจากพ่อหรือแม่ที่เป็นโรคมีโอกาสเป็นโรคสูงกว่าคนทั่วไป 4 เท่า รวมทั้งจากความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง ความเครียด การประสบวิกฤติชีวิตรุนแรง หรือการใช้สารเสพติด ผู้ป่วยมีอารมณ์ 2 ขั้วสลับกัน ระหว่างซึมเศร้ากับรื่นเริงผิดปกติ กลุ่มเสี่ยงที่สุดคือกลุ่มอายุ 20-30 ปี ซึ่งเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อของการเรียน การทำงาน อาการมักเริ่มจากขยันผิดปกติ คึกคัก แล้วเปลี่ยนเป็นซึมเศร้า ร้องไห้ หรือหลงผิดว่ามีอำนาจวิเศษเหนือคนอื่น หากปล่อยไว้ภายใน 2-3 สัปดาห์ อารมณ์จะรุนแรง ก้าวร้าว จนญาติรับมือไม่ไหว


สำหรับโรคนี้มียารักษา มีอยู่ในโรงพยาบาลทุกแห่ง ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป ประการสำคัญคือคนรอบข้างและครอบครัวต้องช่วยดูแลเรื่องการกินยาสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายหรือการทำกิจกรรมคลายเครียด ให้กำลังใจเรื่องเรียนและทำงาน เฝ้าระวังเรื่องการใช้ยากระตุ้นหรือสารมึนเมา เช่น เหล้า หรือ กาแฟ ที่มีคาเฟอีนสูง คอยสังเกตอารมณ์และพฤติกรรม หากเริ่มมีอาการ เช่น พูดมาก พูดเสียงดัง แต่งตัวแปลกๆ ไม่ยอมนอน ให้รีบพบแพทย์หรือปรึกษาสายด่วนกรมสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง


ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 30 มีนาคม 2558
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”