"ไอซีที"เดินหน้า "สมาร์ท โพรวิ้นซ์" 77 จังหวัดทั่วไทย
Posted: 27 Aug 2013, 10:16
"ไอซีที"เดินหน้า "สมาร์ท โพรวิ้นซ์" 77 จังหวัดทั่วไทย
"อนุดิษฐ์" ขยายโครงการ "สมาร์ท โพรวิ้นซ์" 4 ชุมชน จ.นครนายก คาดครอบคลุมพื้นที่ของจังหวัดสิ้นปี 57 ด้วยงบจากก.มหาดไทย 200 ล้านบาท มั่นใจ ปี 62 ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ
วันนี้ (26 ส.ค.) ที่ชลพฤกษ์ รีสอร์ท นครนายก น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นประธานในพิธีโครงการนำร่องจังหวัดอัจฉริยะ สมาร์ท โพรวิ้นซ์ (Smart Province) เพื่อพัฒนาประเทศสู่การเป็น สมาร์ท คันทรี่ (Smart Country) ถือเป็นดารต่อยอดโครงการนำร่อง 4 ชุมชนของจังหวัดนครนายกหลังจากเปิดตัวโครงการเมื่อปีที่ผ่านมา
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า แนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทย คือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และพัฒนาบริการภาครัฐผ่านระบบไอซีที เพื่อสร้างโอกาสให้แก่ประชาชน สามารถเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม สำหรับงบประมาณการนำร่อง 4 ชุมชนมาจากกระทรวงไอซีที 27 ล้านบาท และล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณให้ 200 ล้านบาทเพื่อขยายต่อให้ครอบคลุมทั่วจังหวัดนครนายกในสิ้นปี 57 ส่วนงบประมาณในจังหวัดอื่นๆ อยู่ระหว่างการพิจารณา โดยมีเป้าหมายคือต้องการให้ประชาชนได้รับความสะดวกรวดเร็วในการตรวจสอบข้อมูลการให้บริการ รวมถึงข้อมูลสิทธิที่ควรจะได้รับจากภาครัฐผ่านบัตรประจำตัวประชาชน โดยสามารถทำธุรกรรมหรือขั้นตอนราชการต่างๆ ด้วยตัวเอง โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์เพื่อความสะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพแบบ วันสต็อปเซอร์วิส โดยเลือกจังหวัดนครนายก เป็นจังหวัดนำร่องก่อนขยายไปสู่จังหวัดอื่นๆ ต่อไป
ด้าน ดร.สุรชัย ศรีสารคาม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก กล่าวว่า ขั้นตอนการทำงานจะนำระบบ 3 ระบบมาบูรณาการเข้าด้วยกัน คือ ระบบทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ และระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร ซึ่งทั้ง 3 ระบบจะสามารถแสดงข้อมูลรายละเอียดอย่างครบถ้วน
โดยการเก็บข้อมูลจะเริ่มตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน อาทิ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล โรงเรียน บ้าน วิสาหกิจชุมชน วัด จากนั้นจะส่งข้อมูลเชื่อมโยงไปสู่ระดับตำบล ทั้ง อบต. เทศบาลตำบล สหกรณ์ตำบลหรือหรือสหกรณ์เทศบาลและสถานีตำรวจ ส่งต่อไปในระบบอำเภอ ก่อนจะเชื่อมโยงไปสู่ระดับจังหวัด และในระยะสุดท้ายจะเชื่อมไปสู่รัฐบาลกลาง หน่วยงานระดับกระทรวงและองค์กรนานาชาติ
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะครอบคลุม จ.นครนายกในปี 57 จากนั้นในปี 58 จะขยายผลอีก 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นครราชสีมา นครปฐม ชลบุรี ขอนแก่น อุดรธานี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครสวรรค์และเชียงใหม่ หลังจากนั้นปี 59 จะขยายผลอีก 18 จังหวัด อาทิ เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครพนม บึงกาฬ กำแพงเพชร ชัยนาท นนทบุรี ปทุมธานี ชุมพรและตรัง ฯลฯ ก่อนจะขยายครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศในปี 62 ทั้งนี้ สามารถเข้าไปตรวจสอบความคืบหน้าโครงการว่าจังหวัดของตนเองจะมีโครงการดังกล่าวเข้าไปบูรณาการในช่วงปีไหนผ่าน www.ny-thailand.net
