7 คำถามน่ารู้ ‘ซีสต์รังไข่’/Health Line สายตรงสุขภาพ
Posted: 13 Mar 2014, 11:03
7 คำถามน่ารู้ ‘ซีสต์รังไข่’/Health Line สายตรงสุขภาพ
ซีสต์ ไม่ใช่โรค แต่เป็นภาวะของการเกิดมีสิ่งแปลกปลอมขึ้นในร่างกาย และตามสถิติ พบว่า สุภาพสตรีมีภาวะแบบนี้กันมากขึ้น นพ.นาฏนภา วชิรธาราภาดร สูตินรีประจำโรงพยาบาลมิชชั่น มาให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องซีสต์ในรังไข่ ผ่านคำถามน่ารู้ 7 ข้อ ดังต่อไปนี้
1.คนตั้งครรภ์ด้วย และเป็นซีสต์ด้วย จะสังเกตอาการอย่างไร
อาการจะเจ็บหน่วงๆ แต่ในขณะที่คนท้องปกติซึ่งไม่ได้เป็นซีสต์ ก็สามารถเจ็บหน่วงได้เหมือนกัน อาจจะต้องให้ประเมินโดยแพทย์ บางคนมีถุงน้ำ ก็ไปรบกวนการทำงานของรังไข่ อาจจะมีการเลือดออกผิดปกติขณะตั้งครรภ์ ก็สามารถเป็นไปได้เหมือนกัน
2.ปวดศีรษะ ปวดท้อง ตอนมีประจำเดือน และมีประจำเดือนน้อย แค่สองวันก็หายแล้ว อย่างนี้ถือว่าเสี่ยงต่อการเป็นซีสต์หรือเปล่า
ถ้าถามความเห็นหมอ ลักษณะแบบนี้ถือว่ามีความเสี่ยงต่อการเป็นช็อกโกแลตซีสต์ อาการของซีสต์แบบนี้ ก็จะสังเกตได้ประมาณว่า ถ้าประจำเดือนเคยมาเยอะ แต่จู่ๆ ก็มาน้อยลง หรือมาแบบกระปิดกระปอย มาไม่หยุด เพราะทฤษฎีหนึ่งซึ่งใช้อธิบายช็อกโกแลตซีสต์ก็คือ มีการไหลย้อนของประจำเดือน ย้อนเข้าไปในอุ้งเชิงกราน ซึ่งอันที่จริง สำหรับทั่วไปก็มีการไหลย้อนกลับไปเข้าไปอยู่แล้ว เพียงแต่มันจะมีภูมิคุ้มกันของร่างกายที่จะไปเก็บกินเนื้อเยื่อบุไม่ให้หลุดรอดเข้าไปในอุ้งเชิงกราน แต่บางคน ภูมิคุ้มกันตัวที่ว่านี้ ทำงานไม่ดี ไม่สามารถเก็บกินเนื้อเยื่อบุเหล่านั้นได้หมด มันก็จะไปเจริญเติบโตในอุ้งเชิงกราน หรือถ้าไปเกาะที่รังไข่ ก็เกิดเป็นถุงน้ำที่รังไข่ได้เหมือนกัน นั่นก็คือเกิดเป็นช็อกโกแลตซีสต์
3.เวลามีประจำเดือน ไม่เคยปวดท้องเลย แต่ปวดหลังแทน อย่างนี้เกิดจากสาเหตุอะไร
ส่วนใหญ่เราจะพบว่ามีการเกิดพังผืดในช่องท้อง ในอุ้งเชิงกราน ก็ทำให้ปวดหลังได้ ก็ต้องไปตรวจเช็กดูว่ามีลักษณะของซีสต์หรือว่ามีพังผืดหรือเปล่า
4.มีอาการปวดรุนแรง ปวดแบบร้าวๆ ทุกครั้งที่มีประจำเดือน อย่างนี้ผ่าตัดเลยดีไหม
จริงๆ ก็ต้องมาประเมินกันดูก่อนว่ามันมีโรคอยู่หรือเปล่า เพราะบางคน ปวดประจำเดือนมาก ปวดตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือน อายุ 12-13 ปี ปวดมาเรื่อยๆ อันนี้บางส่วนไม่ได้เป็นโรคอะไรเลย เป็นแค่อาการปวดประจำเดือนมากกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง แต่กลุ่มที่น่าสนใจมากกว่าคือกลุ่มที่แต่เดิมไม่เคยปวดแล้วมาปวด หรือปวดรุนแรงมากขึ้นๆ อันนี้มักจะเป็นโรค
