เอ็มคอมเมิร์ซ”เทรนใหม่ซื้อขายออนไลน์
Posted: 12 Apr 2013, 14:25
เอ็มคอมเมิร์ซ”เทรนใหม่ซื้อขายออนไลน์
« on: November 30, 2012, 02:48:33 pm »
เอ็มคอมเมิร์ซ”เทรนใหม่ซื้อขายออนไลน์
หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณเกือบ 10 ปีที่แล้ว ใครจะเชื่อว่าการซื้อขายสินค้าออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน
เช่นเดียวกับ “ภาวุธ พงษ์วิทยาภานุ”กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งตลาดดอตคอม(TARAD.com) เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ชั้นนำของเมืองไทยก็ไม่คาดคิดเช่นกัน
“ภาวุธ” เล่าว่า เริ่มทำตลาดดอตคอมออนโมบายครั้งแรกตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2003 โดยร่วมกับดีแทค หรือที่เรียกว่า บริการ “ดีจุ้ยส์” ในสมัยนั้น ซึ่งการตัดสินใจทำในครั้งนั้นเจ้าตัวบอกว่า ทำเพื่อเอาเท่ เอามัน เท่านั้น แต่จำนวนคนที่เข้ามาใช้มีไม่มาก เพราะสมัยนั้นค่าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือแพงมาก ซึ่งการใช้งานก็เป็นเพียงแค่การเข้ามาดูสินค้าผ่านแคตตาล็อกเท่านั้น ยังไม่สามารถสั่งซื้อได้
หลังจากนั้นเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาจึงได้ออก โมบาย คอมเมิร์ซ เวอร์ชั่น 2.0 และล่าสุดในปีนี้เมื่อตลาดโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนได้รับความนิยมจากคน ไทยเพิ่มมากขึ้น จึงต้องปรับตัวด้วยการพัฒนาโมบาย คอมเมิร์ซ เวอร์ชั่น 3.0 ออกมารองรับแอนดรอยด์และไอโอเอส โดยนำ “โนว์ฮาว” ของราคูเท็น ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากญี่ปุ่น ที่ได้เข้ามาร่วมถือหุ้นมาปรับใช้ เพื่อให้สามารถใช้กับสมาร์ทโฟนได้ดียิ่งขึ้น
โดยได้มีการนำเสนอข้อมูลบนโทรศัพท์มือถือให้มีความน่าสนใจมากยิ่ง ขึ้น และให้ความสำคัญกับการทำตลาดบนเวอร์ชั่นโทรศัพท์มือถือ และมีการใช้งบโฆษณา เพื่อรองรับการเติบโตของการใช้สมาร์ทโฟน
ภาวุธ บอกต่อว่า ปัจจุบันผู้บริโภคหันมาใช้สมาร์ทโฟนในการชอปปิงออนไลน์มากขึ้น ซึ่งตั้งแต่ ม.ค.-มิ.ย. ของปีนี้มีอัตราการเติบโตถึง200 % และเมื่อถึงสิ้นปีคาดว่าจะโตขึ้นถึง 482% โดยมีปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของการให้บริการ 3 จี ของบริษัทผู้ให้บริการมือถือ และคนไทยหันมาใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่มากมาย
โดยในส่วนของ “ราคูเท็น-ตลาดดอตคอม” หลังจากเปิดเอ็มคอมเมิร์ซ เวอร์ชั่น 3.0 มียอดขายตั้งแต่ ม.ค.-มิ.ย. โตขึ้น 60% เมื่อถึงสิ้นปีนี้คาดว่าจะเติบโตถึง 344% ขณะที่การเยี่ยมชมเว็บไซต์ครึ่งปีแรกเติบโต 184% ส่วนครึ่งปีหลังคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 194%
