เอปสันเตรียมความพร้อมภายในรอตลาด

[brid.ladawan]

ไอที-นวัตกรรม
วันที่ 3 มีนาคม 2557 11:52
เอปสันเตรียมความพร้อมภายในรอตลาด

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

เอปสันเปิดตัวโปรเจ็กเตอร์ใหม่ 17 รุ่นรวด ครอบคลุมทุกกลุ่มตลาด หวังเพิ่มส่วนแบ่งตามเป้าหมายขึ้นเป็นที่ 1 ปีนี้

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัทเอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทออกสินค้าใหม่เพิ่มอีก 17 รุ่น เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด หลังจากผลสำรวจล่าสุดของบริษัทวิจัยยักษ์ใหญ่ของโลกคือ ฟิวเจอร์ซอร์ส ระบุว่าเอปสันยังรักษาแชมป์แบรนด์โปรเจ็กเตอร์ที่ครองยอดขายสูงสุดทั่วโลกเป็นปีที่ 13 ติดต่อกัน

ทั้งนี้ สอดคล้องกับภาพรวมธุรกิจในประเทศไทยที่เอปสันครองผู้นำโปรเจ็กเตอร์ระดับความสว่างต่ำกว่า 4000 ลูเมนส์ไว้ได้ และตั้งเป้าจะเป็นที่ 1 ระดับสูงกว่า 4000 ลูเมนส์ในปี 2557 ซึ่งพบว่าปัจจุบันช่องว่างส่วนแบ่งตลาดเข้าใกล้อันดับ 1 มากขึ้น

ตลาดรวมโปรเจ็กเตอร์ไทยมีประมาณ 1 แสนเครื่องต่อปี มูลค่าราว 1,700 ล้านบาท เอปสันครองส่วนแบ่ง 26% ขณะที่รายได้จากโปรเจ็กเตอร์ของเอปสันมีต่ำกว่า 20% ของรายได้รวมทั้งบริษัท โดยแบ่งตลาด 5 กลุ่ม มีสัดส่วนดังนี้คือ การศึกษา 50% เอสเอ็มอี 20-25% คอร์ปอเรท 10-15% โปรเฟสชันนอลและโฮม รวมกัน 5% เฉพาะตลาดไทยเครื่องโฮมมีส่วนแบ่ง 2-3% ต่างจากตลาดต่างประเทศที่มี 10%

"การเปิดตัวโปรเจ็กเตอร์ใหม่พร้อมกันหลายๆ รุ่น เนื่องจากการใช้งานสมาร์ท ดีไวซ์ที่นำมาใช้งานทั้งที่บ้านและสำนักงาน ทำให้เอปสันได้ปรับระบบการเชื่อมต่อให้รองรับอุปกรณ์ต่างๆ ทุกระดับ และพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ เพิ่มขึ้น เครื่องระดับ 1 หมื่นบาทขึ้นไปก็ใช้งานกับสมาร์ท ดีไวซ์ได้" นายยรรยงกล่าว

สำหรับโปรเจ็กเตอร์ใหม่ประกอบด้วยเครื่อง 3 ซีรีส์ คือ สมาร์ท ซีรีส์ รวม 10 รุ่น ความสว่าง 2700-3500 ลูเมนส์ เอฟโวลูชั่น ซีรีส์ 5 รุ่น เชื่อมต่อผ่านไวไฟได้ และโฮม ซีรีส์ 2 รุ่น ราคาตั้งแต่ 1 หมื่นบาท - กว่า 6 แสนบาท

ผู้บริหารเอปสันระบุว่า เครื่องรุ่นใหม่ที่เปิดตัว เป็นการตอกย้ำคุณภาพของเทคโนโลยี 3แอลซีดี ที่ช่วยให้ฉายภาพคมชัดสมจริง จากค่าแสงสี หรือคัลเลอร์ ไบร์ทเนส สูงเท่ากับแสงสีขาว และช่วยประหยัดพลังงาน 25%

ส่วนภาพรวมของตลาดโปรเจ็กเตอร์ช่วงไตรมาสแรกได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง ทำให้การขยายตัวไม่เด่นชัด แต่เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ทั้งภาครัฐและเอกชนจะกลับมาลงทุนเช่นเดิม และกระแสเออีซี ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องปรับตัว หันกลับมาลงทุนและพัฒนาระบบไอทีของตัวเองมากขึ้น

การที่ตลาดจะฟื้นกลับมาขึ้นกับการเมืองจะจบเร็วแค่ไหน และจบอย่างไร แต่ยังไม่ส่งผลให้ตลาดเติบโตมากขึ้น หรือลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่สถานการณ์ที่ไม่ดีทำให้เกิดการแข่งขันสูงโดยเฉพาะเรื่องราคาที่ทำราคาเฉลี่ยต่ำมาก หรือหากราคาเท่าเดิมก็จะเพิ่มระดับความสว่างขึ้น

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น บริษัทต้องบริหารด้วยความระมัดระวัง โดยได้จัดเตรียมความพร้อมภายใน ไม่ใช้เงินโฆษณาจำนวนมาก ไม่ทำกิจกรรมที่เกินเลย แต่เน้นการเตรียมความพร้อมตัวแทนจำหน่าย เช่น การเชิญดีลเลอร์ทั่วประเทศที่มีกว่า 100 รายเข้ามาฝึกอบรมตัวสินค้า การบริหารจัดการสต็อกสินค้าให้ยอดซื้อกับยอดขายสมดุลกัน ไม่เกิดภาระ ดูกิจกรรมสร้างตลาด และหวังผลระยะยาว สร้างคู่ค้าให้แข็งแรง พนักงานออกตลาดมากขึ้นเตรียมรับตลาดเปิด ที่คาดว่าจะต้องฟื้นตัวเร็วรับการแข่งขัน

ขณะเดียวกันได้เน้นตลาดต่างประเทศที่อยู่ในความรับผิดชอบ 5 ประเทศ ที่กำลังเติบโต โดยตลาดต่างประเทศเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 20% ของเอปสัน ประเทศไทย

นอกจากนี้ปีงบประมาณหน้าของบริษัทซึ่งจะเริ่มต้นเดือนเม.ย. บริษัทจะเน้นตลาดใหม่ๆ ที่มีช่องว่าง เช่น เครื่องพิมพ์หน้ากว้าง และทำให้ตลาดเก่าแข็งแกร่งมากขึ้น

ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 3 มีนาคม 2557