5.ช็อกโกแลตซีสต์ ถ้าไม่ผ่าตัดออก มันจะพัฒนากลายไปเป็นมะเร็งหรือเปล่า
ต้องบอกว่า ต้นกำเนิดของช็อกโกแลตซีสต์ไม่ใช่มะเร็ง โอกาสที่จะกลายเป็นมะเร็ง น่าจะต่ำมาก และพวกช็อกโกแลตซีสต์ เมื่อหมดประจำเดือน มันจะฝ่อหายไปเอง
6.อายุ 60 กว่าแล้ว มีเลือดออกในช่องคลอด ต้องรักษาหรือเปล่า
อันนี้ต้องด่วนเลยค่ะ เพราะในวัยหมดประจำเดือนแล้ว ไม่ควรมีเลือดออกจากช่องคลอด เพราะถ้ามีเลือดออก เราเกรงว่าจะเป็นมะเร็งในเยื่อบุโพรงมดลูก เราก็ต้องมาเช็ก ถ้ามีเซลล์มะเร็งก็อาจจะต้องผ่าตัด แต่อีกภาวะหนึ่งซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ก็คือ มีการอักเสบของช่องคลอด จากภาวะวัยทอง การที่ฮอร์โมนเพศหญิงต่ำลง ทำให้เกิดการฝ่อของช่องคลอด ทำให้มีเลือดออกได้เหมือนกัน
7.อายุ 19 ปี เป็นช็อกโกแลตซีสต์ และการกินฮอร์โมนนานๆ จะส่งผลให้เป็นมะเร็งได้ไหม
ไม่มีหลักฐานว่าการกินฮอร์โมนนานๆ จะทำให้เป็นมะเร็ง แต่มีหลักฐานว่าช่วยลดมะเร็งรังไข่ได้ แนะนำให้ทานไว้เลย
ขอบคุณข้อมูล : รายการ “Health Line สายตรงสุขภาพ” รายการที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 7.00-8.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และสามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ www.manager.co.th/vdo
ที่มา ASTV ผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 13 มีนาคม 2557
ซีสต์ ไม่ใช่โรค แต่เป็นภาวะของการเกิดมีสิ่งแปลกปลอมขึ้นในร่างกาย และตามสถิติ พบว่า สุภาพสตรีมีภาวะแบบนี้กันมากขึ้น นพ.นาฏนภา วชิรธาราภาดร สูตินรีประจำโรงพยาบาลมิชชั่น มาให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องซีสต์ในรังไข่ ผ่านคำถามน่ารู้ 7 ข้อ ดังต่อไปนี้
1.คนตั้งครรภ์ด้วย และเป็นซีสต์ด้วย จะสังเกตอาการอย่างไร
อาการจะเจ็บหน่วงๆ แต่ในขณะที่คนท้องปกติซึ่งไม่ได้เป็นซีสต์ ก็สามารถเจ็บหน่วงได้เหมือนกัน อาจจะต้องให้ประเมินโดยแพทย์ บางคนมีถุงน้ำ ก็ไปรบกวนการทำงานของรังไข่ อาจจะมีการเลือดออกผิดปกติขณะตั้งครรภ์ ก็สามารถเป็นไปได้เหมือนกัน
2.ปวดศีรษะ ปวดท้อง ตอนมีประจำเดือน และมีประจำเดือนน้อย แค่สองวันก็หายแล้ว อย่างนี้ถือว่าเสี่ยงต่อการเป็นซีสต์หรือเปล่า
ถ้าถามความเห็นหมอ ลักษณะแบบนี้ถือว่ามีความเสี่ยงต่อการเป็นช็อกโกแลตซีสต์ อาการของซีสต์แบบนี้ ก็จะสังเกตได้ประมาณว่า ถ้าประจำเดือนเคยมาเยอะ แต่จู่ๆ ก็มาน้อยลง หรือมาแบบกระปิดกระปอย มาไม่หยุด เพราะทฤษฎีหนึ่งซึ่งใช้อธิบายช็อกโกแลตซีสต์ก็คือ มีการไหลย้อนของประจำเดือน ย้อนเข้าไปในอุ้งเชิงกราน ซึ่งอันที่จริง สำหรับทั่วไปก็มีการไหลย้อนกลับไปเข้าไปอยู่แล้ว เพียงแต่มันจะมีภูมิคุ้มกันของร่างกายที่จะไปเก็บกินเนื้อเยื่อบุไม่ให้หลุดรอดเข้าไปในอุ้งเชิงกราน แต่บางคน ภูมิคุ้มกันตัวที่ว่านี้ ทำงานไม่ดี ไม่สามารถเก็บกินเนื้อเยื่อบุเหล่านั้นได้หมด มันก็จะไปเจริญเติบโตในอุ้งเชิงกราน หรือถ้าไปเกาะที่รังไข่ ก็เกิดเป็นถุงน้ำที่รังไข่ได้เหมือนกัน นั่นก็คือเกิดเป็นช็อกโกแลตซีสต์
