เสริมความเป็น Smart Home ในบ้านคุณด้วย Perseus กระจกอัจฉริยะ
Posted: 05 Aug 2016, 08:42
เสริมความเป็น Smart Home ในบ้านคุณด้วย Perseus กระจกอัจฉริยะ
ด้วยการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของ เทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้มีความรู้สึกว่า ถ้าหากสิ่งของ เครื่องใช้ภายในบ้านของเรา เริ่มมีการเปลี่ยนไป โดยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการพัฒนา เพื่อให้ก้าวทันยุคสมัยจนกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า "Smart Home" มันก็คงไม่แปลกอะไรเลย จริงไหม?
จากทุกสิ่ง ทุกอย่าง ที่มนุษย์เป็นผู้ประดิษฐ์ หรือ พัฒนาความสามารถเพิ่มขึ้น จากสิ่งของเดิมๆ ยิ่งทำให้รู้สึกว่ายุคสมัยแห่ง "Smart Home" เป็นสิ่งที่ใกล้ตัวมากยิ่งขึ้น นั่นเพราะ ล่าสุดได้มีคนคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ ที่มีชื่อว่า "Perseus" หรือก็คือ "กระจกอัจฉริยะ" อีกหนึ่งอุปกรณ์ Hands-Free ภายในบ้าน ที่มีความสามารถในการช่วยอำนวยความสะดวก ให้กับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น
โดย ความสามารถของ Perseus กระจกอัจฉริยะ ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มสีสันให้บ้านของคุณดูเป็น Smart Home มากยิ่งขึ้น ก็คือ ความสามารถในการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เพื่อดูวีดีโอสตรีมมิ่ง หรือ เล่นแอพพลิเคชั่น พร้อมกับการส่องกระจกได้ทันที โดยที่ผู้ใช้ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็ก ผู้ชาย หรือ ผู้หญิง จะได้ไม่ต้องยุ่งยากกับการมองสมาร์ทโฟนสลับกับส่องกระจกอีกต่อไป
นอกจากนี้สำหรับ ผู้หญิง หรือ ผู้ชายคนไหน ที่ชื่นชอบในการถ่ายภาพเซลฟี่ แต่อยากหามุมมองในการถ่ายภาพใหม่ๆ ที่สมาร์ทโฟนให้ไม่ได้ Perseus กระจกอัจฉริยะ ก็มีกล้องถ่ายภาพ ที่มีความละเอียดในการถ่ายภาพระดับ HD พร้อมกับ ฟิลเตอร์แต่งภาพมาให้ใช้งานกันอีกด้วย
ความสามารถของ Perseus กระจกอัจฉริยะ
กล้องที่มีความละเอียดในระดับ HD
บอกสภาพภูมิอากาศ
เชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ และ โซเชียลมีเดียได้ทันที
ดูวีดีโอสตรีมมิ่ง (Streaming)
รายงานข้อมูลบนสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็น ข้อความ, สายเข้า (หากมีการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน)
รองรับการใช้งานคำสั่งเสียง
คุณสมบัติของ "Perseus" กระจกอัจฉริยะ มันมาพร้อมกับ
กระจกป้องกันการเกิดไอน้ำ
ระบบปฏิบัติการ 2 GHZ Quad core
RAM 2 GB
รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth 4.0
มีไมโครโฟนคุณภาพสูง
ระบบคำสั่งเสียง คล้ายระบบบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนชั้นนำ
และถ้าหากใครต้องการอุปกรณ์ "Perseus" กระจกอัจฉริยะ เพื่อเสริมให้บ้านของตนเองเป็น "Smart Home" มากยิ่งขึ้นก็สามารถเข้าไปสั่งซื้อ หรือสอบถามรายละเอียด ได้ที่เว็บระดมทุน Kickstarter ได้ทันที โดยราคาของมันอยู่ที่ $200 (หรือประมาณ 6,000 บาทเท่านั้น)
ที่มา http://bit.ly/2awlQEx
ด้วยการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของ เทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้มีความรู้สึกว่า ถ้าหากสิ่งของ เครื่องใช้ภายในบ้านของเรา เริ่มมีการเปลี่ยนไป โดยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการพัฒนา เพื่อให้ก้าวทันยุคสมัยจนกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า "Smart Home" มันก็คงไม่แปลกอะไรเลย จริงไหม?
จากทุกสิ่ง ทุกอย่าง ที่มนุษย์เป็นผู้ประดิษฐ์ หรือ พัฒนาความสามารถเพิ่มขึ้น จากสิ่งของเดิมๆ ยิ่งทำให้รู้สึกว่ายุคสมัยแห่ง "Smart Home" เป็นสิ่งที่ใกล้ตัวมากยิ่งขึ้น นั่นเพราะ ล่าสุดได้มีคนคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ ที่มีชื่อว่า "Perseus" หรือก็คือ "กระจกอัจฉริยะ" อีกหนึ่งอุปกรณ์ Hands-Free ภายในบ้าน ที่มีความสามารถในการช่วยอำนวยความสะดวก ให้กับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น
โดย ความสามารถของ Perseus กระจกอัจฉริยะ ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มสีสันให้บ้านของคุณดูเป็น Smart Home มากยิ่งขึ้น ก็คือ ความสามารถในการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เพื่อดูวีดีโอสตรีมมิ่ง หรือ เล่นแอพพลิเคชั่น พร้อมกับการส่องกระจกได้ทันที โดยที่ผู้ใช้ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็ก ผู้ชาย หรือ ผู้หญิง จะได้ไม่ต้องยุ่งยากกับการมองสมาร์ทโฟนสลับกับส่องกระจกอีกต่อไป
นอกจากนี้สำหรับ ผู้หญิง หรือ ผู้ชายคนไหน ที่ชื่นชอบในการถ่ายภาพเซลฟี่ แต่อยากหามุมมองในการถ่ายภาพใหม่ๆ ที่สมาร์ทโฟนให้ไม่ได้ Perseus กระจกอัจฉริยะ ก็มีกล้องถ่ายภาพ ที่มีความละเอียดในการถ่ายภาพระดับ HD พร้อมกับ ฟิลเตอร์แต่งภาพมาให้ใช้งานกันอีกด้วย
ความสามารถของ Perseus กระจกอัจฉริยะ
กล้องที่มีความละเอียดในระดับ HD
บอกสภาพภูมิอากาศ
เชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ และ โซเชียลมีเดียได้ทันที
ดูวีดีโอสตรีมมิ่ง (Streaming)
รายงานข้อมูลบนสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็น ข้อความ, สายเข้า (หากมีการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน)
รองรับการใช้งานคำสั่งเสียง
คุณสมบัติของ "Perseus" กระจกอัจฉริยะ มันมาพร้อมกับ
กระจกป้องกันการเกิดไอน้ำ
ระบบปฏิบัติการ 2 GHZ Quad core
RAM 2 GB
รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth 4.0
มีไมโครโฟนคุณภาพสูง
ระบบคำสั่งเสียง คล้ายระบบบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนชั้นนำ
และถ้าหากใครต้องการอุปกรณ์ "Perseus" กระจกอัจฉริยะ เพื่อเสริมให้บ้านของตนเองเป็น "Smart Home" มากยิ่งขึ้นก็สามารถเข้าไปสั่งซื้อ หรือสอบถามรายละเอียด ได้ที่เว็บระดมทุน Kickstarter ได้ทันที โดยราคาของมันอยู่ที่ $200 (หรือประมาณ 6,000 บาทเท่านั้น)
ที่มา http://bit.ly/2awlQEx