Nokia 6 สมาร์ทโฟนคืนวงการของอดีตยักษ์ใหญ่ กับ 6 จุดเด่น
Posted: 17 Jan 2017, 09:29
Nokia 6 สมาร์ทโฟนคืนวงการของอดีตยักษ์ใหญ่ กับ 6 จุดเด่นที่ให้คุณได้มากกว่าสมาร์ทโฟนระดับกลางทั่วไป
หากจะพูดถึงสมาร์ทโฟนที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้น Nokia 6 สมาร์ทโฟน Android รุ่นแรกที่ Nokia ส่งเข้ามาประเดิมการหวนคืนวงการ แม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่สเปกไม่หวือหวาแต่ก็ไม่น้อยหน้าแบรนด์อื่นและยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน คุณสมบัติในบางจุดยังโดดเด่นกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันอีกด้วย จุดเด่นที่ว่านี้จะมีอะไรบ้างเราไปดูกันเลยครับ
1. RAM มากกว่าสมาร์ทโฟนระดับกลางทั่วไป
[imghttps://lh3.googleusercontent.com/T4SNrQzTHohTDtGJLelCyJCuoPXn4ZzlYDq0p4K9AUTmBs7wL0_rECTSZ7WFZQUGJ4AQx_d5DztF4EDd8ep7pbL5Dspyz2qYtZve_TBhZ_VgYJwIUmGwnjKolQvvoLb6m_um-E4s[/img]
Nokia 6 มี RAM มาให้ถึง 4 GB จัดว่าสูงมากเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นอื่นๆ และเท่ากับสมาร์ทโฟนเรือธงบางรุ่นด้วยซ้ำเช่น Samsung Galaxy S7, Google Pixel XL และ LG V20 ใครชอบสมาร์ทโฟน RAM เยอะๆ Nokia 6 ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
2. เพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้จุใจกว่า
แม้ว่า Nokia 6 จะมีออกมาเพียงรุ่นเดียวคือรุ่นความจุ 64 GB เมื่อหักลบจากที่ใช้เก็บระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันพื้นฐานต่างๆ แล้วก็ยังเหลือเนื้อที่ให้ทำอะไรได้อีกหลายอย่าง แต่ถ้าหากยังไม่พอกับความต้องการก็สามารถใส่ microSD เพิ่มเข้าไปได้อีกสูงสุดถึง 256 GB ในขณะที่สมาร์ทโฟนระดับกลางส่วนใหญ่รองรับแค่สูงสุด 128 GB เท่านั้น ลืมเรื่องเนื้อที่เต็มไปได้เลย
3. กล้องความละเอียดสูง
Nokia 6 เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางก็จริง แต่ความละเอียดของกล้องดิจิทัลถือว่าท้าชนรุ่นใหญ่ได้สบายด้วยกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล หากวัดกันเฉพาะตัวเลข กล้องของ Nokia 6 มีความละเอียดสูงกว่าเรือธงอย่าง iPhone 7, Google Pixel และ Samsung Galaxy S7 เสียอีก (ทั้งสามรุ่นกล้องหลังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล) ย้อนไปในอดีต Nokia ก็ขึ้นชื่อเรื่องกล้องอยู่แล้ว การกลับมาครั้งนี้จะโดดเด่นเรื่องกล้องอีกก็ไม่แปลก แต่การใช้งานจริงจะออกมาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง จึงต้องรอทดสอบกันอีกทีหนึ่ง
4. ลำโพงสเตอริโอ
ลำโพงสเตอริโอเป็นฟีเจอร์ที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่มองข้าม แม้กระทั่งสมาร์ทโฟนเรือธงก็ยังไม่ค่อยมีฟีเจอร์นี้ให้เห็นเท่าไหร่นัก แต่ Nokia 6 จัดมาให้แล้วพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos แม้จะยังไม่มีการทดสอบคุณภาพเสียงของลำโพงออกมาในขณะนี้แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะทำให้ผิดหวัง ที่สำคัญคือช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรก็ยังไม่หายไปไหนด้วย
5. มาพร้อม Android 7.0 Nougat ตั้งแต่แกะกล่อง
