Page 1 of 1

“Face2Face” เทคโนโลยีใหม่ ควบคุมสีหน้าและการขยับปากพูด

Posted: 25 Mar 2016, 15:44
by brid.ladawan
“Face2Face” เทคโนโลยีใหม่ ควบคุมสีหน้าและการขยับปากพูด

Image

หลายคนคงเคยเล่น Face Swap แอปพลิเคชันที่กำลังมาแรง เป็นแอปที่สร้างความบันเทิงโดยการสลับใบหน้าของกันละกันได้ ที่หลายคนบอกว่าทั้งฮาทั้งน่ากลัวปนๆกันไป สร้างเสียงหัวเราะได้ไม่น้อยเลย และตอนนี้ก็ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีไปอีกขั้น เพิ่มความฮาให้คุณถึงขีดสุดจริงๆ ด้วยเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Face2Face เทคโนโลยีนี้เป็นงานวิจัยด้านคอมพิวเตอร์ ที่จับเอาท่าทางการแสดงสีหน้าของคนคนหนึ่งในคลิปวิดีโอ และลงมือให้คนอีกคนนึงเข้ามาควบคุมเปลี่ยนการขยับปากและการแสดงสีหน้าของคนในวิดีโอนั้นๆได้

Face2Face เป็นงานวิจัยร่วมกันระหว่าง University of Erlangen – Nuremberg , Max Planck Institute for Informatics และ Stanford University โดยทีมวิจัยได้พัฒนาระบบตรวจจับใบหน้าของต้นแบบเพื่อจับการแสดงสีหน้า การขยับริมฝีปากขณะพูด และอิริยาบถทุกอย่างที่แสดงออกมาทางสีหน้า แล้วทำการแก้ไขบุคคลในคลิปวิดีโอโดยใช้บุคคลอื่นเข้ามาควบคุม ให้แสดงสีหน้าและขยับปากตามต้นแบบได้แบบสดๆเลย

https://www.youtube.com/watch?v=ohmajJTcpNk

หลายคนคงเคยเล่น Face Swap แอปพลิเคชันที่กำลังมาแรง เป็นแอปที่สร้างความบันเทิงโดยการสลับใบหน้าของกันละกันได้ ที่หลายคนบอกว่าทั้งฮาทั้งน่ากลัวปนๆกันไป สร้างเสียงหัวเราะได้ไม่น้อยเลย และตอนนี้ก็ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีไปอีกขั้น เพิ่มความฮาให้คุณถึงขีดสุดจริงๆ ด้วยเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Face2Face เทคโนโลยีนี้เป็นงานวิจัยด้านคอมพิวเตอร์ ที่จับเอาท่าทางการแสดงสีหน้าของคนคนหนึ่งในคลิปวิดีโอ และลงมือให้คนอีกคนนึงเข้ามาควบคุมเปลี่ยนการขยับปากและการแสดงสีหน้าของคนในวิดีโอนั้นๆได้

Face2Face เป็นงานวิจัยร่วมกันระหว่าง University of Erlangen – Nuremberg , Max Planck Institute for Informatics และ Stanford University โดยทีมวิจัยได้พัฒนาระบบตรวจจับใบหน้าของต้นแบบเพื่อจับการแสดงสีหน้า การขยับริมฝีปากขณะพูด และอิริยาบถทุกอย่างที่แสดงออกมาทางสีหน้า แล้วทำการแก้ไขบุคคลในคลิปวิดีโอโดยใช้บุคคลอื่นเข้ามาควบคุม ให้แสดงสีหน้าและขยับปากตามต้นแบบได้แบบสดๆเลยหละค่ะ

งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่า การทำให้บุคคลต้นแบบในคลิปมีการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าและการขยับปากนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยหากใช้เทคโนโลยี Face2Faceมาช่วย เพราะต้นแบบก็แค่เพียงนั่งอยู่หน้ากล้องแล้วแสดงออกทางสีหน้าหรือพูดสิ่งต่างๆ ให้กล้องจับภาพได้ แค่นั้นก็ทำให้ภาพของคนในคลิปเกิดการเปลี่ยนไปพร้อมๆกัน

Image

เทคโนโลยี Face2Face ยังคงเป็นเพียงงานวิจัยที่ไม่ใช่ใครจะเอาไปใช้งานในการสร้างความเสียหายแก่บุคคลหรือเรื่องราวในด้านลบได้ และก็ยังมีข้อสังเกตเล็กๆน้อยๆที่พอจะจับความผิดปกติได้ เพราะเราจะเห็นความไม่เนียนของการแก้ไขภาพบุคคลต้นแบบในคลิป ต้องขอบคุณงานวิจัย Face2Face ที่ทำให้เราต้องหัดแยกแยะวิเคราะห์เนื้อหาข่าวหรือเรื่องราวที่ได้ยินได้ฟังกันอยู่ทุกวันว่าเท็จจริงประการใด ดังนั้นเราจึงควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีเสียก่อนที่จะตัดสินใจเชื่อในเรื่องนั้นๆ ตั้งสติก่อนแชร์ก่อนโพสต์หรือก่อนจะว่ากล่าวบุคคลอื่น




ที่มา : https://www.beartai.com/news/itnews/90392

25/03/2016