3.เวลามีประจำเดือน ไม่เคยปวดท้องเลย แต่ปวดหลังแทน อย่างนี้เกิดจากสาเหตุอะไร
ส่วนใหญ่เราจะพบว่ามีการเกิดพังผืดในช่องท้อง ในอุ้งเชิงกราน ก็ทำให้ปวดหลังได้ ก็ต้องไปตรวจเช็กดูว่ามีลักษณะของซีสต์หรือว่ามีพังผืดหรือเปล่า
4.มีอาการปวดรุนแรง ปวดแบบร้าวๆ ทุกครั้งที่มีประจำเดือน อย่างนี้ผ่าตัดเลยดีไหม
จริงๆ ก็ต้องมาประเมินกันดูก่อนว่ามันมีโรคอยู่หรือเปล่า เพราะบางคน ปวดประจำเดือนมาก ปวดตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือน อายุ 12-13 ปี ปวดมาเรื่อยๆ อันนี้บางส่วนไม่ได้เป็นโรคอะไรเลย เป็นแค่อาการปวดประจำเดือนมากกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง แต่กลุ่มที่น่าสนใจมากกว่าคือกลุ่มที่แต่เดิมไม่เคยปวดแล้วมาปวด หรือปวดรุนแรงมากขึ้นๆ อันนี้มักจะเป็นโรค
5.ช็อกโกแลตซีสต์ ถ้าไม่ผ่าตัดออก มันจะพัฒนากลายไปเป็นมะเร็งหรือเปล่า
ต้องบอกว่า ต้นกำเนิดของช็อกโกแลตซีสต์ไม่ใช่มะเร็ง โอกาสที่จะกลายเป็นมะเร็ง น่าจะต่ำมาก และพวกช็อกโกแลตซีสต์ เมื่อหมดประจำเดือน มันจะฝ่อหายไปเอง
6.อายุ 60 กว่าแล้ว มีเลือดออกในช่องคลอด ต้องรักษาหรือเปล่า
อันนี้ต้องด่วนเลยค่ะ เพราะในวัยหมดประจำเดือนแล้ว ไม่ควรมีเลือดออกจากช่องคลอด เพราะถ้ามีเลือดออก เราเกรงว่าจะเป็นมะเร็งในเยื่อบุโพรงมดลูก เราก็ต้องมาเช็ก ถ้ามีเซลล์มะเร็งก็อาจจะต้องผ่าตัด แต่อีกภาวะหนึ่งซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ก็คือ มีการอักเสบของช่องคลอด จากภาวะวัยทอง การที่ฮอร์โมนเพศหญิงต่ำลง ทำให้เกิดการฝ่อของช่องคลอด ทำให้มีเลือดออกได้เหมือนกัน
7.อายุ 19 ปี เป็นช็อกโกแลตซีสต์ และการกินฮอร์โมนนานๆ จะส่งผลให้เป็นมะเร็งได้ไหม
ไม่มีหลักฐานว่าการกินฮอร์โมนนานๆ จะทำให้เป็นมะเร็ง แต่มีหลักฐานว่าช่วยลดมะเร็งรังไข่ได้ แนะนำให้ทานไว้เลย
ขอบคุณข้อมูล : รายการ “Health Line สายตรงสุขภาพ” รายการที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 7.00-8.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และสามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ www.manager.co.th/vdo
ที่มา ASTV ผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 13 มีนาคม 2557