ไทยส่งเรือรบหลวงปัตตานี ช่วยเครื่องบินตก
Posted: 10 Mar 2014, 16:36
ไทยส่งเรือรบหลวงปัตตานี ช่วยเครื่องบินตก
ชัชชาติ เผยไทยส่งเรือรบหลวงปัตตานี ช่วยที่เกาะลังกาวี สั่งตั้งศูนย์ประสานการกู้ภัย ที่กรมการบินพลเรือน พร้อมสั่งเข้มตรวจสอบวีซ่า-พาสปอร์ตปลอม ก่อนเดินทาง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ทางการไทยได้ส่งความช่วยเหลือไปค้นหาซากเครื่องบินตก ของสายการมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน เอ็มเอช 370 แล้ว โดยส่งเรือรบหลวงปัตตานี และเฮลิคอปเตอร์ ซูเปอร์ลีนซ์ 1 ลำ ไปช่วยค้นหาแถบพื้นที่เกาะลังกาวี และยังได้เตรียมพร้อมเรือรบหลวงสงขลาไว้สำหรับค้นหาฝั่งอ่าวไทยด้วย หากมีการขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมมา ขณะเดียวกันยังให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลในการค้าหาที่เป็นประโยชน์ระหว่างกันด้วย
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ประสานงานการกู้ภัย ที่กรมการบินพลเรือน ของไทย พร้อมให้ปฏิบัติตามแผน การค้นหาช่วยเหลือ และการกู้ภัยด้วย ส่วนประเด็นเกี่ยวกับการก่อการร้าย หรือมีการใช้หนังสือเดินทางปลอม เรื่องนี้ได้แจ้งให้บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานที่เกี่ยว เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจวีซ่า หนังสือเดินทางมากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาท่าอากาศยานไทยก็ความเข้มงวดตามหลักมาตรฐานสากล และสามารถเช็กฐานข้อมูลของหนังสือเดินทางกับผู้เดินทางได้แม่นยำอยู่แล้ว แต่กรณีที่มีการขโมยหนังสือเดินทางในไทย เป็นหน้าที่ของตำรวจในการสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
“หลังเกิดเหตุกรมการบินพลเรือนได้เสนอตัวให้ความช่วยเหลือในการค้นหาและกู้ภัยกับทางกรมการบินพลเรือนของมาเลเซีย ซึ่งทางศูนย์ประสานงานการกู้ภัย หรืออาร์อาร์ซี ประเทศมาเลเซีย ได้ตอบกลับมาแสดงความขอบคุณในการเสนอความช่วยเหลือจากไทย และขอให้ไทยช่วยสนับสนุนการค้นหาทางอากาศ ตามแนวชายฝั่งไทยเริ่มจากเขตชายแดนไทยบริเวณเหนือโกตาบารูมุ่งหน้าทางทิศเหนือ พร้อมกับขอให้ไทยแจ้งจำนวนและประเภทของเรือ ที่สามารถเข้าร่วมการค้นหาและกู้ภัย เพื่อทางมาเลเซียจะนำไปใช้ในการวางแผนด้วย”
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 10 มีนาคม 2557
ชัชชาติ เผยไทยส่งเรือรบหลวงปัตตานี ช่วยที่เกาะลังกาวี สั่งตั้งศูนย์ประสานการกู้ภัย ที่กรมการบินพลเรือน พร้อมสั่งเข้มตรวจสอบวีซ่า-พาสปอร์ตปลอม ก่อนเดินทาง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ทางการไทยได้ส่งความช่วยเหลือไปค้นหาซากเครื่องบินตก ของสายการมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน เอ็มเอช 370 แล้ว โดยส่งเรือรบหลวงปัตตานี และเฮลิคอปเตอร์ ซูเปอร์ลีนซ์ 1 ลำ ไปช่วยค้นหาแถบพื้นที่เกาะลังกาวี และยังได้เตรียมพร้อมเรือรบหลวงสงขลาไว้สำหรับค้นหาฝั่งอ่าวไทยด้วย หากมีการขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมมา ขณะเดียวกันยังให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลในการค้าหาที่เป็นประโยชน์ระหว่างกันด้วย
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ประสานงานการกู้ภัย ที่กรมการบินพลเรือน ของไทย พร้อมให้ปฏิบัติตามแผน การค้นหาช่วยเหลือ และการกู้ภัยด้วย ส่วนประเด็นเกี่ยวกับการก่อการร้าย หรือมีการใช้หนังสือเดินทางปลอม เรื่องนี้ได้แจ้งให้บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานที่เกี่ยว เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจวีซ่า หนังสือเดินทางมากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาท่าอากาศยานไทยก็ความเข้มงวดตามหลักมาตรฐานสากล และสามารถเช็กฐานข้อมูลของหนังสือเดินทางกับผู้เดินทางได้แม่นยำอยู่แล้ว แต่กรณีที่มีการขโมยหนังสือเดินทางในไทย เป็นหน้าที่ของตำรวจในการสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
“หลังเกิดเหตุกรมการบินพลเรือนได้เสนอตัวให้ความช่วยเหลือในการค้นหาและกู้ภัยกับทางกรมการบินพลเรือนของมาเลเซีย ซึ่งทางศูนย์ประสานงานการกู้ภัย หรืออาร์อาร์ซี ประเทศมาเลเซีย ได้ตอบกลับมาแสดงความขอบคุณในการเสนอความช่วยเหลือจากไทย และขอให้ไทยช่วยสนับสนุนการค้นหาทางอากาศ ตามแนวชายฝั่งไทยเริ่มจากเขตชายแดนไทยบริเวณเหนือโกตาบารูมุ่งหน้าทางทิศเหนือ พร้อมกับขอให้ไทยแจ้งจำนวนและประเภทของเรือ ที่สามารถเข้าร่วมการค้นหาและกู้ภัย เพื่อทางมาเลเซียจะนำไปใช้ในการวางแผนด้วย”
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 10 มีนาคม 2557