5 เคล็ดลับ เลือกแพ็กเกจค่าโทร+เน็ตให้คุ้มค่า...ช่วยประหยัดเง

[brid.ladawan]

5 เคล็ดลับ เลือกแพ็กเกจค่าโทร+เน็ตให้คุ้มค่า...ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าคุณได้สบายๆ



ปัจจุบันการใช้มือถือกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ไปเสียแล้ว ดังนั้นเราจึงต้องวางแผนการใช้งานให้คุ้มค่าและตอบโจทย์ตัวเองให้มากที่สุด ฉะนั้น เราต้องมาดูแล้วล่ะว่าแพ็กเกจที่ใช้อยู่ตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้งานของตัวเองหรือเปล่า ต้องสำรวจก่อนว่าตัวเองใช้มือถือเพื่ออะไรบ้าง เน้นหนักไปทางไหน โทรเข้าโทรออกหรือใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่ากัน แล้วปริมาณในการใช้งานล่ะมากหรือน้อยแค่ไหน ค่าบริการที่ต้องจ่ายสอดคล้องกันหรือเปล่า เมื่อสำรวจตัวเองเสร็จแล้ว มาดูกันต่อว่าเราจะประหยัดเงินในกระเป๋าเราได้อย่างไร จะต้องปรับเปลี่ยนแพ็กเกจที่ใช้อยู่ด้วยไหม... 5 เคล็ดลับ เลือกแพ็กเกจค่าโทร + เน็ตให้คุ้มค่านี้ น่าจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าคุณได้อย่างสบายๆ เลยล่ะ

1. ต้องรู้ไลฟ์สไตล์ตัวเองก่อนว่าเป็นคนชอบโทรหรือเน็ตมากกว่ากัน เริ่มสำรวจตัวเองว่าในแต่ละวันเมื่อคุณหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใช้ทำอะไรบ้าง เป็นต้นว่าคุณอาจจะเป็นคนชอบคุย พอพบเจอเรื่องอะไรก็อยากที่จะแชร์จะเม้าท์กับเพื่อน หรือคุณเป็นเจ้าของกิจการซึ่งในหนึ่งวันคุณต้องโทรรับ-สั่งออเดอร์สินค้าบ่อยๆ ฯลฯ แสดงว่าไลฟ์สไตล์คุณน่าจะหนักไปทางโทรมากกว่า แต่ถ้าคุณเน้นเลือกใช้แอพพลิเคชั่นที่มีอยู่เพื่อพูดคุยกับเพื่อน แฟน หรือครอบครัว แน่นอนว่าคุณจะต้องมีปริมาณเน็ตที่มากพอ

2. คุณมีสมาร์ทโฟนไว้ทำอะไรบ้าง แน่นอนว่าคุณคงไม่ใช้เพื่อการสื่อสารเพียงอย่างเดียว เพราะสมัยนี้เทคโนโลยีทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ...ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างการใช้สมาร์ทโฟนซึ่งสามารถทำได้ครอบคลุมแทบจะทุกโหมดไลฟ์สไตล์ในยุคนี้เลยก็ว่าได้ เริ่มจากเรื่องใกล้ตัว อย่างการค้นหาข้อมูลซึ่งทำได้ง่ายและเร็ว, การเล่นเกม, ค้นหาเส้นทาง, ถ่ายภาพ, อัพโหลดข้อมูล, เล่น Social, ชำระค่าสาธารณูปโภค, โอนเงิน, ตามติดละคร กระทั่งดูแลสุขภาพก็ยังทำได้ ซึ่งหลากหลายแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาออกมาเพื่อตอบรับการใช้งานสมาร์ทโฟนที่มากขึ้นเหล่านี้ล้วนแต่ต้องอาศัยการเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายไร้สายอย่าง 3G, 4G หรือ Wi-fi ทั้งสิ้น

3. เดือนๆ หนึ่งใช้ค่าโทรและเล่นเน็ตได้ครบตามแพ็กเกจที่สมัครหรือไม่ อะไรใช้เกิน หรืออะไรไม่ค่อยได้ใช้ เคยไหมที่บ่อยครั้งได้ SMS แจ้งเตือนการใช้งานเน็ตครบตามแพ็กเกจจากนั้นคุณจะใช้เน็ตความเร็วลดลงเหลือ 128 Kbps ไม่ก็ 384 Kbps ช้าแบบนี้แล้วจะทำไง จะขอแชร์ Hotspot จากเพื่อนก็ทำได้แต่คงไม่บ่อย สุดท้ายก็ต้องควักกระเป๋าซื้อแพ็กเกจเสริม แต่ถ้าค่าโทรหมดซะก่อนจะยืมโทรศัพท์เพื่อน วิ่งหาตู้สาธารณะ หรือใช้ส่ง SMS แทน ก็คงไม่ดีแน่ ปัญหาเหล่านี้คงไม่เกิดถ้าคุณใช้ค่าโทรค่าเน็ตตามแพ็กเกจได้ครบพอดีในทุกรอบบิล การซื้อแพ็กเกจเสริมก็คงไม่จำเป็น แต่ในความเป็นจริงหลายคนเลือกแพ็กเกจที่ไม่เหมาะกับตัวเอง ค่าเน็ตไม่พอค่าโทรเหลือ ไม่ก็ค่าโทรไม่พอแต่เน็ตเหลือ หรือทั้งค่าโทรค่าเน็ตไม่พอทั้งคู่ ดังนั้นคงต้องกลับมาเช็กดู SMS แจ้งเตือนการใช้งานในแต่ละเดือนของคุณที่ผู้ให้บริการเครือข่ายของคุณส่งมาแล้วล่ะ เพื่อจะได้วางแผนการใช้งานให้ตรงความต้องการและคุ้มค่ามากที่สุด