เดลินิวส์ออนไลน์
วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2556
"อนุดิษฐ์" ขยายโครงการ "สมาร์ท โพรวิ้นซ์" 4 ชุมชน จ.นครนายก คาดครอบคลุมพื้นที่ของจังหวัดสิ้นปี 57 ด้วยงบจากก.มหาดไทย 200 ล้านบาท มั่นใจ ปี 62 ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ
วันนี้ (26 ส.ค.) ที่ชลพฤกษ์ รีสอร์ท นครนายก น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นประธานในพิธีโครงการนำร่องจังหวัดอัจฉริยะ สมาร์ท โพรวิ้นซ์ (Smart Province) เพื่อพัฒนาประเทศสู่การเป็น สมาร์ท คันทรี่ (Smart Country) ถือเป็นดารต่อยอดโครงการนำร่อง 4 ชุมชนของจังหวัดนครนายกหลังจากเปิดตัวโครงการเมื่อปีที่ผ่านมา
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า แนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทย คือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และพัฒนาบริการภาครัฐผ่านระบบไอซีที เพื่อสร้างโอกาสให้แก่ประชาชน สามารถเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม สำหรับงบประมาณการนำร่อง 4 ชุมชนมาจากกระทรวงไอซีที 27 ล้านบาท และล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณให้ 200 ล้านบาทเพื่อขยายต่อให้ครอบคลุมทั่วจังหวัดนครนายกในสิ้นปี 57 ส่วนงบประมาณในจังหวัดอื่นๆ อยู่ระหว่างการพิจารณา โดยมีเป้าหมายคือต้องการให้ประชาชนได้รับความสะดวกรวดเร็วในการตรวจสอบข้อมูลการให้บริการ รวมถึงข้อมูลสิทธิที่ควรจะได้รับจากภาครัฐผ่านบัตรประจำตัวประชาชน โดยสามารถทำธุรกรรมหรือขั้นตอนราชการต่างๆ ด้วยตัวเอง โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์เพื่อความสะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพแบบ วันสต็อปเซอร์วิส โดยเลือกจังหวัดนครนายก เป็นจังหวัดนำร่องก่อนขยายไปสู่จังหวัดอื่นๆ ต่อไป
ด้าน ดร.สุรชัย ศรีสารคาม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก กล่าวว่า ขั้นตอนการทำงานจะนำระบบ 3 ระบบมาบูรณาการเข้าด้วยกัน คือ ระบบทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ และระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร ซึ่งทั้ง 3 ระบบจะสามารถแสดงข้อมูลรายละเอียดอย่างครบถ้วน
โดยการเก็บข้อมูลจะเริ่มตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน อาทิ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล โรงเรียน บ้าน วิสาหกิจชุมชน วัด จากนั้นจะส่งข้อมูลเชื่อมโยงไปสู่ระดับตำบล ทั้ง อบต. เทศบาลตำบล สหกรณ์ตำบลหรือหรือสหกรณ์เทศบาลและสถานีตำรวจ ส่งต่อไปในระบบอำเภอ ก่อนจะเชื่อมโยงไปสู่ระดับจังหวัด และในระยะสุดท้ายจะเชื่อมไปสู่รัฐบาลกลาง หน่วยงานระดับกระทรวงและองค์กรนานาชาติ
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะครอบคลุม จ.นครนายกในปี 57 จากนั้นในปี 58 จะขยายผลอีก 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นครราชสีมา นครปฐม ชลบุรี ขอนแก่น อุดรธานี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครสวรรค์และเชียงใหม่ หลังจากนั้นปี 59 จะขยายผลอีก 18 จังหวัด อาทิ เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครพนม บึงกาฬ กำแพงเพชร ชัยนาท นนทบุรี ปทุมธานี ชุมพรและตรัง ฯลฯ ก่อนจะขยายครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศในปี 62 ทั้งนี้ สามารถเข้าไปตรวจสอบความคืบหน้าโครงการว่าจังหวัดของตนเองจะมีโครงการดังกล่าวเข้าไปบูรณาการในช่วงปีไหนผ่าน www.ny-thailand.net
เดลินิวส์ออนไลน์
วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2556