ศึกสมาร์ทวอทช์ : เคลื่อนทัพ

Post Reply
brid.ladawan
Posts: 7045
Joined: 29 Mar 2013, 13:36

ศึกสมาร์ทวอทช์ : เคลื่อนทัพ

Post by brid.ladawan »

ศึกสมาร์ทวอทช์ : เคลื่อนทัพ

ศึกสมาร์ทวอทช์ ถือว่าเริ่มเคลื่อนทัพเข้าสู่สมรภูมิกันแล้ว การศึกก็จะเริ่มเมื่อมีสินค้าวางขายและพยายามทำยอดขาย โดยการหาพันธมิตรมาพัฒนาโปรแกรมต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ให้กับนาฬิกาของบริษัทตน การสร้างจุดเด่น

บริษัทแอปเปิลประกาศวันที่เริ่มขายและราคานาฬิกาข้อมือ apple แล้ว ว่าจะเป็น กลางเดือนเมษายน เริ่มในอเมริกาและยุโรปและจีน รุ่นที่ถูกที่สุดราคาหลักหมื่น รุ่นแพงหลักแสนบาท ถัดมาอีกเพียง 10 วันบริษัทกูเกิล (Google) อินเทล (Intel) และแทก ฮอยเออร์ (Tag Heuer) ผู้ผลิตนาฬิกายี่ห้อดังของสวิส ประกาศร่วมมือผลิต สมาร์ทวอทช์ จะออกผลิตภัณฑ์ในปีนี้โดยใช้ไมโครชิปของอินเทล ระบบซอฟต์แวร์ของกูเกิล และบรรจุในเรือนนาฬิกาของสวิส ขณะเดียวกันบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือในเกาหลีและจีนก็ประกาศ

สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ ใช้ตัวเรือนโลหะหน้าปัดกลม ดูเหมือนนาฬิกาหรู เพื่อวางตลาดในปีนี้เช่นกัน คาดกันว่าตลาดโลกของนาฬิกาอัจฉริยะเหล่านี้จะมีขนาดประมาณ 21.8 ล้านชิ้นในปีนี้ปีที่แล้ว 4.6 ล้านชิ้นเพิ่มขึ้นถึงเจ็ดเท่าโดยแอปเปิล จะมีส่วนแบ่งครึ่งหนึ่ง ถือว่าเป็นแนวโน้มที่น่าติดตาม

ศึกสมาร์ทวอทช์ ถือว่าเริ่มเคลื่อนทัพเข้าสู่สมรภูมิกันแล้ว การศึกก็จะเริ่มเมื่อมีสินค้าวางขายและพยายามทำยอดขาย โดยการหาพันธมิตรมาพัฒนาโปรแกรมต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ให้กับนาฬิกาของบริษัทตน การสร้างจุดเด่น และการทุ่มงบโฆษณา มีคนเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่า เปรียบเสมือนคลื่นลูกใหม่ที่จะมาหนุนตลาดสินค้าไอที และอุตสาหกรรมไอทีต่อไป เพราะแนวโน้มการเติบโตของโทรศัพท์มือถือเริ่มชะลอตัวลง เพราะคนเริ่มไม่เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือบ่อยเหมือนแต่ก่อน อีกทั้งแนวโน้มราคาถูกลง เพราะเป็นตลาดที่เริ่มอิ่มตัว สินค้าใหม่อย่าง สมาร์ทวอทช์ จึงเป็นความหวังของอุตสาหกรรมนี้

แนวความคิดในการออกแบบ สมาร์ทวอทช์ ได้แบ่งเป็นสองค่ายใหญ่ หนึ่ง คือทำนาฬิกาให้เหมือนโทรศัพท์มือถือ คือ มีจอสัมผัส มีโปรแกรมให้ใช้เยอะ ๆ สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ มีเซ็นเซอร์เยอะ ๆ วัดข้อมูลสุขภาพ หรือแม้กระทั่งถ่ายรูปได้โทรศัพท์ได้ เป็นต้น โดยใช้ความคิดว่า นาฬิกาเป็นส่วนต่อขยายของโทรศัพท์ ทำให้ใช้โทรศัพท์ได้สะดวกขึ้น และมีแนวโน้มว่า สามารถทดแทนโทรศัพท์มือถือในที่สุด บางรุ่นสามารถใส่ซิมในโทรศัพท์ในตัวด้วยซ้ำไป ความคิดอย่างนี้มีความเป็นไปได้สูงเพราะอุตสาหกรรมไมโครอิเล็กทรอนิกส์โตมาอย่างก้าวกระโดด โดยสามารถย่อชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ให้เล็กลงได้ 1 เท่าทุกปีดังนั้นการย่อโทรศัพท์มือถือเหลือขนาดเท่านาฬิกาข้อมือและทำงานทุกอย่างได้เหมือนกัน จึงเป็นไปได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่รูปแบบการใช้งานจะเปลี่ยนไปเพราะจอมีขนาดเล็ก จุดอ่อนของความคิดแบบนี้ในปัจจุบัน ก็คือ ต้องกินพลังงานมากเมื่อเทียบกับนาฬิกาข้อมือใช้ถ่านปกติ การใช้งานต้องชาร์จไฟวันต่อวัน