4. เป็นคนชอบใช้แอพพลิเคชั่นจัดการเรื่องการเงิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเช็ก การใช้งานหรือเช็กยอดค่าใช้จ่ายหรือเปล่า เดี๋ยวนี้ผู้ให้บริการเครือข่ายยังเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าด้วยการพัฒนา app สำหรับตรวจสอบการใช้งานที่สามารถเข้าไปตรวจเช็กได้ตลอด 24 ชม. ที่นี่จะเช็กค่าโทรค่าเน็ตเมื่อไรก็สามารถทำได้ทันที ฉะนั้น ก็ควรดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในเครื่องเพื่อเป็นการช่วยเตือนตัวเองอีกทาง เมื่อรู้ได้ก่อนว่าค่าโทรค่าเน็ตกำลังจะหมดเราจะได้วางแผนการใช้งานง่ายขึ้น เช่น ช่วงไหนรู้สึกว่าใช้งานโทรเยอะก็เข้าไปตรวจสอบซะก่อน แล้วกลับมาจัดการ ปรับการโทรให้น้อยลง อาจจะเปลี่ยนเป็นวิธีการคุยผ่าน app เช่น LINE, WeChat, Messenger หรือ Kakao Talk ฯลฯ แต่ถ้ารู้สึกว่าใช้เน็ตเยอะก็ควรสลับใช้งานให้น้อยลงอาจจะใช้วิธีเข้าเว็บไซต์ที่เป็น mobile version การไม่ดูคอนเทนต์ที่เป็นวิดีโอ ปิดการใช้งาน Mobile data ในบางช่วง หรือเลือกเชื่อมต่อ Wi-fi ในพื้นที่ที่มีบริการ เป็นต้น ซึ่งวิธีการ ปรับ หรือสลับการใช้งานเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าได้นั่นเอง

5. สุดท้ายก็หันกลับมาสำรวจความพร้อมทางการเงินแค่ไหน (ง่ายๆ ก็คือสำรวจเงินในกระเป๋าเรานั่นเอง) อีกมุมหนึ่งนอกจากผู้ใช้บริการแล้วผู้ให้บริการเองก็ย่อมทราบดีถึงพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า จะเห็นได้จากแพ็กเกจต่างๆ ที่ผู้ให้บริการพยายามออกแพ็กเกจค่าโทรค่าเน็ตเพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งาน ซึ่งแพ็กเกจที่มากมายและหลากหลายนี่เองที่ออกมาเพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค แต่อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือเราต้องสำรวจเงินในกระเป๋าและเลือกแพ็กเกจให้พอดี ไม่มากไปหรือน้อยไปจนไม่พอ นำ 4 ข้อข้างต้นมาประกอบการพิจารณาเลือกด้วย คุณเองจะได้ประหยัดเงินในกระเป๋าได้อย่างสบายๆ

เมื่อคุณรู้ว่าคุณมีการใช้งานรูปแบบใดมากที่สุด คุณก็จะเลือกแพ็กเกจได้เหมาะสมยิ่งขึ้น เช่น ชอบ Social เดี๋ยวนี้ก็มีแพ็กเกจเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบโซเชียลโดยเฉพาะ, ชอบท่องโลกอินเทอร์เน็ตก็มีแพ็กเกจเฉพาะเน็ตให้ใช้เยอะๆ, ใช้ทั้งโทรและเน็ตเยอะพอๆ กัน ก็มีแพ็กเกจให้เลือกมากมาย ทั้งนี้ ผู้ให้บริการบางราย เค้ารู้พฤติกรรมของผู้ใช้งานก็มีแพ็กเกจที่ยืดหยุ่น สามารถปรับการใช้งานโทรและเน็ต เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าให้ผู้ใช้งานมากที่สุด อย่างไรลองหยุดสักนิด ค้นหาตัวเองให้เจอ...แล้วคุณจะพบว่า คุณเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวคุณเองหรือยัง



ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 5 มิ.ย. 2558