ไอบีเอ็ม ชูแพลตฟอร์ม “วัตสัน” เอื้อสตาร์ทอัปเข้าถึงเทคโนโลยี
Posted: 09 Aug 2016, 09:22
ไอบีเอ็ม ชูแพลตฟอร์ม “วัตสัน” เอื้อสตาร์ทอัปเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง
ไอบีเอ็ม เข็นแพลตฟอร์มใหญ่ “ไอบีเอ็ม วัตสัน (IBM WATSON)” สู่คลาวด์ ลั่นปลุกกระแสค็อกนิทีฟในไทยเต็มตัว จับมือพันธมิตรประเดิมแคมเปญจัดการประกวดแผนธุรกิจไอบีเอ็ม วัตสัน ดันนักศึกษาไทยสู่แวดวงฟินเทคด้วยแพลตฟอร์มวัตสัน ผสานแผนธุรกิจและเทคโนโลยีให้เป็นหนึ่งเดียว
นางพรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ไอบีเอ็ม วัตสัน เป็นเทคโนโลยีค็อกนิทีฟที่ล้ำสมัย ด้วยความสามารถของการเข้าใจสภาพแวดล้อมทั้งหมด จากเดิมข้อมูลกว่า 88% ที่เกิดขึ้นคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถเข้าใจ แต่วัตสันสามารถเข้าใจ และวิเคราะห์ความรู้สึก ตลอดจนตอบโต้ และให้คำแนะนำที่เหมาะสมให้กับคู่สนทนาได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ วัตสัน ยังสามารถเรียนรู้ และสั่งสมองค์ความรู้จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เพื่อเพิ่มความสามารถ และเข้าใจบริบทของมนุษย์มากยิ่งขึ้น
โดยไอบีเอ็ม ได้ยกระดับความสามารถของวัตสัน พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีของไอบีเอ็ม หลากหลายรายการ เข้าไปอยู่ใน “ไอบีเอ็ม บลูมิกซ์” (IBM Bluemix) ซึ่งเป็นระบบคลาวด์ที่สามารถเข้าถึงได้จากหลากหลายอุปกรณ์ นอกจากนี้ ยังเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมเครื่องมือของการวิเคราะห์ โดยสามารถเชื่อมต่อด้วย APIs ด้วยต้นทุนตามการใช้งานจริง ซึ่งเหมาะสำหรับนักพัฒนา หรือเทคสตาร์ทอัปที่ต้องการระบบค็อกนิทีฟในการประมวลผลตามโปรเจกต์ที่ต้องการ โดยไม่ต้องลงทุนด้านเทคโนโลยีชั้นสูง
“วัตสัน เป็นแพลตฟอร์มประมวลผลโดยวิธีการจำลองกระบวนการคิดของมนุษย์ด้วยเทคโนโลยีค็อกนิทีฟ ซึ่งทำให้เข้าใจภาษา และอารมณ์ที่เกิดขึ้นของมนุษย์ในหลากหลายรูปแบบ จนสามารถตั้งสมมุติฐาน และเรียนรู้ได้อย่างไม่มีสิ้นสุด และต่อยอดไปสู่การคิด และการตัดสินใจ เพื่อแก้ปัญหาที่ท้าทายในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาในอดีต ซึ่งความสามารถนี้จะกลายเป็นกุญแจสำคัญของการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ไหลเข้าออกอย่างมหาศาลในแต่ละวัน อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คน และองค์กรในทุกอุตสาหกรรม และทุกประเทศทั่วโลก โดยคาดการณ์ว่าในปี 2018 กว่า 50% ของประชากรในโลกจะใช้สินค้า และบริการที่สอดแทรกด้วยระบบค็อกนิทีฟอย่างแน่นอน”
ไอบีเอ็ม ชูแพลตฟอร์ม “วัตสัน” เอื้อสตาร์ทอัปเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง
ทั้งนี้ มีการจัดตั้ง ไอบีเอ็ม วัตสัน ที่สิงคโปร์ เพื่อเชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ราว 5,000 คนทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อเป็นฐานความรู้ในการยกระดับธุรกิจของกลุ่มประเทศอาเซียน รวมถึงประเทศไทย ทั้งองค์กรขนาดใหญ่ สตาร์ทอัป หรือผู้ให้บริการระบบซอฟต์แวร์ ทั้งในรูปแบบแพลตฟอร์มอินโนเวชันที่มีฐานข้อมูลอุตสาหกรรมจำนวนมหาศาลรองรับ แพลตฟอร์มวัตสันเฮลท์คลาวด์ (Watson Health Cloud Platform) แพลตฟอร์มวัตสันไอโอที (Watson IoT Platform) และแพลตฟอร์มบริการที่คิดค่าใช้จ่ายตามลักษณะการใช้งาน (Watson-as-a-Service) โดยปัจจุบันมีวัตสันเอพีไอ (Application Program Interface : API) มากกว่า 30 บริการ บนแพลตฟอร์มคลาวด์ไอบีเอ็ม บลูมิกซ์ ซึ่งคาดว่าจะมีถึง 50 บริการ ภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ ไอบีเอ็ม ได้จับมือกับดิจิทัล เวนเจอร์ส จัดการประกวดแผนธุรกิจไอบีเอ็ม วัตสัน (IBM Watson Business Case Competition) โดยมีโจทย์ คือ เรื่อง “ฟินเทค” เพื่อเป็นเวทีให้นักศึกษา และสตาร์ทอัปไทยได้เรียนรู้ และแสดงศักยภาพ ทั้งด้านการตลาด และการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญจากไอบีเอ็ม วัตสัน และไอบีเอ็ม ประเทศไทย รวมถึงดิจิทัล เวนเจอร์ส ศศินทร์ สํานักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (ซิป้า) และเอ็มเฟค ซึ่งเป็นพันธมิตรในกิจกรรมครั้งนี้ ร่วมให้คำปรึกษาแก่ทุกทีมตั้งแต่วันแรกที่ได้รับเลือกเข้าร่วมการแข่งขัน โดยรวมแต่ละทีมจะมีโค้ช 3-5 คน เพื่อแนะนำมุมมองรอบด้านตลอดระยะเวลาร่วมเดือน ทั้งในมุมเทคโนโลยีค็อกนิทิฟ ฟินเทค ไอที และศักยภาพในเชิงธุรกิจ โดยการแข่งขันจะมีขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมไปจนถึงเดือนตุลาคม
โดยทีมชนะเลิศนอกจากจะได้เงินลงทุนจากธนาคารที่สนใจแล้ว ยังจะได้รับการพิจารณาเข้าร่วมแข่งขันในไอบีเอ็ม อาเซียน สมาร์ทแคมป์ พร้อมร่วมเปิดมุมมองธุรกิจ และเทคโนโลยี รวมถึงแสวงหาโอกาสการต่อยอดธุรกิจเพิ่มเติมที่ “มหกรรมลอนช์” ซึ่งเป็นงานสตาร์ทอัปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจัดขึ้นทุกปีที่ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดโครงการได้ที่เว็บไซต์ http://wbcc.mybluemix.net
ที่มา http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewN ... 0000077589
ไอบีเอ็ม เข็นแพลตฟอร์มใหญ่ “ไอบีเอ็ม วัตสัน (IBM WATSON)” สู่คลาวด์ ลั่นปลุกกระแสค็อกนิทีฟในไทยเต็มตัว จับมือพันธมิตรประเดิมแคมเปญจัดการประกวดแผนธุรกิจไอบีเอ็ม วัตสัน ดันนักศึกษาไทยสู่แวดวงฟินเทคด้วยแพลตฟอร์มวัตสัน ผสานแผนธุรกิจและเทคโนโลยีให้เป็นหนึ่งเดียว
นางพรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ไอบีเอ็ม วัตสัน เป็นเทคโนโลยีค็อกนิทีฟที่ล้ำสมัย ด้วยความสามารถของการเข้าใจสภาพแวดล้อมทั้งหมด จากเดิมข้อมูลกว่า 88% ที่เกิดขึ้นคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถเข้าใจ แต่วัตสันสามารถเข้าใจ และวิเคราะห์ความรู้สึก ตลอดจนตอบโต้ และให้คำแนะนำที่เหมาะสมให้กับคู่สนทนาได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ วัตสัน ยังสามารถเรียนรู้ และสั่งสมองค์ความรู้จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เพื่อเพิ่มความสามารถ และเข้าใจบริบทของมนุษย์มากยิ่งขึ้น
โดยไอบีเอ็ม ได้ยกระดับความสามารถของวัตสัน พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีของไอบีเอ็ม หลากหลายรายการ เข้าไปอยู่ใน “ไอบีเอ็ม บลูมิกซ์” (IBM Bluemix) ซึ่งเป็นระบบคลาวด์ที่สามารถเข้าถึงได้จากหลากหลายอุปกรณ์ นอกจากนี้ ยังเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมเครื่องมือของการวิเคราะห์ โดยสามารถเชื่อมต่อด้วย APIs ด้วยต้นทุนตามการใช้งานจริง ซึ่งเหมาะสำหรับนักพัฒนา หรือเทคสตาร์ทอัปที่ต้องการระบบค็อกนิทีฟในการประมวลผลตามโปรเจกต์ที่ต้องการ โดยไม่ต้องลงทุนด้านเทคโนโลยีชั้นสูง