Nokia 6 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat จากโรงงาน และแน่นอนว่าจะได้รับการอัปเกรดเป็น Android 7.1.1 อีกในอนาคตอันใกล้ ผู้ใช้สามารถสัมผัสความสดใหม่ของระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดได้ทันทีโดยไม่ต้องมานั่งลุ้นว่าจะโดนลอยแพให้ติดอยู่กับ Marshmallow หรือไม่
6. ราคาที่ไม่สูงเกินเอื้อม
จริงๆ แล้วราคาค่าตัวของ Nokia 6 ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าแพงไปหรือไม่ในราคาประมาณ 8,900 บาท แต่เมื่อนำคุณสมบัติที่มีไปเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นอื่นในตลาดที่มีราคาพอๆ กัน จะพบว่า Nokia 6 มีข้อได้เปรียบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น RAM และกล้องที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น จะด้อยกว่าตรงที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 430 Octa-core ซึ่งจะสู้ Snapdragon 600 series ไม่ได้ แต่รวมๆ แล้วสเปกคุ้มราคาแน่นอน
สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดของ Nokia 6 คือในขณะนี้ยังมีขายเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น แต่ก็ยังไม่หมดหวังเสียทีเดียวเพราะมีรายงานถึง Nokia 6 อีกโมเดลหนึ่งที่อาจเป็นโมเดลสำหรับวางจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งจะเปิดตัวเมื่อไหร่ก็ต้องติดตามกันต่อไป นอกจากนี้สำหรับคนที่ชอบมือถือ high-end Nokia ก็เตรียมจะเปิดตัว Nokia 8 ที่คาดว่าจะจัดเต็มด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 835 และ RAM 6 GB ในเดือนหน้า และยังจ่อคิวเปิดตัวอีก 5 รุ่นตลอดปี 2017 นับว่า Nokia เต็มที่กับการกลับมาครั้งนี้จริงๆ ครับ
อ้างอิง:https://techmoblog.com
ณ 16/1/2017
หากจะพูดถึงสมาร์ทโฟนที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้น Nokia 6 สมาร์ทโฟน Android รุ่นแรกที่ Nokia ส่งเข้ามาประเดิมการหวนคืนวงการ แม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่สเปกไม่หวือหวาแต่ก็ไม่น้อยหน้าแบรนด์อื่นและยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน คุณสมบัติในบางจุดยังโดดเด่นกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันอีกด้วย จุดเด่นที่ว่านี้จะมีอะไรบ้างเราไปดูกันเลยครับ
1. RAM มากกว่าสมาร์ทโฟนระดับกลางทั่วไป
[imghttps://lh3.googleusercontent.com/T4SNrQzTHohTDtGJLelCyJCuoPXn4ZzlYDq0p4K9AUTmBs7wL0_rECTSZ7WFZQUGJ4AQx_d5DztF4EDd8ep7pbL5Dspyz2qYtZve_TBhZ_VgYJwIUmGwnjKolQvvoLb6m_um-E4s[/img]
Nokia 6 มี RAM มาให้ถึง 4 GB จัดว่าสูงมากเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นอื่นๆ และเท่ากับสมาร์ทโฟนเรือธงบางรุ่นด้วยซ้ำเช่น Samsung Galaxy S7, Google Pixel XL และ LG V20 ใครชอบสมาร์ทโฟน RAM เยอะๆ Nokia 6 ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
2. เพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้จุใจกว่า
แม้ว่า Nokia 6 จะมีออกมาเพียงรุ่นเดียวคือรุ่นความจุ 64 GB เมื่อหักลบจากที่ใช้เก็บระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันพื้นฐานต่างๆ แล้วก็ยังเหลือเนื้อที่ให้ทำอะไรได้อีกหลายอย่าง แต่ถ้าหากยังไม่พอกับความต้องการก็สามารถใส่ microSD เพิ่มเข้าไปได้อีกสูงสุดถึง 256 GB ในขณะที่สมาร์ทโฟนระดับกลางส่วนใหญ่รองรับแค่สูงสุด 128 GB เท่านั้น ลืมเรื่องเนื้อที่เต็มไปได้เลย
