ปตท.อ่วมขาดทุนNGV2หมื่นล้าน
Posted: 08 Mar 2014, 14:22
ปตท.อ่วมขาดทุนNGV2หมื่นล้าน
ปตท.โอดปี 56 ขาดทุนกว่า 30,000 ล้าน ชี้มีสาเหตุจากภาครัฐกำหนดราคาขายเอ็นจีวีและแอลพีจี ทำให้แบกรับต้นทุนเพียบ “ไพรินทร์” เตรียมสั่งชะลอแผนขยายปั๊ม หวังลดต้นทุน อ้อนขอขึ้นราคา พร้อมจับมือกองทัพบกสู้ภัยแล้งทั่วประเทศ ในโครงการราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ มูลค่า 3.6 ล้านบาท
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปตท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ ปตท.แบกรับภาระการขาดทุนของการจำหน่ายก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วขาดทุนรวมกว่า 30,000 ล้านบาท แต่เฉพาะเอ็นจีวีขาดทุน 20,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 2,000 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 15-16 บาทต่อกิโลกรัม แต่ราคาขายถูกกำหนดโดยภาครัฐให้จำหน่ายที่ 10.50 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนแอลพีจีคาดว่าจะขาดทุนน้อยลง หลังรัฐบาลมีการปรับราคาหน้าโรงแยกก๊าซธรรมชาติตามการปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีครัวเรือน เดือนละ 50 สตางค์/กิโลกรัม ทำให้แบกภาระต้นทุนลดลง
ทั้งนี้ จากผลขาดทุนดังกล่าว ทำให้ ปตท.จะต้องปรับลดต้นทุนลง โดยหยุดขยายสถานีบริการเพิ่มขึ้น ยกเว้นสถานีบริการที่อยู่ติดแนวท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่มีต้นทุนการดำเนินงานต่ำ รวมทั้งหารือกับบริษัทที่มีรถขนส่งขนาดใหญ่จำนวนมาก เพื่อลงทุนสร้างสถานีบริการ และขายเอ็นจีวีให้ในราคาที่สูงกว่าภาครัฐกำหนด ขณะเดียวกัน ปตท.ต้องเดินหน้าหารือกับภาครัฐเรื่องการขอขึ้นราคาเอ็นจีวีต่อไป
“ปตท.คาดว่า รายได้ปี 2557 จะเพิ่มเป็น 2.97 ล้านล้านบาท จาก 2.84 ล้านล้านบาทในปีที่แล้ว จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 105 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนเล็กน้อย ขณะที่แนวโน้มธุรกิจของบริษัทในกลุ่มปิโตรเคมีและโรงกลั่นน้ำมัน น่าจะปรับตัวดีขึ้น” นายไพรินทร์กล่าว
นายไพรินทร์ กล่าวว่า ในปีนี้ ปตท.ได้ให้การสนับสนุน “โครงการ ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง” ประจำปี 2557 ด้วยการมอบผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิง ประกอบด้วย บัตรเติมน้ำมัน PTT Cash Card รวมมูลค่า 2,700,000 บาท และน้ำมันหล่อลื่น มูลค่า 300,000 บาท ให้แก่กองทัพบก เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของรถบรรทุกน้ำ และพาหนะกำลังพลของโครงการฯ นอกจากนี้ ปตท.ยังได้ให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการอำนวยการและการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องตลอดโครงการฯ อีกจำนวน 600,000 บาท รวมมูลค่าการให้การสนับสนุนโครงการฯ ในปีนี้จำนวนทั้งสิ้น 3,600,000 บาท.
ที่มา ไทยโพสต์
วันที่ 7 มีนาคม 2557
ปตท.โอดปี 56 ขาดทุนกว่า 30,000 ล้าน ชี้มีสาเหตุจากภาครัฐกำหนดราคาขายเอ็นจีวีและแอลพีจี ทำให้แบกรับต้นทุนเพียบ “ไพรินทร์” เตรียมสั่งชะลอแผนขยายปั๊ม หวังลดต้นทุน อ้อนขอขึ้นราคา พร้อมจับมือกองทัพบกสู้ภัยแล้งทั่วประเทศ ในโครงการราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ มูลค่า 3.6 ล้านบาท
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปตท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ ปตท.แบกรับภาระการขาดทุนของการจำหน่ายก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วขาดทุนรวมกว่า 30,000 ล้านบาท แต่เฉพาะเอ็นจีวีขาดทุน 20,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 2,000 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 15-16 บาทต่อกิโลกรัม แต่ราคาขายถูกกำหนดโดยภาครัฐให้จำหน่ายที่ 10.50 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนแอลพีจีคาดว่าจะขาดทุนน้อยลง หลังรัฐบาลมีการปรับราคาหน้าโรงแยกก๊าซธรรมชาติตามการปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีครัวเรือน เดือนละ 50 สตางค์/กิโลกรัม ทำให้แบกภาระต้นทุนลดลง
ทั้งนี้ จากผลขาดทุนดังกล่าว ทำให้ ปตท.จะต้องปรับลดต้นทุนลง โดยหยุดขยายสถานีบริการเพิ่มขึ้น ยกเว้นสถานีบริการที่อยู่ติดแนวท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่มีต้นทุนการดำเนินงานต่ำ รวมทั้งหารือกับบริษัทที่มีรถขนส่งขนาดใหญ่จำนวนมาก เพื่อลงทุนสร้างสถานีบริการ และขายเอ็นจีวีให้ในราคาที่สูงกว่าภาครัฐกำหนด ขณะเดียวกัน ปตท.ต้องเดินหน้าหารือกับภาครัฐเรื่องการขอขึ้นราคาเอ็นจีวีต่อไป
“ปตท.คาดว่า รายได้ปี 2557 จะเพิ่มเป็น 2.97 ล้านล้านบาท จาก 2.84 ล้านล้านบาทในปีที่แล้ว จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 105 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนเล็กน้อย ขณะที่แนวโน้มธุรกิจของบริษัทในกลุ่มปิโตรเคมีและโรงกลั่นน้ำมัน น่าจะปรับตัวดีขึ้น” นายไพรินทร์กล่าว
นายไพรินทร์ กล่าวว่า ในปีนี้ ปตท.ได้ให้การสนับสนุน “โครงการ ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง” ประจำปี 2557 ด้วยการมอบผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิง ประกอบด้วย บัตรเติมน้ำมัน PTT Cash Card รวมมูลค่า 2,700,000 บาท และน้ำมันหล่อลื่น มูลค่า 300,000 บาท ให้แก่กองทัพบก เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของรถบรรทุกน้ำ และพาหนะกำลังพลของโครงการฯ นอกจากนี้ ปตท.ยังได้ให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการอำนวยการและการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องตลอดโครงการฯ อีกจำนวน 600,000 บาท รวมมูลค่าการให้การสนับสนุนโครงการฯ ในปีนี้จำนวนทั้งสิ้น 3,600,000 บาท.
ที่มา ไทยโพสต์
วันที่ 7 มีนาคม 2557