Facebook Connectivity Lab ได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อให้การเชื่อมต่อระบบเครือข่ายในโลกนี้มีความเร็วสูงขึ้น และทั่วถึงมากยิ่งขึ้น และประกาศเปิดตัวเทคโนโลยีด้วยกัน 2 โครงการ ได้แก่ Terragraph และ Project ARIES ที่มีแผนจะเปิดให้เหล่าผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วโลกเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ในอนาคต ดังนี้
Terragraph เทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายบนย่านความถี่ 60GHz แบบ Multi-node
Terragraph คือเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายบนย่านความถี่ 60GHz ที่ทำงานแบบ Multi-node เพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตภายในเขตชุมชนที่มีผู้ใช้งานอยู่อย่างหนาแน่น โดยออกแบบมาเพื่อให้ผลิตเป็นจำนวนมากได้ด้วยค่าใช้จ่ายที่ต่ำ
ถึงแม้ย่านความถี่ 60GHz จะถูกดูดกลืนได้ง่ายด้วยออกซิเจนและน้ำ แต่เหล่าประเทศต่างๆ ก็ได้เริ่มพิจารณาการใช้ย่านความถี่ระดับนี้กันแล้วภายใต้ชื่อ V-band ซึ่งเป็นย่านความถี่ที่ไม่ต้องขออนุญาตก่อนใช้งานเช่นเดียวกับย่านความถี่ 2.4GHz และ 5GHz แต่บนเครือข่ายไร้สายย่านความถี่ 60GHz นี้ สามารถมี Bandwidth สูงสุดได้ถึง 7GHz และยังมีแนวโน้มจะขยายเพิ่มเป็น 14GHz ได้อีกด้วย
สำหรับเทคโนโลยีการเชื่ือมต่อหลักที่ถูกเลือกใช้บน Terragraph นี้คือ WiGig ซึ่งเป็นมาตรฐาน Wi-Fi แบบใหม่สำหรับใช้ภายในห้องและภายในอาคารซึ่งรองรับ Bandwidth จำนวนมากนั่นเอง และด้วยการอาศัยพฤติกรรมการถูกดูดซับสัญญาณอันเฉพาะตัวของย่านความถี่ 60GHz นี้ ทำมีโอกาสเกิดการกวนกันของสัญญาณน้อยลงตามไปด้วยและเหมาะสมที่จะใช้ภายในอาคาร
แต่สิ่งที่ Terragraph ได้พัฒนาต่อยอดขึ้นมาก็คือการออกแบบ Phase Array Antenna เพื่อให้ย่านความถี่ 60GHz นี้ถูกจ่ายสัญญาณออกไปได้เป็นระยะไกลขึ้น และสามารถใช้งานบนท้องถนนได้ไปด้วย
นอกจากนี้ Facebook ยังได้ใส่เทคโนโลยีระบบเครือข่ายใหม่ๆ ลงไปใน Terragraph ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ IPv6 Node ที่ทำงานได้เสมือนเป็นระบบ Software-Defined Networking (SDN) โดยสามารถบริหารจัดการได้ผ่าน Cloud พร้อมกับ Reouting Protocol พิเศษที่สามารถค้นหาเส้นทางใหม่ได้อย่างรวดเร็วเมื่อการเชื่อมต่อขาดหาย รวมถึงยังมีการออกแบบ MAC Layer ใหม่เพื่อแก้ปัญหาของ TCP/IP ด้วย TDMA-TDD MAC ที่มีความเร็วมากกว่าเดิมถึง 6 เท่าอีกด้วย
Project ARIES โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานคลื่นความถี่
Project ARIES เป็นโครงการที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้สามารถใช้ย่านความถี่ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยใช้พลังงานที่ต่ำลง โดยการออกแบบ Base Station ที่มีเสา Antenna มากถึง 96 ต้นเพื่อรองรับการรับส่งข้อมูลถึง 24 Stream บนคลื่นสัญญาณชุดเดียวกัน โดยปัจจุบันนี้เทคโนโลยีอื่นๆ สามารถทำความเร็วได้เพียง 71 bps/HZ ในขณะที่ Project ARIES นั้นสามารถทำความเร็วได้เกินกว่า 100bps/Hz แล้ว
ด้วยการออกแบบในลักษณะที่คล้ายคลึงกับ Massive MIMO ของ 5G ทำให้ Project ARIES ที่มีเสาอากาศมากถึง 96 ต้นนี้ทำ Spatial Multiplexing เพื่อให้บริการผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากได้ รวมถึงยังได้ผสานเทคโนโลยีอื่นๆ อย่าง Beamforming เพื่อเพิ่มความแรงสัญญาณ
ปัจจุบันจากการทดสอบพบว่า Project ARIES นี้สามารถทำงานได้ดีกว่าเทคโนโลยี 4G ถึง 10 เท่าเลยทีเดียว
ที่มา : https://www.techtalkthai.com/facebook-t ... for-telco/
18/04/2016