แนวความคิดที่สอง คือทำนาฬิกาฉลาดให้เหมือนนาฬิกาหรู โดยเน้นที่ตัวเรือนสวยงามหรูหรา แบตเตอรี่อยู่ได้นาน เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ผู้ออกแบบต้อง “เลือก” ว่าจะให้นาฬิกาฉลาดทำอะไรได้บ้าง และต้องคิดถึงตลาดนาฬิกาในปัจจุบันเป็นหลักว่าผู้ซื้อนาฬิกาซื้อเพราะอะไร การเลือกว่าจะใส่อะไรเข้าไปบ้าง เป็นตัวกำหนดสินค้า เช่น Casio มีนาฬิกา G-shock รุ่นที่รับการเตือนจากโทรศัพท์ได้โดยติดต่อกันผ่านบลูทูธรุ่นใหม่ใช้พลังงานต่ำ หน้าตาก็จะเหมือน G-shock รุ่นทั่ว ๆ ไปแต่มี “ลักษณะพิเศษ” เพิ่มเติมเข้ามา แบตเตอรี่ก็อยู่ได้นานเป็นปี หรือนาฬิกา Withins ของฝรั่งเศส เลือกใส่การนับก้าวเดินโดยใช้เข็มบอกจำนวนก้าวเดินบนหน้าปัด หน้าตาเหมือนนาฬิกาหรู ดูไม่ออกว่าเป็นดิจิตอล ความคิดนี้มักจะมาจากผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว ต้องการปรับตัวเองเข้าสู่ยุคใหม่ที่มีการบริโภคใหม่

ระหว่างแนวความคิดสองค่ายใหญ่นี้ ก็ยังมีแนวที่สาม อยู่ระหว่างกลางสองโต่ง นั่นคือ ออกแบบให้นาฬิกาฉลาดอยู่ได้นานโดยต้องชาร์จแบตเตอรี่แค่ทุกสัปดาห์ วิธีคิดคือ ไม่พยายามทำนาฬิกาฉลาดให้เป็นโทรศัพท์มือถือ การใช้งานเลือกที่มีประโยชน์ เช่น ไม่ใช้จอสัมผัส เลือกจอที่กินไฟต่ำ เช่น E-Ink และเขียนซอฟต์แวร์เฉพาะ เลือกไม่ใช้ระบบ Android Wear ของกูเกิล วิธีนี้สามารถควบคุมการกินพลังงานของระบบได้ แม้กระทั่งค่ายใหญ่ก็เริ่มทดลองแนวความคิดนี้เหมือนกัน คงใช้เป็นแผนสำรองถ้ากองทัพหลักมีอันเป็นไป ผู้แทนขายนี้จะเห็นนี้ใครไปไม่ได้ คือ ผู้ผลิตรายจิ๋ว (เมื่อเทียบกับขาใหญ่ ปีที่แล้วขายได้ 1 ล้านเรือน) อย่าง Pebble ซึ่งได้ประกาศนาฬิกาตลาดตัวใหม่ใช้จอสีประหยัดไฟและระบบซอฟต์แวร์ปรับปรุงจากเดิม ราคาไม่แพง เริ่มขายอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ผมกำลังรอดูการรบของ “ศาสนาแอป เปิล” กับการแต่งงานระหว่างความงามกับอรรถประโยชน์ของค่ายกูเกิล อินเทล และแทก ฮอยเออร์ อยู่ครับ ผู้ชมอย่ากะพริบตา

โลกหมุนไปเทคโนโลยีถูกพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง กลไกทุนนิยมเปรียบเหมือนมือยักษ์ที่หมุนโลกไปอย่างไม่สิ้นสุด ผู้คนทุ่มเทสมองและแรงงาน หมุนอยู่ระหว่างการพัฒนานี้ ประเทศที่อยู่กับที่ เพราะพอใจ หรือเพราะเหตุอื่น ก็จะประสบภาวะถดถอยอย่างรวดเร็ว แต่การพัฒนาควรทำไปทางไหนเล่า การตอบคำถามนี้ยังไม่ยากเท่ากับลงมือปฏิบัติ

ป.ล. ต้องการทราบเรื่องไอทีอะไรอีเมลบอกได้ครับ จะพยายามเอามาเล่าสู่กันฟัง.

ประภาส จงสถิตวัฒนา
( prabhas@chula.ac.th )
ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 3 เมษายน 2558
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”