Page 1 of 1

ฉลอง 40 ปีกำเนิดโทรศัพท์มือถือ

Posted: 12 Apr 2013, 15:54
by brid.ladawan
ฉลอง 40 ปีกำเนิดโทรศัพท์มือถือ

การพัฒนา และการเติบโตอย่างรวดเร็วของโทรศัพท์มือถือ ถูกเร่งเครื่องด้วยกระแสอินเทอร์เน็ต และบรรดาผู้ประกอบการที่ต่างส่งสัญญาณบอกผู้บริโภคว่า ยังมีเทคโนโลยี และนวัตกรรมอีกมากให้เล่นกับสินค้าตัวนี้

40 ปีที่แล้ว ผู้บริโภครู้จักโทรศัพท์มือถือเครื่องแรก และวันนี้โทรศัพท์มือถือก็เปลี่ยนโฉมหน้าไปอย่างมากมาย

3 เมษายน 2516 มาร์ติน คูเปอร์ พนักงานของบริษัทโมโตโรลา ต่อสายโทรศัพท์ในนิวยอร์กผ่านโทรศัพท์โมโตโรลา รุ่น ไดนาแทค โทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของโลกที่มีทั้งขนาด และน้ำหนักไม่ต่างจากก้อนอิฐ และวันนั้นถือเป็นความสำเร็จของนวัตกรรมใหม่ของโลกที่เป็นที่ฮือฮาไม่น้อย

โทรศัพท์เครื่องนี้มีขนาด 9 นิ้ว มีแผงวงจรมากกว่า 30 แผงบรรจุอยู่ภายใน และมีระยะเวลาในใช้งานได้สูงสุด 35 นาที รวมทั้งใช้เวลาชาร์ตแบตเตอรี่กว่า 10 ชั่วโมง

ไมค์ ชอต นักวิเคราะห์จากสถาบันเทคโนโลยีทางวิศวกรรม กล่าวว่า นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือของโลก

เขาบอกว่า 10 ปีหลังจากนั้นโลกของโทรศัพท์มือถือได้ถูกพัฒนาเติมต่อไปไม่หยุด มีทั้งงานวิจัย และการทดลองมากมายเกิดขึ้นในห้องทดลอง ก่อนที่จะมีการเปิดตัวเครือข่ายในครั้งแรกเมื่อปี 2524 ในสหรัฐอเมริกา

“โทรศัพท์มือถือเปลี่ยนรูปแบบชีวิตของผู้คนไปอย่างสิ้นเชิง ในทศวรรษแรกของการพัฒนาเป็นช่วงเวลาของการทดลอง และสาธิต และหลังจากนั้นก็มีการนำระบบเครือข่ายแบบอนาล็อกเข้ามาปรับใช้ และเมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงหลังปี 2525 เป็นต้นมาเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือถูกพัฒนาเข้าไปสู่อุปกรณ์ที่ใช้ในรถยนต์ และเริ่มนำเข้ามาใช้ในโลกธุรกิจกันมากขึ้นในเมืองใหญ่ๆ ของโลก" เขากล่าว

เขายังบอกอีกว่า เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามาพลิกโฉมหน้าวงการโทรศัพท์มือถือในช่วงระหว่างปี 2536-2546 ถือว่าเป็นยุคที่ผู้บริโภคเรียกร้อง และมีความต้องการในตลาดโลกมากที่สุด

“การนำเทคโนโลยีดาต้า เข้ามาใช้เป็นจุดเริ่มต้นแรกๆ ของการพัฒนาระบบ 3G ในช่วงปี 2546 และจนกระทั่งวันนี้สมาร์ทโฟน ก็เข้ามาตอบโจทย์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการย่อโลกทั้งใบมาไว้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส"

4 ทศวรรษที่แล้ว โลกธุรกิจได้รู้จักกับคำว่า เทเลคอม เป็นครั้งแรก และกระทั่งวันนี้ เม็ดเงินที่ไหลเวียนอยู่ในธุรกิจขึ้นมาแตะที่ระดับ 8 แสนล้านปอนด์และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากผู้เล่นในตลาดโลกที่ก้าวเข้ามาเพิ่มมากขึ้นทุกปีแม้ว่าราคาของโทรศัพท์มือถือจะมีแนวโน้มถูกลง อีกทั้งเทคโนโลยีที่นำมาใช้ก็เพิ่มความทันสมัยมากขึ้น ตั้งแต่การนำกล้องถ่ายภาพมาติดตั้ง ฟังก์ชันการเล่นเกม และเพลง ส่งอีเมล ดาวน์โหลดแผนที่ ดูคลิปวีดีโอ และพูดคุยกันผ่านระบบแชต

ชอต กล่าวว่าการพัฒนาเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือมีช่วงเวลาที่มีนัยสำคัญอยู่สองครั้ง ในตอนแรกคือการเติบโตของฐานการผลิตเครื่องของค่ายโทรศัพท์แบรนด์ต่างๆ และยุคต่อมาคือยุคที่อินเทอร์เน็ตผลักดันให้ผู้ใช้แทบทั่วโลกหันมาพกสมาร์ทโฟน แทนโทรศัพท์มือถือแสนธรรมดาที่เคยมี

