ภตช.จี้"อ๋อย"สอบ"ชัยพฤกษ์"ทุจริตอาชีวะ
Posted: 10 Mar 2014, 13:58
ภตช.จี้"อ๋อย"สอบ"ชัยพฤกษ์"ทุจริตอาชีวะ
"มงคลกิตติ์" เลขาธิการ ภตช. ยื่นหนังสือ "จาตุรนต์" เรียกสอบวินัย "ชัยพฤกษ์" กรณีจัดซื้อคุรุภัณฑ์อาชีวะ ระบุปากคำให้การ "ศศิธารา" สะท้อนข้อเท็จจริงที่ควรมีการตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ด้วย
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม เวลา 14.45 น. ที่สำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรทางการศึกษา (สสอ.) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติ (ภตช.) เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงนายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) คนปัจจุบัน และผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งขอให้โยกย้ายพ้นจากหน่วยงานเดิมระหว่างที่มีการสอบสวน ทั้งนี้ ภตช.เรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงในกรณีเดียวกับนางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการสภาการศึกษา ในประเด็นเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวศึกษา โครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 หรือ SP2 สูญหายและส่อว่าอาจมีความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างนั้น ซึ่งล่าสุดมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ทำหน้าที่ อ.ก.พ.กระทรวง มีมติให้ปลดนางสาวศศิธาราออกจากราชการ
ทั้งนี้ ภายหลัง อ.ก.พ.สกศ.มีมติดังกล่าวออกมา นางสาวศศิธาราได้ให้สัมภาษณ์ว่าหากตนเองผิด นายชัยพฤกษ์ก็ต้องผิดด้วย เพราะเป็นการจัดซื้อจัดจ้างลักษณะเดียวกัน ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบว่าวงเงินการจัดซื้อ 1,500 ล้านบาท ที่จัดซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ถึงปัจจุบัน คาดว่านายชัยพฤกษ์เซ็นสัญญาจัดซื้อจ้างไปแล้ว 13 รายการ วงเงิน 884 ล้านบาท จากวงเงินทั้งหมดกว่า 1,200 ล้านบาท หรือประมาณ 20 สัญญา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความไม่โปร่งใสและเป็นไม่เป็นธรรมในการจัดซื้อจัดจ้าง โดยก่อนหน้า ภตช.ได้ยื่นหนังสือขอให้มีการตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริงและตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายชัยพฤกษ์ด้วย ในสมัยนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ เพราะมีข้อมูลคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของ ศธ. จำนวน 4 ชุด เมื่อเดือนกรกฎาคม 2555 ที่สรุปตรงกันว่าโครงการดังกล่าวมีมูลการทุจริตและประพฤติมิชอบ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทำให้ราชการเสียหายร้ายแรง
"ขอให้รักษาการ รมว.ศธ.ตรวจสอบกรณีที่นางสาวศศิธาราให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการสอบสวน เพราะนายชัยพฤกษ์ก็จัดซื้อเหมือนกัน แต่กลับไม่ถูกตรวจสอบ ต้องถือว่าคำพูดของนางสาวศศิธาราเป็นประโยชน์กับทางราชการ คาดว่านางสาวศศิธาราคงมีข้อมูลมากพอจึงกล้าออกมาพูดเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่มีการสอบสวนขอเสนอให้มีการย้ายผู้ถูกสอบสวนออกมาหน่วยงานก่อน เพื่อความสะดวกในการสอบสวน” นายมงคลกิตติ์กล่าว
ด้านนายจาตุรนต์กล่าวว่า ตนจะให้ไปตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสืบเนื่องกับกรณีนางสาวศศิธาราหรือไม่ หรือเป็นประเด็นใหม่ที่ยังไม่เคยมีการสืบสวนข้อมูลใดๆ มาก่อน ส่วนข้อเสนอที่จะให้โยกย้ายนายชัยพฤกษ์พ้นจาก สอศ.ในเวลานี้ยังเป็นประเด็นที่ไกลเกินไป ที่สุดแล้วต้องมีข้อมูลที่แน่ชัดมาก่อนจึงจะตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร.