3. กล้องความละเอียดสูง
Nokia 6 เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางก็จริง แต่ความละเอียดของกล้องดิจิทัลถือว่าท้าชนรุ่นใหญ่ได้สบายด้วยกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล หากวัดกันเฉพาะตัวเลข กล้องของ Nokia 6 มีความละเอียดสูงกว่าเรือธงอย่าง iPhone 7, Google Pixel และ Samsung Galaxy S7 เสียอีก (ทั้งสามรุ่นกล้องหลังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล) ย้อนไปในอดีต Nokia ก็ขึ้นชื่อเรื่องกล้องอยู่แล้ว การกลับมาครั้งนี้จะโดดเด่นเรื่องกล้องอีกก็ไม่แปลก แต่การใช้งานจริงจะออกมาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง จึงต้องรอทดสอบกันอีกทีหนึ่ง
4. ลำโพงสเตอริโอ
ลำโพงสเตอริโอเป็นฟีเจอร์ที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่มองข้าม แม้กระทั่งสมาร์ทโฟนเรือธงก็ยังไม่ค่อยมีฟีเจอร์นี้ให้เห็นเท่าไหร่นัก แต่ Nokia 6 จัดมาให้แล้วพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos แม้จะยังไม่มีการทดสอบคุณภาพเสียงของลำโพงออกมาในขณะนี้แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะทำให้ผิดหวัง ที่สำคัญคือช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรก็ยังไม่หายไปไหนด้วย
5. มาพร้อม Android 7.0 Nougat ตั้งแต่แกะกล่อง
Nokia 6 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat จากโรงงาน และแน่นอนว่าจะได้รับการอัปเกรดเป็น Android 7.1.1 อีกในอนาคตอันใกล้ ผู้ใช้สามารถสัมผัสความสดใหม่ของระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดได้ทันทีโดยไม่ต้องมานั่งลุ้นว่าจะโดนลอยแพให้ติดอยู่กับ Marshmallow หรือไม่
6. ราคาที่ไม่สูงเกินเอื้อม
จริงๆ แล้วราคาค่าตัวของ Nokia 6 ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าแพงไปหรือไม่ในราคาประมาณ 8,900 บาท แต่เมื่อนำคุณสมบัติที่มีไปเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นอื่นในตลาดที่มีราคาพอๆ กัน จะพบว่า Nokia 6 มีข้อได้เปรียบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น RAM และกล้องที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น จะด้อยกว่าตรงที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 430 Octa-core ซึ่งจะสู้ Snapdragon 600 series ไม่ได้ แต่รวมๆ แล้วสเปกคุ้มราคาแน่นอน
สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดของ Nokia 6 คือในขณะนี้ยังมีขายเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น แต่ก็ยังไม่หมดหวังเสียทีเดียวเพราะมีรายงานถึง Nokia 6 อีกโมเดลหนึ่งที่อาจเป็นโมเดลสำหรับวางจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งจะเปิดตัวเมื่อไหร่ก็ต้องติดตามกันต่อไป นอกจากนี้สำหรับคนที่ชอบมือถือ high-end Nokia ก็เตรียมจะเปิดตัว Nokia 8 ที่คาดว่าจะจัดเต็มด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 835 และ RAM 6 GB ในเดือนหน้า และยังจ่อคิวเปิดตัวอีก 5 รุ่นตลอดปี 2017 นับว่า Nokia เต็มที่กับการกลับมาครั้งนี้จริงๆ ครับ
อ้างอิง:https://techmoblog.com
ณ 16/1/2017