Page 1 of 1

ไฟลนก้น..เร่งขายข้าว ทุบราคาตก : อโณทัย ชุมไชยโย

Posted: 13 Mar 2014, 15:04
by brid.ladawan
ไฟลนก้น..เร่งขายข้าว ทุบราคาตก : อโณทัย ชุมไชยโย

ดูตามความเป็นไปในแต่ละวันเวลา เชื่อว่ารัฐบาลรักษาการชุด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ยากขึ้นทุกที แม้รัฐบาลชุดนี้จะพยายามยื้อเวลาให้นานเท่านานก็ตาม ก็เพราะความโกหก หลอกลวง ปลิ้นปล้อน กะล่อนต่อประชาชนเจ้าของประเทศยังไงล่ะครับ ที่เป็นตัวเร่งให้รัฐบาลหมดเวลา
ที่เห็นชัดว่ารัฐบาลชุดนี้ ปลิ้นปล้อน กะล่อน หลอกหลวง อย่างเห็นได้ชัดก็คือ เงินค่าจำนำข้าวที่ค้างชาวนาอยู่กว่า 1.3 แสนล้านบาทนั่นยังไงล่ะ ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย เจื้อยแจ้วเหมือนนกแก้วนกขุนทอง รับปากวันนี้ พรุ่งนี้เป็นแค่น้ำลายที่พ่นทิ้ง
แม้ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. จะอนุมัติให้นำงบกลาง จำนวน 2 หมื่นล้านบาท มาจ่ายให้กับชาวนาไปก่อนล็อตแรก แต่รัฐบาลยังไม่สามารถเบิกเงินมาจ่ายให้กับชาวนาได้ แม้ว่าทันทีที่ กกต.อนุมัติ ทั้ง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ จะยืนยันเหมือนกันว่า ชาวนาได้เงินภายใน 7 วัน แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการเบิกงบกลาง จำนวน 2 หมื่นล้านบาท มาจ่ายหนี้ค่าข้าวให้กับชาวนาเลย
ขณะที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินให้ชาวนา ก็ออกมาระบุว่า งบกลาง 2 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างขั้นตอนการเบิกจ่าย โดยกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง เป็นผู้ดำเนินงาน แต่ทันทีที่เงินมาถึง ธ.ก.ส.จะจัดสรรเงินไปยังสาขาตามปริมาณสัดส่วนใบประทวน จากนั้นสาขาจะจ่ายเงินตามลำดับคิวใบประทวนก่อน-หลัง
รอต่อไปนะครับพี่น้องชาวนาผู้น่าสงสาร
เป็นที่ทราบกันแล้วนะครับว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2556/57 ได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 28 ก.พ.2557 โดยกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า ผลการรับจำนำตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2556-28 ก.พ.2557 มีปริมาณข้าวเปลือกที่ร่วมโครงการ 11,568,279 ตัน ส่วนใหญ่เป็นข้าวเปลือกเจ้า 6,735,860 ตัน ข้าวหอมมะลิ 3,679,974 ตัน จำนวนใบประทวน 1,940,802 ใบ จ่ายเงินให้ชาวนา 539,793 ราย 610,797 สัญญา รวมเป็นเงิน 66,203.154 ล้านบาท
ข่าวร้ายคือ ภายหลังสิ้นสุดโครงการรับจำนำ ราคาข้าวตกต่ำลง ซึ่งราคาข้าวเปลือกความชื้น 15% ที่โรงสีรับซื้อ อยู่ที่ตันละ 8,000-8,200 บาท และมีการคาดกันว่า แนวโน้มราคาข้าวเปลือกจะลดต่ำลง เหลือตันละ 7,000 กว่าบาท หรือต่ำสุดในรอบ 6 ปี และจะลดลงอีก หากรัฐบาลมีการระบายสต็อกข้าวออกมาในราคาต่ำอย่างต่อเนื่อง เหมือนที่กระทำอยู่ในเวลานี้
โดยราคาขายส่งข้าวสารในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เปรียบเทียบราคาช่วงเดือน มี.ค.2557 กับเดือน มี.ค.2552 หรือช่วง 5 ปีก่อน พบว่าราคาข้าวสาร โดยเฉพาะข้าวขาวและข้าวนึ่ง ราคาปัจจุบันลดต่ำลงมามาก โดยข้าวขาว 100% ชั้น 1 ราคาปัจจุบัน 1,475 บาท/กระสอบ (100 กก.) ลดจาก มี.ค.2552 ราคา 2,125 บาท/กระสอบ ข้าวขาว 5% ราคาปัจจุบัน 1,360-1,370 บาท/กระสอบ ลดจาก มี.ค.2552 ราคา 1,855 บาท/กระสอบ ข้าวขาว 10% ปัจจุบันราคา 1,325 บาท/กระสอบ ลดจาก 1,765 บาท/กระสอบ และข้าวนึ่ง 100% ปัจจุบันราคา 1,355 บาท/กระสอบ ลดจาก 2,045 บาท/กระสอบ มีเพียงข้าวหอมมะลิที่ราคาปัจจุบันยังสูงกว่าราคาเมื่อปี 2552
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 มี.ค. กรมการค้าต่างประเทศได้พิจารณาอนุมัติขายข้าวให้เอกชน 11 ราย ปริมาณเกือบ 6 แสนตัน มูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านบาท จากที่เปิดประมูลเป็นการทั่วไปปริมาณข้าว 467,623 ตัน แบ่งเป็น 3.67 แสนตัน เพื่อการส่งออกและภายในประเทศ และข้าวขาว 5% ปริมาณ 1.0 แสนตัน เพื่อการส่งออก
และเมื่อวันที่ 10 มี.ค. ได้เปิดประมูลขายข้าวอีก 5 แสนตัน มีผู้ประกอบการ 34 ราย ยื่นซองประมูลซื้อข้าวสาร 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2, ข้าวหอมจังหวัด, ข้าวหอมปทุม, ข้าวขาว 5%, ปลายข้าวขาวเอวันเลิศ ในคลังขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.)
ครั้งนี้ถือว่ามีผู้เข้าร่วมประมูลมากสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากราคาข้าวอยู่ในภาวะตกต่ำ รวมถึงรัฐบาลเปิดโอกาสให้โรงสีเข้าร่วมประมูลได้ด้วย
และเมื่อวันที่ 12 มี.ค. กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดประมูลข้าวผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือเอเฟต อีก 2.5 แสนตัน ซึ่งได้เปิดให้ผู้ที่สนใจจะร่วมประมูล ได้ดูสภาพข้าวที่เก็บไว้ตามโกดังที่จะเปิดประมูลแล้ว
ถามว่า ทำไมรัฐบาลเพิ่งคิดได้ เพิ่มเร่งขายข้าวเวลานี้ ซึ่งทำให้ราคาข้าวไทยยิ่งตกต่ำลงอีก ก็เพราะไฟลนก้นยังไงล่ะครับ.

ที่มา ไทยโพสต์
วันที่ 13 มีนาคม 2557