ยื่นหนังสือนายกฯค้านขึ้นภาษีแอลพีจี

[brid.ladawan]

ยื่นหนังสือนายกฯค้านขึ้นภาษีแอลพีจี


สุรศักดิ์ นิตติวัฒน์,ก๊าซ,แอลพีจี
ยื่นหนังสือนายกฯค้านขึ้นภาษีแอลพีจี


นายกสมาคมธุรกิจก๊าซฯ ยื่นหนังสือนายกฯ ค้านมาตรการขึ้นภาษี LPG หวั่นกระทบเศรษฐกิจ แนะหนุนลดภาษีให้ใช้มากขึ่น

ที่ศูนย์บริการประชาชน(ฝั่งกพ.) นายสุรศักดิ์ นิตติวัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจก๊าซรถยนต์ไทย และสมาชิกซึ่งประกอบด้วยผู้ประกอบการทุกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับก๊าซ LPG ในภาคขนส่ง กลุ่มผู้ประกอบการอุปกรณ์ติดตั้งระบบก๊าซ LPG และ CNG กลุ่มผู้ประกอบการรับติดตั้ง กลุ่มผู้เซ็นใบรับรองการติดตั้ง กลุ่มผู้ประกอบการปั้มก๊าซ LPG กลุ่มผู้ผลิตถังก๊าซและอุปกรณ์ควบคุมอื่นๆ กลุ่มผู้ประกอบการขนส่งเชิงพาณิชย์ รวมถึงกลุ่มประชาชนผู้ใช้ก๊าซ LPG ในรถยนต์ส่วนบุคคล กว่า 80 คน โดยมีการตั้งโต๊ะรับลงทะเบียนสมาชิกและเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เรื่อง คัดค้านแนวคิดปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตร ณ หัว จ่ายก๊าซ LPG,ภาษีรถยนต์รถใช้ก๊าซ LPG และภาษีนำเข้าอุปกรณ์ระบบก๊าซ LPG ที่ใช้ติดตั้งในรถยนต์ ซึ่งเป็นแนวคิดที่เสนอโดยอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน โดยมีนายสุขสวัสดิ์ สุวรรณวงศ์ หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชน เป็นผู้รับเรื่อง

นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ในต่างประเทศเช่นประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศษ หรือกลุ่มประเทศแสกนดิเนเวีย รวมถึงสหรัฐอเมริกา ต่างส่งเสริมและสนับสนุนด้วยการลดภาษีสรรพสามิต ให้บริการที่จอดรถในที่ชุมชนได้ฟรีหรือลดค่าธรรมเนียบมค่าจอดรถที่ต่ำเป็นพิเศษสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยกาซLPG เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนใช้ก๊าซ LPG และ CNG ในรถยนต์ส่วนบุคคลเพื่อลดมลพิษทางอากาศ เห็นได้ว่าแนวคิดการปรับขึ้นภาษีทั้ง 3 ประเภท สำหรับรถติดตั้งก๊าซ LPG นั้น สวนทางกับนโยบายของต่างประเทศ แม้กระทั่งในประเทศที่ไม่มีทรัพยากรน้ำมันและแหล่งก๊าซธรรมชาติเป็นของตนเอง นอกจากนั้น ยังอาจส่งลผลเสียในภาพรวมต่อประชาชนและสังคมอย่างมากอีกด้วย เนื่องจาก แนวคิดการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต ณ หัวจ่ายอาจทำให้ราคาก๊าซ LPG ภาคขนส่งสูงกว่าภาครัวเรือน จึงอาจทำให้ประชาชนที่มีรายได้น้อย ลักลอบนำแก๊ซหุงต้มไปเติมใรถยนต์ซึ่งเป็นอันตรายและรัฐควบคุมดูแลได้ยาก

แนวคิดปรับขึ้นภาษีรถยนต์ติดตั้งอุปกรณ์ก๊าซ LPG อาจส่งเสริมให้มีการเพิ่มปริมาณรถยนต์ที่ติดตั้งระบบก๊าซแล้ว หลีกเลี่ยงหรือละเลยการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกอย่างถูกต้อง เป็นเหตุให้เกิดการละเว้นการตรวจสภาพประจำปีนำมาซึ่งอันตรายในการใช้งานอีกเช่นกัน ซึ่งทางสมาคมฯ เห็นว่ากรมการขนส่งทางบก ควรพิจารณาออกกฎระเบียบให้รถที่ใช้ระบบก๊าซ LPG และ CNG ต้องได้รับการตรวจสภาพทุกปีและลดภาษีรถยนต์และภาษีป้ายทะเบียนลงตามการลดมลพิษ

แนวคิดให้กรมศุลกากรปรับขึ้นภาษีนำเข้าอุปกรณ์ระบบก๊าซ LPG ซึ่งในปัจจุบันมีการจัดเก็บภาษีนำเข้าสูงสุดถึง 10% อยู่แล้ว ทางสมาคมเห็นว่า สินค้าอุปกรณ์ระบบก๊าซรถยนต์ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย หรือก่อให้เกิดมลพิษ ไม่ใช่สินค้าที่มอมเมาประชาชนและเยาวชน แต่เป็นสินค้าเพื่อใช้ในการประหยัดพลังงาน ทำให้ประชาชนโดยทั่วไปปสามารถใช้พลังงานสะอาด ลดมลพิษทางอากาศ ประหยัดค่าใช้จ่ายในครั้วเรือนหรือธุรกิจได้ ดังนั้นกรมศุลกากรควรพิจารณาปรับลดหรือยกเว้นภาษีสินค้าในกลุ่มนี้ จึงจะเหมาะสม

“หากรัฐบาลส่งสัญญาณกีดกันและไม่ส่งเสริม การใช้ก๊าซ LPG ในภาคขนส่ง จะนำมาซึ่งการสูญเสียในระยะเวลาอันสั้น มูลค่าความเสียหายมูลค่าความเสียหายหมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 3,900ล้านบาทต่อเดือน จากการลดกำลังการผลิต เลิกกิจการ นำไปสู่การว่างงานกว่า 27,000 คนจากทุกกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง พนักงงานตกงานสูญเสียรายได้กว่า 400 ล้านบาทต่อเดือน ” นายสุรศักดิ์ ระบุ
- See more at: http://www.bangkokbiznews.com/news/deta ... h828H.dpuf


ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 19 พฤษภาคม 2558