“วัตสัน เป็นแพลตฟอร์มประมวลผลโดยวิธีการจำลองกระบวนการคิดของมนุษย์ด้วยเทคโนโลยีค็อกนิทีฟ ซึ่งทำให้เข้าใจภาษา และอารมณ์ที่เกิดขึ้นของมนุษย์ในหลากหลายรูปแบบ จนสามารถตั้งสมมุติฐาน และเรียนรู้ได้อย่างไม่มีสิ้นสุด และต่อยอดไปสู่การคิด และการตัดสินใจ เพื่อแก้ปัญหาที่ท้าทายในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาในอดีต ซึ่งความสามารถนี้จะกลายเป็นกุญแจสำคัญของการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ไหลเข้าออกอย่างมหาศาลในแต่ละวัน อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คน และองค์กรในทุกอุตสาหกรรม และทุกประเทศทั่วโลก โดยคาดการณ์ว่าในปี 2018 กว่า 50% ของประชากรในโลกจะใช้สินค้า และบริการที่สอดแทรกด้วยระบบค็อกนิทีฟอย่างแน่นอน”
ไอบีเอ็ม ชูแพลตฟอร์ม “วัตสัน” เอื้อสตาร์ทอัปเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง
ทั้งนี้ มีการจัดตั้ง ไอบีเอ็ม วัตสัน ที่สิงคโปร์ เพื่อเชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ราว 5,000 คนทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อเป็นฐานความรู้ในการยกระดับธุรกิจของกลุ่มประเทศอาเซียน รวมถึงประเทศไทย ทั้งองค์กรขนาดใหญ่ สตาร์ทอัป หรือผู้ให้บริการระบบซอฟต์แวร์ ทั้งในรูปแบบแพลตฟอร์มอินโนเวชันที่มีฐานข้อมูลอุตสาหกรรมจำนวนมหาศาลรองรับ แพลตฟอร์มวัตสันเฮลท์คลาวด์ (Watson Health Cloud Platform) แพลตฟอร์มวัตสันไอโอที (Watson IoT Platform) และแพลตฟอร์มบริการที่คิดค่าใช้จ่ายตามลักษณะการใช้งาน (Watson-as-a-Service) โดยปัจจุบันมีวัตสันเอพีไอ (Application Program Interface : API) มากกว่า 30 บริการ บนแพลตฟอร์มคลาวด์ไอบีเอ็ม บลูมิกซ์ ซึ่งคาดว่าจะมีถึง 50 บริการ ภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ ไอบีเอ็ม ได้จับมือกับดิจิทัล เวนเจอร์ส จัดการประกวดแผนธุรกิจไอบีเอ็ม วัตสัน (IBM Watson Business Case Competition) โดยมีโจทย์ คือ เรื่อง “ฟินเทค” เพื่อเป็นเวทีให้นักศึกษา และสตาร์ทอัปไทยได้เรียนรู้ และแสดงศักยภาพ ทั้งด้านการตลาด และการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญจากไอบีเอ็ม วัตสัน และไอบีเอ็ม ประเทศไทย รวมถึงดิจิทัล เวนเจอร์ส ศศินทร์ สํานักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (ซิป้า) และเอ็มเฟค ซึ่งเป็นพันธมิตรในกิจกรรมครั้งนี้ ร่วมให้คำปรึกษาแก่ทุกทีมตั้งแต่วันแรกที่ได้รับเลือกเข้าร่วมการแข่งขัน โดยรวมแต่ละทีมจะมีโค้ช 3-5 คน เพื่อแนะนำมุมมองรอบด้านตลอดระยะเวลาร่วมเดือน ทั้งในมุมเทคโนโลยีค็อกนิทิฟ ฟินเทค ไอที และศักยภาพในเชิงธุรกิจ โดยการแข่งขันจะมีขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมไปจนถึงเดือนตุลาคม
โดยทีมชนะเลิศนอกจากจะได้เงินลงทุนจากธนาคารที่สนใจแล้ว ยังจะได้รับการพิจารณาเข้าร่วมแข่งขันในไอบีเอ็ม อาเซียน สมาร์ทแคมป์ พร้อมร่วมเปิดมุมมองธุรกิจ และเทคโนโลยี รวมถึงแสวงหาโอกาสการต่อยอดธุรกิจเพิ่มเติมที่ “มหกรรมลอนช์” ซึ่งเป็นงานสตาร์ทอัปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจัดขึ้นทุกปีที่ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดโครงการได้ที่เว็บไซต์ http://wbcc.mybluemix.net
ที่มา http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewN ... 0000077589