“หลังจากเปิดเอ็มคอมเมิร์ซมีคนเข้าเว็บไซต์ตลาดดอตคอมจากอุปกรณ์ เคลื่อนที่ทั้งโทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ต จำนวน 30% มียอดขายจากการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่จำนวน 11% จากยอดขายทั้งหมด นอกจากนี้การชอปปิงออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือได้ขยายไปยังคนในต่างจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ ลำปาง นนทบุรี และพิษณุโลก ไม่จำกัดเฉพาะคนใน กทม. เท่านั้น” ภาวุธ กล่าว
ทั้งนี้ผู้ก่อตั้งตลาดดอตคอม มั่นใจว่า เอ็มคอมเมิร์ซในไทยต่อจากนี้ไป เชื่อว่าจะมาแน่ๆ และมีโอกาสจะเติบโตได้อีกมากจากตัวเลขตลาดรวมอีคอมเมิร์ซของไทยในปี 2553 ที่มีมูลค่าสูงถึง 6.3 แสนล้านบาท (ตัวเลขของสำนักงานสถิติแห่งชาติ) เพราะปัจจุบันคนมีความเชื่อมั่นในการซื้อสินค้าออนไลน์มากยิ่งขึ้นจากที่ เมื่อก่อนกลัวการถูกหลอกลวง สั่งซื้อโอนเงินไปแล้วกลับไม่ได้ของ ซึ่งในส่วนของตลาดดอตคอมก็มีการแก้ปัญหาเพื่อเพิ่มความมั่นใจของผู้บริโภค ด้วยการรับประกันสั่งซื้อแล้วได้ของแน่นอน หากไม่ได้ของยินดีคืนเงินให้สูงสุด 5 หมื่นบาท
นอกจากนี้การที่มีกลุ่มทุนอีคอมเมิร์ซจากเยอรมนีอย่าง “ลาซาด้า” เข้ามาทำตลาดในภูมิภาคนี้เชื่อว่าจะทำให้ตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยเติบโตเพิ่ม ขึ้นอีก ผู้ประกอบการของไทยจำเป็นต้องปรับตัว ซึ่งในส่วนของตลาดดอตคอม ก็พยายามสร้างความแตกต่างจากรายอื่น ๆ เช่น มีที่ปรึกษาส่วนตัวให้กับผู้ประกอบการที่มาเปิดร้านค้า รวมถึงการทำตลาดให้ด้วย
ปัจจุบันเว็บไซต์ราคูเท็น-ตลาดดอตคอม มีร้านค้ามากถึง 2.2 แสนร้านค้า เป็นพรีเมี่ยมมอลล์ 1,600 ร้าน และมีจำนวนสมาชิกเข้ามาซื้อขายจำนวน 2.2 ล้านราย เป็นผู้ที่เข้ามาซื้อขายอย่างต่อเนื่องจำนวน 60% ยอดใช้จ่ายต่อครั้งอยู่ที่ 1,900-2,000 บาท โดยกลุ่มผู้เข้ามาซื้อขายอยู่ในช่วงอายุ 20-40 ปี มากกว่า 70%
ล่าสุดบริษัทได้ร่วมกับรถไฟฟ้าใต้ดิน (เอ็มอาร์ที) เปิด MRT-TARAD.com ในสถานีจตุจักร เพื่อทำชอปปิงออนไลน์ให้กับร้านค้าที่เปิดขายสินค้าในสถานี เพื่อใช้ออนไลน์ช่วยกระตุ้นยอดขายผ่านทั้งเว็บไซต์ และโทรศัพท์มือถือ และได้เปิด คิวอาร์ โค้ด (QR Code) เป็นฟีเจอร์ใหม่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถชอปปิงผ่านมือถือได้ง่ายขึ้นเพียงนำสมาร์ทโฟนไปสแกน รหัสคิวอาร์ โค้ด ของสินค้าบนป้ายโฆษณาเมื่อเดินทางผ่านสถานีรถไฟฟ้าก็สามารถซื้อสินค้าและ ชำระเงินได้เลย
มั่นใจว่าจะช่วยทำให้ยอดการชอปปิงผ่านมือถือเติบโตเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน.
ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์
post : วันอังคาร ที่ 7 สิงหาคม 2555 เวลา 9:38:14 น. by www.CreditOnHand.com
tag : ข่าวไอทีอัพเดท “เอ็มคอมเมิร์ซ”เทรนใหม่ซื้อขายออนไลน์
« on: November 30, 2012, 02:48:33 pm »
เอ็มคอมเมิร์ซ”เทรนใหม่ซื้อขายออนไลน์
หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณเกือบ 10 ปีที่แล้ว ใครจะเชื่อว่าการซื้อขายสินค้าออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน
เช่นเดียวกับ “ภาวุธ พงษ์วิทยาภานุ”กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งตลาดดอตคอม(TARAD.com) เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ชั้นนำของเมืองไทยก็ไม่คาดคิดเช่นกัน
“ภาวุธ” เล่าว่า เริ่มทำตลาดดอตคอมออนโมบายครั้งแรกตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2003 โดยร่วมกับดีแทค หรือที่เรียกว่า บริการ “ดีจุ้ยส์” ในสมัยนั้น ซึ่งการตัดสินใจทำในครั้งนั้นเจ้าตัวบอกว่า ทำเพื่อเอาเท่ เอามัน เท่านั้น แต่จำนวนคนที่เข้ามาใช้มีไม่มาก เพราะสมัยนั้นค่าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือแพงมาก ซึ่งการใช้งานก็เป็นเพียงแค่การเข้ามาดูสินค้าผ่านแคตตาล็อกเท่านั้น ยังไม่สามารถสั่งซื้อได้
หลังจากนั้นเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาจึงได้ออก โมบาย คอมเมิร์ซ เวอร์ชั่น 2.0 และล่าสุดในปีนี้เมื่อตลาดโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนได้รับความนิยมจากคน ไทยเพิ่มมากขึ้น จึงต้องปรับตัวด้วยการพัฒนาโมบาย คอมเมิร์ซ เวอร์ชั่น 3.0 ออกมารองรับแอนดรอยด์และไอโอเอส โดยนำ “โนว์ฮาว” ของราคูเท็น ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากญี่ปุ่น ที่ได้เข้ามาร่วมถือหุ้นมาปรับใช้ เพื่อให้สามารถใช้กับสมาร์ทโฟนได้ดียิ่งขึ้น
โดยได้มีการนำเสนอข้อมูลบนโทรศัพท์มือถือให้มีความน่าสนใจมากยิ่ง ขึ้น และให้ความสำคัญกับการทำตลาดบนเวอร์ชั่นโทรศัพท์มือถือ และมีการใช้งบโฆษณา เพื่อรองรับการเติบโตของการใช้สมาร์ทโฟน
ภาวุธ บอกต่อว่า ปัจจุบันผู้บริโภคหันมาใช้สมาร์ทโฟนในการชอปปิงออนไลน์มากขึ้น ซึ่งตั้งแต่ ม.ค.-มิ.ย. ของปีนี้มีอัตราการเติบโตถึง200 % และเมื่อถึงสิ้นปีคาดว่าจะโตขึ้นถึง 482% โดยมีปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของการให้บริการ 3 จี ของบริษัทผู้ให้บริการมือถือ และคนไทยหันมาใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่มากมาย
โดยในส่วนของ “ราคูเท็น-ตลาดดอตคอม” หลังจากเปิดเอ็มคอมเมิร์ซ เวอร์ชั่น 3.0 มียอดขายตั้งแต่ ม.ค.-มิ.ย. โตขึ้น 60% เมื่อถึงสิ้นปีนี้คาดว่าจะเติบโตถึง 344% ขณะที่การเยี่ยมชมเว็บไซต์ครึ่งปีแรกเติบโต 184% ส่วนครึ่งปีหลังคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 194%
