แซสเผย Visual Analytics ราคาถูกลง 10 เท่า และใช้งานง่ายขึ้น

[brid.ladawan]

แซสเผย Visual Analytics ราคาถูกลง 10 เท่า และใช้งานง่ายขึ้น

แซสเผย Visual Analytics ราคาถูกลง 10 เท่า และใช้งานง่ายขึ้น
นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด
แซส เผยเทคโนโลยี SAS Visual Analytics ในปัจจุบันมีราคาถูกลงกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับเมื่อหลายปีก่อน ทำให้ธุรกิจสามารถนำไปใช้ได้ง่ายขึ้น และเหมาะต่อสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน เช่นเดียวกับ SAS Data Management ที่ปัจจุบันมีราคาถูกลงจากเดิมหลายเท่าตัวเช่นกัน ซึ่งทั้ง 2 เทคโนโลยีเหมาะที่จะนำมาใช้ในการบริหารจัดการบิ๊กดาต้า รวมไปถึงการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อใช้ในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน

นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า การบริหารจัดการข้อมูลในปัจจุบันมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะข้อมูลขนาดใหญ่ เนื่องจากธุรกิจส่วนใหญ่ต้องอาศัยข้อมูลเหล่านี้ในการตัดสินใจด้านกลยุทธ์ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่จะช่วยในเรื่องดังกล่าว ซึ่งในปัจจุบัน เทคโนโลยีที่ช่วยในการจัดการบริหารข้อมูลอย่าง SAS Visual Analytics ก็มีราคาถูกลงมากประมาณ 10 เท่า เมื่อเทียบกับเมื่อหลายปีก่อน จากเดิมที่การวางระบบอยู่ในหลักหลายล้านบาท ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่แสนบาทเท่านั้น

ดังนั้น ธุรกิจจะสามารถนำเทคโนโลยีนี้มาใช้บริหารจัดการ และวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ หรือบิ๊กดาต้าได้ง่ายขึ้น และมีความเหมาะสมต่อสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่แม้จะยังคงซบเซาอยู่ ประกอบกับ SAS Visual Analytics มีข้อดีคือ ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางด้านอนาไลติกส์มาก เนื่องจากโซลูชันถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย เหมาะสำหรับทุกคน สามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการคำนวณแบบ In-Memory Analytics สามารถใช้ร่วมกับระบบไอที หรือแอปพลิเคชันอื่นๆ ได้ง่าย ดำเนินการใช้งานได้เอง และใช้ผลวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับทุกฝ่ายในองค์กรได้ และสามารถปรับใช้การวิเคราะห์ข้อมูลได้หลายขนาดที่เหมาะสมต่อองค์กร

เช่นเดียวกับเทคโนโลยี SAS Data Management ที่ในปัจจุบันก็มีราคาถูกลงมากเช่นกัน และยังได้รับการปรับปรุงให้มาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่ๆ ช่วยให้คุณสามารถดูแลข้อมูลขนาดใหญ่ที่ผ่านกระบวนการผสานรวมแล้วระหว่างเทคโนโลยี Hadoop กับเทคโนโลยีดั้งเดิม ด้วยแพลตฟอร์มปัจจุบันที่ใช้เวลาน้อย โดยจะช่วยลดภาระให้แก่ฝ่ายไอทีในด้านการจัดการปริมาณข้อมูล

“ปัจจุบัน ธุรกิจต่างๆ ต้องประสบต่อปัญหาข้อมูลที่เข้ามามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สเปรดชีต (spreadsheets) อีเมล รายงาน ข้อมูลของลูกค้า บันทึกของผู้จัดจำหน่าย และข้อมูลอื่นๆ ที่เข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดความซับซ้อนของข้อมูลที่จำเป็นต้องนำมาใช้ ยังไม่นับรวมถึงการใช้แพลตฟอร์มที่มีความหลากหลาย และกลายเป็นสิ่งที่ท้าทายในการบริหารข้อมูล รวมไปถึงความเร็วของข้อมูลก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้บริหารต้องคำนึงถึง”

นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ การนำ SAS Visual Analytics มาทำงานควบคู่กับเทคโนโลยี SAS® Data Management จะมีประโยชน์มากในการพยากรณ์ และช่วยวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ได้แบบนาทีต่อนาที หรือเพียงไม่กี่วินาที และข้อมูลทั้งภายใน และภายนอกองค์กรที่ผ่านการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์แล้วนั้นสามารถนำมาใช้ทางการตลาดเพื่อสร้างรายได้ให้เกิดขึ้น เรียกได้ว่าเป็น “ดาต้า มันนิไทเซชัน” (Data Monetization) ซึ่งหลายๆ องค์กรที่เป็นกลุ่มลูกค้าของแซส เช่น ธนาคาร โทรคมนาคม ธุรกิจค้าปลีก และอุตสาหกรรมต่างๆ ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากขึ้น

ทั้งนี้ สำหรับเทคโนโลยี SAS Data Management รุ่นใหม่นั้นได้ขยายการใช้ประโยชน์คุณสมบัติภายในเทคโนโลยี Hadoop เช่น การเชื่อมโยงข้อมูล การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล โดยผู้ใช้สามารถนำเอาขั้นตอนการจัดการ และสำรวจข้อมูลที่สำคัญเข้าไปไว้ในเทคโนโลยี Hadoop ได้อย่างง่ายดาย ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของการผลิต ลดระยะเวลาในการพัฒนา และบำรุงรักษาระบบ สามารถจัดเก็บข้อมูลแบบรวมศูนย์ รักษาความปลอดภัยข้อมูล ทำงานได้เร็วขึ้น และตอบสนองข้อจำกัดด้านเวลา และด้วยแพลตฟอร์มการทำงานแบบครบวงจร จึงช่วยจัดการข้อมูลที่มีอยู่ได้อย่างสมบูรณ์ ลดความจำเป็นในการบริหารจัดการเทคโนโลยีผสม และช่วยควบคุมค่าใช้จ่าย


ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 15 พฤษภาคม 2558