ผู้ป่วยทางจิตมีแนวโน้มเพิ่ม "สธ."ต้องสร้างรพ.ใหม่รองรับ
Posted: 10 Mar 2014, 13:43
ผู้ป่วยทางจิตมีแนวโน้มเพิ่ม "สธ."ต้องสร้างรพ.ใหม่รองรับ
สธ.เผยคนไทยเกือบ 13 ล้านคน หรือ 20% ของประชากรทั้งประเทศมีปัญหาสุขภาพจิต ป่วยแล้วกว่า 3 ล้านราย ชี้แนวโน้มเพิ่มขึ้น เพราะวิถีชีวิตแบบคนเมืองขยายตัว สังคมไทยเปราะบางขึ้น ทุ่ม 360 ล้านบาทสร้าง รพ.จิตเวชอีกแห่งที่ จ.พิษณุโลก
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ. และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเขตบริการสุขภาพที่ 2 จ.พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ และตาก เพื่อติดตามความคืบหน้าของการจัดบริการสาธารณสุขร่วมกันของสถานพยาบาลทุกระดับที่อยู่ในพื้นที่ เชื่อมโยงกันทั้งในระดับเขตและภายในจังหวัด เสมือนเป็นโรงพยาบาลเดียวกัน เพื่อดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ซึ่งมีประมาณกว่า 3 ล้านคน
นพ.ณรงค์กล่าวว่า มีข้อมูลน่าสนใจ โดยกรมสุขภาพจิตได้ทำการสำรวจในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่าประชาชนไทยประมาณ 13 ล้านคน คิดเป็น 20% หรือประมาณ 1 ใน 5 ประสบปัญหาสุขภาพจิต เช่น เครียด วิตกกังวล และมีผู้ป่วยโรคทางจิตเวช 10 โรค เช่น โรคจิตเภท โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า ขึ้นทะเบียนรักษาในโรงพยาบาลทั่วประเทศในปี 2554 รวมกว่า 3 ล้านราย ทั้งนี้ ได้มีการคาดการณ์ว่าในปี 2570 นี้ ปัญหาสุขภาพจิตจะมีมากขึ้น เนื่องจากผลพวงของการเปลี่ยนเป็นสภาพสังคมเมืองมากขึ้น พื้นที่ที่เป็นเขตปริมณฑลจะเป็นเขตเมืองอย่างสมบูรณ์ ทำให้ประชาชนใช้ชีวิตแบบต่างคนต่างอยู่ สังคมไทยมีความเปราะบางขึ้น ความอบอุ่นเช่นสภาพของสังคมแบบชนบท หรือสังคมเกื้อกูลแบบเครือญาติ จะลดน้อยลงเรื่อยๆ
ขณะนี้ผู้ป่วยทางจิตประมาณ 1 ใน 3 หรือประมาณกว่า 1 ล้าน 9 หมื่นราย รักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง ทั่วประเทศมีแล้ว 17 แห่ง ครอบคลุม 11 เขต รวม 72 จังหวัด และผู้ป่วยที่เหลือดูแล รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป และ รพ.ชุมชน โดยที่เขตบริการสุขภาพที่ 2 ยังไม่มี รพ.จิตเวช ดังนั้นในปีนี้ สธ.จึงได้จัดสรรงบประมาณ 360 ล้านบาท ก่อสร้าง รพ.จิตเวช ขนาด 200 เตียง ที่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก จะแล้วเสร็จและให้บริการสมบูรณ์แบบในปี 2560 ประชาชนที่ป่วยไม่ต้องเดินทางไปรักษานอกเขต เช่น ที่เชียงใหม่ ขอนแก่น นครสวรรค์ ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 200-300 กิโลเมตร
