USDT ถูกถอนออกไปเป็นเงินกว่า 7,000 ล้านโทเค็น หลังจากการล่มสลายของ UST
Posted: 19 May 2022, 10:31
สัปดาห์ที่ผ่านมา TerraUSD (UST) ที่เป็น Stablecoin ได้หลุดการตรึงมูลค่าจากดอลลาร์ต่ำสุดที่ 0.26 เหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นใน Stablecoin เลยลุกลามแห่ไปถอนเงินออกจาก Tether (USDT) จนหลุดการตรึงมูลค่า 1 เหรียญสหรัฐฯ และเมื่อวันพฤหัสบดีลดลงต่ำสุดที่ 0.95 เหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ในวันอังคารพบว่ามีการถอนเงินออกจาก USDT ไปแล้วกว่า 7,000 ล้านโทเค็น
17 พฤษภาคม สำนักข่าว CNBC ได้ตรวจสอบอุปทานหมุนเวียนของ USDT พบว่ามีจำนวนลดลงเหลือน้อยกว่า 76,000 ล้านโทเค็นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 83,000 ล้านโทเค็น
UST อดีตเป็น Stablecoin อันดับ 3 ที่ไม่เหมือนใครตรงที่ไม่มีเงินทุนสำรอง แต่จะตรึงมูลค่าด้วยอัลกอริทึมสร้างสมดุลระหว่าง UST กับ LUNA ส่วน USDT เป็นอันดับหนึ่งของ Stablecoin ที่อ้างว่ามีเงินทุนสำรองหนุนเหรียญให้มูลค่า 1 เหรียญสหรัฐฯ แบบ 1 ต่อ 1
สัปดาห์ที่ผ่านมา Tether เปิดเผยว่าขณะนี้ได้ถือเงินทุนสำรองส่วนใหญ่ในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มีการถือครองเงินสดอยู่ 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (145,101 ล้านบาท) รวมทั้งตั๋วเงินคลังไม่ระบุชื่อผู้ลงทุน (พันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น) มีระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือนจำนวน 34,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.19 ล้านล้านบาท) และตราสารพาณิชย์อยู่ 24,200 เหรียญสหรัฐฯ (836,110 ล้านบาท)
ล่าสุดมีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้ขอให้ Tether แสดงเอกสารการตรวจสอบว่า USDT ที่เหลือหมุนเวียนอยู่ประมาณ 75,000 ล้านโทเค็นได้รับการหนุนด้วยเงินทุนสำรองอย่างเต็มที่หรือไม่ ซึ่ง เปาโล อาร์ดอยโน (Paolo Ardoino) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Tether ยืนยันว่าสามารถถอนเงินออกมา 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ออกมาได้ภายใน 48 ชั่วโมง และหากตลาดยังคงต้องการถอนเงินต่อไป ก็ยังมีสภาพคล่องทั้งหมดไว้สำหรับการถอนเงินครั้งใหญ่และจ่ายแบบ 1 ต่อ 1 ได้ทั้งหมด
อาร์ดอยโนกล่าวในทวีตเพิ่มเติมว่า Tether กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ หลังจากที่ถูกขอให้แสดงข้อมูลรายชื่อคู่สัญญาทั้งหมด และเขาหวังว่าหน่วยงานกำกับดูแลจะผลักดันให้บริษัทตรวจสอบบัญชีต่าง ๆ เป็นมิตรกับคริปโทมากขึ้น
นอกจากนี้ความกังวลเกี่ยวกับการตรึงมูลค่ากับดอลลาร์ของ USDT ได้ส่งผลให้นักลงทุนหันไปต้องการถือเหรียญของคู่แข่งมากขึ้น ได้แก่ USDC ของ Circle มีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นประมาณ 8% และ BUSD ของ Binance เพิ่มขึ้น 4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก : https://www.beartai.com/brief/business/1051386