ถึงแม้ว่าใยแมงมุมจะเป็นสัญลักษณ์อันน่าหวาดกลัวของสัตว์นักล่า แต่ความเหนียวของเส้นใยแมงมุมทำให้มันมีคุณสมบัติพิเศษเหนือกว่าวัตถุดิบอื่นๆ และมนุษย์ก็ค้นพบวิธีการนำเส้นใยที่มีความเหนียวนี้ไปใช้ประโยขน์ได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับโรคมะเร็ง หรือการนำไปผลิตอุปกรณ์ช่วยฟังสำหรับผู้ที่บกพร่องทางการได้ยิน
คุณสมบัติพิเศษของใยแมงมุมที่วิทยาการของโลกยุคใหม่ให้ความสนใจคือ ความเหนียว ความยืดหยุ่น และน้ำหนักเบา แต่ปัญหาก็คือ แมงมุม นั้นมีสัญชาตญาณของการเป็นสัตว์นักล่า เราไม่สามารถสั่งให้มันผลิตใยแมงมุมได้มากตามที่เราต้องการ
แต่ผลงานวิจัยล่าสุดจาก Shanghai Institutes for Biological Sciences เหล่านักวิจัยได้ทำการตัดแต่งพันธุกรรมของ หนอนหม่อนไหม (ที่ปกติแล้วหนอนพวกนี้จะผลิตเส้นไหมเพื่อใช้ในการทอผ้า) เพื่อให้พวกมันทำหน้าที่ผลิตเส้นใยแมงมุม และคุณสมบัติที่น่าสนใจของ หนอนหม่อนไหม คือพวกมันไม่กินกันเอง ทำให้เหมาะมากสำหรับการเลี้ยงเป็นฟาร์ม โดยเครื่องมือที่ใช้ในการตัดแต่งพันธุกรรมมีชื่อว่า TALEN (Transcription activator-like effector nuclease) เครื่องมือนี้ทำให้นักวิจัยสามารถนำจีโนมของแมงมุมที่สามารถปล่อยใยแบบ Golden silk orb ไปใส่ในหนอนหม่อนไหม โดยในงานวิจัยเผยว่า ทำให้เกิดความเป็นไปได้ในการผลิตเส้นใยแมงมุมจำนวนมากในเชิงอุตสาหกรรมได้เลย และผลงานวิจัยนี้ตีพิมพ์ลงในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences
โดยคุณ Anjiang Tan นักวิจัยจาก Shanghai Institutes for Biological Sciences กล่าวว่า "งานวิจัยนี้ทำให้เกิดการผลิตเส้นใยแมงมุมที่มีความเสถียร และประหยัดต้นทุน สามารถสร้างสายการผลิตขนาดใหญ่ โดยการตัดแต่งพันธุกรรมหนอนหม่อนไหม"
และผลงานวิจัยล่าสุดนี้ แสดงให้เห็นความก้าวหน้าใน 2 เรื่อง โดยอย่างแรกคือ ให้ปริมาณการผลิตเส้นใยแมงมุมที่มากขึ้น โดยคิดเป็น 35.2% เมื่อเทียบปริมาณการผลิตเพียง 5% เมื่อเทียบกับครั้งก่อน และเรื่องที่สองคือ เส้นใยแมงมุมที่ถูกผลิตออกมาจากตัวหนอนสามารถนำไปใช้งานต่อได้เลย ทำให้ช่วยลดต้นทุนการผลิตไปได้มาก
และเรื่องที่พิเศษกว่านั้นคือ ด้วยเทคนิคการตัดแต่งพันธุกรรมที่เลือกใช้ ทำให้นักวิจัยสามารถดัดแปลงคุณสมบัติของเส้นใยแมงมุมได้ตามต้องการอีกด้วย โดยการเพิ่มโปรตีนบางอย่างเข้าไปในเส้นใย เพื่อให้ได้ใยแมงมุมที่มีคุณสมบัติเฉพาะเหมาะสำหรับงานบางรูปแบบ และมนุษย์เรารู้จักการใช้ประโยชน์จากเส้นไหมที่หนอนผลิตออกมาเป็นเวลานานนับพันปีแล้ว เทคโนโลยีนี้เปิดช่องทางการทำรายได้รูปแบบใหม่ให้กับเกษตรกร
และวิทยาการในโลกปัจจุบันก็มีความต้องการในการใช้งานใยแมงมุมมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะของวัตถุดิบแบบใหม่ที่มีความน่าสนใจ ทำให้ ใยแมงมุม กลายเป็นวัตถุดิบที่สำคัญของโลกอนาคตเลยทีเดียว
ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นักวิจัยจาก University of Geneva ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้แสดงให้เห็นว่า พวกเขาสามารถนำใยแมงมุมมาผลิตเป็นแคปซูลยารูปแบบพิเศษ ที่สามารถนำส่งยาต้านมะเร็งเข้าสู่ระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ได้โดยตรง และเมื่อปีที่แล้ว นักวิจัยจาก MedUni Vienna และ Vienna General Hospital ในประเทศออสเตรีย แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ในการใช้เส้นใยแมงมุมที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ ในการซ่อมแซมเส้นประสาทในร่างกายมนุษย์ที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง และในช่วงเวลาเดียวกัน ทีมนักวิจัยจาก University of Cambridge ได้แสดงให้เห็นถึงการผลิตเส้นใยประดิษฐ์ ที่ในวันหนึ่งอาจนำมาใช้ผลิตชุดเกราะกันกระสุนที่ใช้งานได้ดีกว่าเสื้อเกราะแบบเดิมๆ
และงานวิจัยล่าสุดนี้ปูทางไปสู่การผลิตเส้นใยแมงมุมที่มีความเหนียวเป็นจำนวนมากในเชิงอุตสาหกรรม ทำให้กลายเป็นวัตถุดิบที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยคุณ Anjiang Tan และทีมของเขา จะทดลองกับส่วนผสมหลายๆ แบบในการตัดแต่งพันธุกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และเพิ่มคุณภาพการผลิต โดยการถอดรหัสพันธุกรรมของแมงมุมเพื่อที่จะเข้าใจโครงสร้างของโปรตีน เพื่อทำให้เส้นใยแมงมุมมีคุณสมบัติที่โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ
ที่มา : www.digitaltrends.com
9/08/2018 By Thaiware.com