ด้าน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ. กล่าวว่า ในการพัฒนาบริการสุขภาพจิตของเขตบริการสุขภาพที่ 2 ขณะนี้ได้เปิดหอผู้ป่วยจิตเวชใน รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป เช่น ที่ รพ.อุตรดิตถ์ รพ.แม่สอด จ.ตาก รพ.สุโขทัย รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก และได้ขยายการรักษาลงถึง รพ.ชุมชนทุกแห่ง โดยจัดทำมาตรฐานแนวทางรักษาโรคจิตเวชที่พบบ่อย 10 โรค เช่น โรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการฆ่าตัวตาย โรคจิตเภท โรควิตกกังวล โรคความจำเสื่อม และใช้ยารักษาเหมือนกันทุกแห่ง รวมทั้งจัดระบบการรักษาผู้ป่วยโรคจิตทางไกล มีแพทย์เฉพาะทางให้คำปรึกษาแก่แพทย์ใน รพ.ชุมชนทุกแห่ง ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถลดปัญหาการฆ่าตัวตายได้ 12% โดยลดจาก 279 รายในปี 2555 เหลือ 248 รายในปี 2556 อัตราการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยดีขึ้น เช่น ผู้ป่วยโรคจิตเภทเข้าถึงบริการได้ 70% โรคซึมเศร้าเข้าถึงร้อยละ 51 เป็นต้น
นอกจากนี้ยังจัดนำร่องการพัฒนาการจัดบริการผู้ป่วยจิตเวชใน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ซึ่งประชาชน 90% ทำอาชีพเกษตรกรรม โดย รพ.กงไกรลาศตรวจคัดกรองหาผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตเพื่อดูแล รักษา ฟื้นฟูเป็นเครือข่าย ร่วมกันระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกตำบล อาสาสมัครในหมู่บ้าน ครอบครัวผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยหลังออกจาก รพ. และกลับไปอยู่ที่บ้านได้รับการรักษากินยาต่อเนื่อง ไม่ขาดยาจนอาการกำเริบ สามารถแก้ไขปัญหาการล่ามโซ่ผู้ป่วยจิตเวชที่มีอาการคลุ้มคลั่งเพราะขาดยา ซึ่งในพื้นที่มีประมาณ 15 ราย ได้สำเร็จ.
ที่มา ไทยโพสต์
วันที่ 10 มีนาคม 2557
สธ.เผยคนไทยเกือบ 13 ล้านคน หรือ 20% ของประชากรทั้งประเทศมีปัญหาสุขภาพจิต ป่วยแล้วกว่า 3 ล้านราย ชี้แนวโน้มเพิ่มขึ้น เพราะวิถีชีวิตแบบคนเมืองขยายตัว สังคมไทยเปราะบางขึ้น ทุ่ม 360 ล้านบาทสร้าง รพ.จิตเวชอีกแห่งที่ จ.พิษณุโลก
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ. และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเขตบริการสุขภาพที่ 2 จ.พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ และตาก เพื่อติดตามความคืบหน้าของการจัดบริการสาธารณสุขร่วมกันของสถานพยาบาลทุกระดับที่อยู่ในพื้นที่ เชื่อมโยงกันทั้งในระดับเขตและภายในจังหวัด เสมือนเป็นโรงพยาบาลเดียวกัน เพื่อดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ซึ่งมีประมาณกว่า 3 ล้านคน
นพ.ณรงค์กล่าวว่า มีข้อมูลน่าสนใจ โดยกรมสุขภาพจิตได้ทำการสำรวจในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่าประชาชนไทยประมาณ 13 ล้านคน คิดเป็น 20% หรือประมาณ 1 ใน 5 ประสบปัญหาสุขภาพจิต เช่น เครียด วิตกกังวล และมีผู้ป่วยโรคทางจิตเวช 10 โรค เช่น โรคจิตเภท โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า ขึ้นทะเบียนรักษาในโรงพยาบาลทั่วประเทศในปี 2554 รวมกว่า 3 ล้านราย ทั้งนี้ ได้มีการคาดการณ์ว่าในปี 2570 นี้ ปัญหาสุขภาพจิตจะมีมากขึ้น เนื่องจากผลพวงของการเปลี่ยนเป็นสภาพสังคมเมืองมากขึ้น พื้นที่ที่เป็นเขตปริมณฑลจะเป็นเขตเมืองอย่างสมบูรณ์ ทำให้ประชาชนใช้ชีวิตแบบต่างคนต่างอยู่ สังคมไทยมีความเปราะบางขึ้น ความอบอุ่นเช่นสภาพของสังคมแบบชนบท หรือสังคมเกื้อกูลแบบเครือญาติ จะลดน้อยลงเรื่อยๆ