“หลังจากเปิดเอ็มคอมเมิร์ซมีคนเข้าเว็บไซต์ตลาดดอตคอมจากอุปกรณ์ เคลื่อนที่ทั้งโทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ต จำนวน 30% มียอดขายจากการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่จำนวน 11% จากยอดขายทั้งหมด นอกจากนี้การชอปปิงออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือได้ขยายไปยังคนในต่างจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ ลำปาง นนทบุรี และพิษณุโลก ไม่จำกัดเฉพาะคนใน กทม. เท่านั้น” ภาวุธ กล่าว
ทั้งนี้ผู้ก่อตั้งตลาดดอตคอม มั่นใจว่า เอ็มคอมเมิร์ซในไทยต่อจากนี้ไป เชื่อว่าจะมาแน่ๆ และมีโอกาสจะเติบโตได้อีกมากจากตัวเลขตลาดรวมอีคอมเมิร์ซของไทยในปี 2553 ที่มีมูลค่าสูงถึง 6.3 แสนล้านบาท (ตัวเลขของสำนักงานสถิติแห่งชาติ) เพราะปัจจุบันคนมีความเชื่อมั่นในการซื้อสินค้าออนไลน์มากยิ่งขึ้นจากที่ เมื่อก่อนกลัวการถูกหลอกลวง สั่งซื้อโอนเงินไปแล้วกลับไม่ได้ของ ซึ่งในส่วนของตลาดดอตคอมก็มีการแก้ปัญหาเพื่อเพิ่มความมั่นใจของผู้บริโภค ด้วยการรับประกันสั่งซื้อแล้วได้ของแน่นอน หากไม่ได้ของยินดีคืนเงินให้สูงสุด 5 หมื่นบาท
นอกจากนี้การที่มีกลุ่มทุนอีคอมเมิร์ซจากเยอรมนีอย่าง “ลาซาด้า” เข้ามาทำตลาดในภูมิภาคนี้เชื่อว่าจะทำให้ตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยเติบโตเพิ่ม ขึ้นอีก ผู้ประกอบการของไทยจำเป็นต้องปรับตัว ซึ่งในส่วนของตลาดดอตคอม ก็พยายามสร้างความแตกต่างจากรายอื่น ๆ เช่น มีที่ปรึกษาส่วนตัวให้กับผู้ประกอบการที่มาเปิดร้านค้า รวมถึงการทำตลาดให้ด้วย
ปัจจุบันเว็บไซต์ราคูเท็น-ตลาดดอตคอม มีร้านค้ามากถึง 2.2 แสนร้านค้า เป็นพรีเมี่ยมมอลล์ 1,600 ร้าน และมีจำนวนสมาชิกเข้ามาซื้อขายจำนวน 2.2 ล้านราย เป็นผู้ที่เข้ามาซื้อขายอย่างต่อเนื่องจำนวน 60% ยอดใช้จ่ายต่อครั้งอยู่ที่ 1,900-2,000 บาท โดยกลุ่มผู้เข้ามาซื้อขายอยู่ในช่วงอายุ 20-40 ปี มากกว่า 70%
ล่าสุดบริษัทได้ร่วมกับรถไฟฟ้าใต้ดิน (เอ็มอาร์ที) เปิด MRT-TARAD.com ในสถานีจตุจักร เพื่อทำชอปปิงออนไลน์ให้กับร้านค้าที่เปิดขายสินค้าในสถานี เพื่อใช้ออนไลน์ช่วยกระตุ้นยอดขายผ่านทั้งเว็บไซต์ และโทรศัพท์มือถือ และได้เปิด คิวอาร์ โค้ด (QR Code) เป็นฟีเจอร์ใหม่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถชอปปิงผ่านมือถือได้ง่ายขึ้นเพียงนำสมาร์ทโฟนไปสแกน รหัสคิวอาร์ โค้ด ของสินค้าบนป้ายโฆษณาเมื่อเดินทางผ่านสถานีรถไฟฟ้าก็สามารถซื้อสินค้าและ ชำระเงินได้เลย
มั่นใจว่าจะช่วยทำให้ยอดการชอปปิงผ่านมือถือเติบโตเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน.
ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์
post : วันอังคาร ที่ 7 สิงหาคม 2555 เวลา 9:38:14 น. by www.CreditOnHand.com
tag : ข่าวไอทีอัพเดท “เอ็มคอมเมิร์ซ”เทรนใหม่ซื้อขายออนไลน์