"ช่วงแรกๆ ที่โทรศัพท์มือถือออกสู่ตลาด ผู้ประกอบการและเจ้าของแบรนด์ไม่ได้ออกแบบสินค้าและบริการตามความต้องการของลูกค้าทั่วไป โทรศัพท์มือถือจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักธุรกิจใส่ชุดสูท ถือกระเป๋าเดินทาง และทำธุรกิจหลายสิบ หลายร้อยล้าน ในขณะที่ตลาดกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปเพิ่งจะมาเติบโตมากขึ้นในระยะหลัง

จากนั้นก็มีเรื่องของการใช้อินเทอร์เนตบนโทรศัพท์มือถือตามมา สมาร์ทโฟนที่สมบูรณ์แบบเครื่องแรกๆ เพิ่งจะผลิตออกมาเมื่อราว 5 ปีที่ผ่านมานี้ ผมกำลังจะบอกว่า 40 ปีที่ผ่านมานั้นเป็นการพัฒนาไปในระดับที่ค่อนข้างช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วง 15-18 ปีก่อน" เขากล่าว

นอกจากนั้น เขายังคาดการณ์ว่า เทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือในวันนี้กำลังพัฒนาก้าวไปอย่างไม่หยุดนิ่ง และมีอะไรใหม่ๆ เข้ามาเซอร์ไพรส์ตลาดอยู่เสมอ

“การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา ลองย้อนกลับไปคิดถึงวันแรกที่เราใช้โทรศัพท์มือถือ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการส่งข้อความเสียงไปถึงกัน แต่วันนี้เรากำลังอยู่บนฐานข้อมูล หรือดาต้า ที่รวบรวมอยู่ในโทรศัพท์เครื่องเล็กนิดเดียว

และประเด็นเกี่ยวกับข้อมูล หรือดาต้าเหล่านี้ก็คือ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราใช้โทรศัพท์ ข้อมูลก็จะยังคงเป็นข้อมูลเสียงเสียส่วนใหญ่ ในขณะที่ตลาดที่พัฒนาไปแล้วเริ่มส่งดาต้าเหล่านี้ผ่านรูปแบบของวีดีโอ หรือโทรหากันแบบเห็นหน้า หรือการดูโทรทัศน์ผ่านมือถือ เป็นต้น

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผมบอกว่า นวัตกรรมมากมายกำลังจ่อคิวจับโทรศัพท์มือถือ"

ในขณะที่ผู้บริโภคเองก็ขยับเข้าใกล้ความเปลี่ยนแปลงที่สังเกตเห็นได้นี้กันค่อนข้างมากแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากที่ราคาโทรศัพท์มือถือถูกลงมาก แต่บรรดานักคิดก็ต้องพยายามคิดต่อไปข้างหน้าเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่ดีกว่าให้ได้

ชอต กล่าวว่า "ต้นทุนการผลิตโทรศัพท์เองก็ปรับลดลงมากเช่นกัน แต่นั่นก็ถือเป็นการตอบแทนผู้บริโภค หาก 10 ปอนด์ที่เขาจ่ายจะเพิ่มมูลค่า และเพิ่มรูปแบบการทำงานที่ไฮเทคกว่าเก่าให้กับโทรศัพท์ในมือของพวกเขาได้"

ไม่ว่าจะเป็นระบบความจำในเครื่องที่มากขึ้น ฟังก์ชันการทำงานใหม่ๆ ความสามารถในการใช้โทรศัพท์ในการเล่นอินเทอร์เน็ตได้ทัดเทียมกับการเปิดคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

ไม่เพียงเท่านั้น ขนาด และดีไซน์ของเครื่องก็ถูกปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา และภายในปีนี้ เราอาจได้เห็นนาฬิกาข้อมือที่เป็นโทรศัพท์มือถือไปด้วยในตัว

ทั้งการปรับปรุงคุณภาพ และการวางระบบโครงข่ายที่ดีขึ้น ชอตบอกว่าเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่า อีก 40 ปีข้างหน้า ตลาดโทรศัพท์มือถือของโลกจะเป็นเช่นไร แต่ก็น่าจะเชื่อได้ว่าชาวโลกอีกหลายล้านคนจะมีโทรศัพท์มือถือใช้เป็นของตัวเอง

"นวัตกรรมหมุนไปเรื่อยๆ ในขณะที่ตลาด และการพัฒนาโครงข่ายอาจจะยังตาไม่ค่อยทัน แต่ผมเชื่อว่าไม่ช้านาน คนทุกคนในโลกคงจะมีโทรศัพท์มือถือใช้"

เขายังบอกอีกว่า โทรศัพท์มือถือจะเชื่อมโยงไฮเทคทั้งหลายเข้าหากันได้ด้วยเทคโนโลยีไร้สาย "ประชากรโลก 7 พันล้านคน เมื่อพวกเขามีโทรศัพท์มือถือใช้แล้ว อีก 40 ข้างหน้า อุปกรณ์ไฮเทคอื่นๆ ก็จะก้าวเข้ามาสู่ชีวิตประจำวันของคนด้วยเช่นกัน"

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ไอที-นวัตกรรม
วันที่ 10 เมษายน 2556 09:20
Tags : โทรศัพท์มือถือ