'บิ๊กตู่' แจงงบปี 59 เน้นกระตุ้น ศก. ยึดหลักพอเพียงในหลวง

[brid.ladawan]

'บิ๊กตู่' แจงงบปี 59 เน้นกระตุ้น ศก. ยึดหลักพอเพียงในหลวง


สนช.ถกร่างงบ 59 จำนวน 2.72 ล้านล้านบาท “บิ๊กตู่” ขึ้นแจง ใช้งบลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และให้ประเทศมีความมั่นคงทุกมิติ นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวง มาเป็นแนวทางปฏิบัติ และพร้อมให้ตรวจสอบการทำงาน...

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 58 ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2559 จำนวน 2.72 ล้านล้านบาท เพิ่มจากปี 2558 จำนวน 145,000 ล้านบาท โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. กล่าวเปิดประชุม ว่า เป็นงบประมาณที่มีวงเงินสูงกว่างบประมาณปีที่ผ่านๆ มา เพื่อต้องการกระตุ้น และเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้ขึ้นชี้แจงหลักการทำงบประมาณต่อที่ประชุม สนช. โดยระบุว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายที่ 2.72 ล้านล้านบาท คิดเป็น 20.4% ของจีดีพี ฐานะการเงินการคลังภายใต้นโยบายเศรษฐกิจดังกล่าวในปี 2559 รัฐบาลคาดว่าจะเก็บรายได้สุทธิได้ทั้งสิ้น 2.49 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2% จากปี 2558 มีการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณที่ 3.9 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 อยู่ภายใต้การประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2559 จะสามารถขยายตัวได้ 3.7-4.7% อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำที่ 1.1-2.1% และมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่ 7,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 2% ของจีดีพี อย่างไรก็ดี ในปี 2559 เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงจากราคาน้ำมัน ซึ่งอาจจะมีผลให้รายได้รัฐลดลง จากการเก็บภาษีสรรพสามิตลดลง การแข็งค่าของเงินบาทที่มีผลกระทบต่อภาคการส่งออก

“เศรษฐกิจไทยในปี 59 ยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อเนื่องจากในปี 58 โดยนโยบายการเงินมีความผ่อนคลายมากขึ้นจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 2 ครั้งติดกันมาอยู่ที่ระดับ 1.50% เพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และความเชื่อมั่นในการที่ภาวะการส่งออกและการใช้จ่ายภาคเอกชนอ่อนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย ทุกอย่างก็เข้าสู่ระบบ สามารถดำเนินการต่อไปได้ แต่การเมืองจะนิ่งแบบนี้ได้นานแค่ไหน ประชาชนและภาคการเมืองก็ต้องมีส่วนร่วมด้วย ส่วนจะนิ่งได้นานแค่ไหนคงตอบไม่ได้"

พร้อมระบุ ในช่วงต่อไปการใช้จ่ายภาครัฐโดยเฉพาะงบลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจะมีความสำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสนับสนุนความเชื่อมั่นของภาคเอกชน อย่างไรก็ดี ฐานะการเงินของประเทศยังถือว่ามีความมั่นคงค่อนข้างมาก เนื่องจากล่าสุดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2558 ยังอยู่ที่ 156,319 ล้านบาท ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมากเป็น 3 เท่าของหนี้ต่างประเทศระยะสั้น

"ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 59 นี้ได้จัดทำขึ้นโดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้ประเทศมีความมั่นคง ประชาชนมั่งคั่งอย่างยั่งยืน โดยมั่นคงทุกมิติ ทุกหน่วยงาน กระทรวง ทบวง กรม สร้างความเข้มแข็งให้ภาคประชาชนเป็นหลัก ให้มีความมั่นคงปลอดภัย และมีความมั่งคั่งในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน โดยยึดหลัก 2 ประการ คือ 1. น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา และ 2. ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางปฏิบัติ และพร้อมให้ตรวจสอบการทำงาน”

มีเพิ่มเติม 5 กระทรวงที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณปี 2559 มากที่สุด ได้แก่ 1. กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 520,132 ล้านบาท 2. กระทรวงมหาดไทย จำนวน 343,132 ล้านบาท 3. กระทรวงกลาโหม จำนวน 207,718 ล้านบาท 4. กระทรวงการคลัง จำนวน 199,328 ล้านบาท และ 5. กระทรวงคมนาคม จำนวน 134,886 ล้านบาท

ขณะที่งบกลางที่เป็นรายจ่ายจัดสรรให้ราชการ หรือรัฐวิสาหกิจไว้ใช้จ่าย มีจำนวน 402,139,412 ล้านบาท ส่วนกระทรวงที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณน้อยที่สุด คือกระทรวงพลังงาน จำนวน 2,045,391 ล้านบาท ทั้งนี้ สนช. เตรียมตั้งกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อพิจารณาปรับลดงบประมาณ จำนวน 50 คน ก่อนจะพิจารณาวาระ 2, 3 ในวันที่ 27 ส.ค.นี้


ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 21 พ.ค. 2558