ขณะนี้ผู้ป่วยทางจิตประมาณ 1 ใน 3 หรือประมาณกว่า 1 ล้าน 9 หมื่นราย รักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง ทั่วประเทศมีแล้ว 17 แห่ง ครอบคลุม 11 เขต รวม 72 จังหวัด และผู้ป่วยที่เหลือดูแล รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป และ รพ.ชุมชน โดยที่เขตบริการสุขภาพที่ 2 ยังไม่มี รพ.จิตเวช ดังนั้นในปีนี้ สธ.จึงได้จัดสรรงบประมาณ 360 ล้านบาท ก่อสร้าง รพ.จิตเวช ขนาด 200 เตียง ที่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก จะแล้วเสร็จและให้บริการสมบูรณ์แบบในปี 2560 ประชาชนที่ป่วยไม่ต้องเดินทางไปรักษานอกเขต เช่น ที่เชียงใหม่ ขอนแก่น นครสวรรค์ ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 200-300 กิโลเมตร
ด้าน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ. กล่าวว่า ในการพัฒนาบริการสุขภาพจิตของเขตบริการสุขภาพที่ 2 ขณะนี้ได้เปิดหอผู้ป่วยจิตเวชใน รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป เช่น ที่ รพ.อุตรดิตถ์ รพ.แม่สอด จ.ตาก รพ.สุโขทัย รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก และได้ขยายการรักษาลงถึง รพ.ชุมชนทุกแห่ง โดยจัดทำมาตรฐานแนวทางรักษาโรคจิตเวชที่พบบ่อย 10 โรค เช่น โรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการฆ่าตัวตาย โรคจิตเภท โรควิตกกังวล โรคความจำเสื่อม และใช้ยารักษาเหมือนกันทุกแห่ง รวมทั้งจัดระบบการรักษาผู้ป่วยโรคจิตทางไกล มีแพทย์เฉพาะทางให้คำปรึกษาแก่แพทย์ใน รพ.ชุมชนทุกแห่ง ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถลดปัญหาการฆ่าตัวตายได้ 12% โดยลดจาก 279 รายในปี 2555 เหลือ 248 รายในปี 2556 อัตราการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยดีขึ้น เช่น ผู้ป่วยโรคจิตเภทเข้าถึงบริการได้ 70% โรคซึมเศร้าเข้าถึงร้อยละ 51 เป็นต้น
นอกจากนี้ยังจัดนำร่องการพัฒนาการจัดบริการผู้ป่วยจิตเวชใน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ซึ่งประชาชน 90% ทำอาชีพเกษตรกรรม โดย รพ.กงไกรลาศตรวจคัดกรองหาผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตเพื่อดูแล รักษา ฟื้นฟูเป็นเครือข่าย ร่วมกันระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกตำบล อาสาสมัครในหมู่บ้าน ครอบครัวผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยหลังออกจาก รพ. และกลับไปอยู่ที่บ้านได้รับการรักษากินยาต่อเนื่อง ไม่ขาดยาจนอาการกำเริบ สามารถแก้ไขปัญหาการล่ามโซ่ผู้ป่วยจิตเวชที่มีอาการคลุ้มคลั่งเพราะขาดยา ซึ่งในพื้นที่มีประมาณ 15 ราย ได้สำเร็จ.
ที่มา ไทยโพสต์
วันที่ 10 มีนาคม 2557