ที่มา ไทยโพสต์
วันที่ 5 มีนาคม 2557
"มงคลกิตติ์" เลขาธิการ ภตช. ยื่นหนังสือ "จาตุรนต์" เรียกสอบวินัย "ชัยพฤกษ์" กรณีจัดซื้อคุรุภัณฑ์อาชีวะ ระบุปากคำให้การ "ศศิธารา" สะท้อนข้อเท็จจริงที่ควรมีการตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ด้วย
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม เวลา 14.45 น. ที่สำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรทางการศึกษา (สสอ.) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติ (ภตช.) เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงนายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) คนปัจจุบัน และผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งขอให้โยกย้ายพ้นจากหน่วยงานเดิมระหว่างที่มีการสอบสวน ทั้งนี้ ภตช.เรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงในกรณีเดียวกับนางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการสภาการศึกษา ในประเด็นเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวศึกษา โครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 หรือ SP2 สูญหายและส่อว่าอาจมีความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างนั้น ซึ่งล่าสุดมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ทำหน้าที่ อ.ก.พ.กระทรวง มีมติให้ปลดนางสาวศศิธาราออกจากราชการ
ทั้งนี้ ภายหลัง อ.ก.พ.สกศ.มีมติดังกล่าวออกมา นางสาวศศิธาราได้ให้สัมภาษณ์ว่าหากตนเองผิด นายชัยพฤกษ์ก็ต้องผิดด้วย เพราะเป็นการจัดซื้อจัดจ้างลักษณะเดียวกัน ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบว่าวงเงินการจัดซื้อ 1,500 ล้านบาท ที่จัดซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ถึงปัจจุบัน คาดว่านายชัยพฤกษ์เซ็นสัญญาจัดซื้อจ้างไปแล้ว 13 รายการ วงเงิน 884 ล้านบาท จากวงเงินทั้งหมดกว่า 1,200 ล้านบาท หรือประมาณ 20 สัญญา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความไม่โปร่งใสและเป็นไม่เป็นธรรมในการจัดซื้อจัดจ้าง โดยก่อนหน้า ภตช.ได้ยื่นหนังสือขอให้มีการตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริงและตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายชัยพฤกษ์ด้วย ในสมัยนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ เพราะมีข้อมูลคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของ ศธ. จำนวน 4 ชุด เมื่อเดือนกรกฎาคม 2555 ที่สรุปตรงกันว่าโครงการดังกล่าวมีมูลการทุจริตและประพฤติมิชอบ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทำให้ราชการเสียหายร้ายแรง
"ขอให้รักษาการ รมว.ศธ.ตรวจสอบกรณีที่นางสาวศศิธาราให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการสอบสวน เพราะนายชัยพฤกษ์ก็จัดซื้อเหมือนกัน แต่กลับไม่ถูกตรวจสอบ ต้องถือว่าคำพูดของนางสาวศศิธาราเป็นประโยชน์กับทางราชการ คาดว่านางสาวศศิธาราคงมีข้อมูลมากพอจึงกล้าออกมาพูดเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่มีการสอบสวนขอเสนอให้มีการย้ายผู้ถูกสอบสวนออกมาหน่วยงานก่อน เพื่อความสะดวกในการสอบสวน” นายมงคลกิตติ์กล่าว
ด้านนายจาตุรนต์กล่าวว่า ตนจะให้ไปตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสืบเนื่องกับกรณีนางสาวศศิธาราหรือไม่ หรือเป็นประเด็นใหม่ที่ยังไม่เคยมีการสืบสวนข้อมูลใดๆ มาก่อน ส่วนข้อเสนอที่จะให้โยกย้ายนายชัยพฤกษ์พ้นจาก สอศ.ในเวลานี้ยังเป็นประเด็นที่ไกลเกินไป ที่สุดแล้วต้องมีข้อมูลที่แน่ชัดมาก่อนจึงจะตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร.
ที่มา ไทยโพสต์
วันที่ 5 มีนาคม 2557