หวัดร้อน หวัดเย็น แตกต่างกันอย่างไร

Post Reply
brid.ladawan
Posts: 7045
Joined: 29 Mar 2013, 13:36

หวัดร้อน หวัดเย็น แตกต่างกันอย่างไร

Post by brid.ladawan »

หวัดร้อน หวัดเย็น แตกต่างกันอย่างไร

แพทย์จีนแผนโบราณคิดว่า ในร่างกายมนุษย์ต้องมีสมดุลของ หยิน - หยาง
ร้อน - เย็น ถ้าเสียสมดุลไปก็จะเกิดโรค กรณีของโรคหวัดแพทย์จีนจะมีทั้งหวัดร้อน และหวัดเย็น แยกตามอาการดังนี้
- ถ้ามีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล มีไข้ต่ำๆ เสมหะสีเหลืองข้น ปวดหัว ปัสสาวะมีสีเข้มกว่าปกติ หงุดหงิด ไม่สบาย ครั่วเนื้อครั่นตัว แสดงว่าเป็น " หวัดเย็น "
- ถ้าเป็นหวัดแล้วมีอาการหนาวสะท้าน ซึม อ่อนเพลีย มือเท้าเย็น น้ำมูกใส เสมหะใส ปัสสาวะมาก แสดงว่าเป็น " หวัดร้อน "

ลักษณะของอุจจาระก็บอกได้ เช่นกันว่า เรามีอาการร้อนหรือเย็นมากเกินไป
- ถ้าอุจจาระเป็นก้อนแข็ง สีเข้ม กลิ่นเหม็นผิดปกติ แสดงว่ามีอาการร้อน
- ถ้าอุจจาระเหลว ท้องร้วง แสดงว่ามีอาการเย็น

เมื่อร่างกายป่วยจากการเสียสมดุล ร้อน-เย็น ตามหลักแพทย์แผนจีนจึง ปรับสมดุลคืนมาด้วยการรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์ตรงกันข้าม ส่วนวิธีดูว่าอาหารใดมีฤทธิ์ใด ให้สังเกตจากรสชาติ
- ถ้ากินผลไม้หรืออาหารชนิดใดมากๆแล้วรู้สึกคอแห้ง เจ็บคอ ก็แสดงว่ามี ฤทธิ์ร้อน
- ถ้ากินผลไม้หรืออาหารชนิดใดแล้วชุ่มคอ กินมากๆท้องอืดแน่นหน้าอก ก็แสดงว่า
เป็นอาหาร ฤทธิ์เย็น

อาหารฤทธิ์เย็น - มะระ ฟักเขียว บวบ ไช้เท้า ผักกาดขาว หน่อไม้ ดอกไม้จีน รากบัว ผักบุ้ง มะเขือเทศ ขึ้นฉ่าย เห็ดหูหนู เห็ดฟาง ถั่วเขียว ทับทิม เก๊กฮวย ส้ม บัวบก ส้มโอ แตงโม สับปะรด อ้อย มะขาม มะละกอ สาลี่ แห้ว แอ๊ปเปิ้ล มังคุด หอย ปลาไหล

อาหารฤทธิ์ปานกลาง - ข้าว ข้าวโพด เม็ดบัว น้ำผึ้ง

อาหารฤทธิ์ร้อน - ข้าวเหนียว หอม กระเทียม พริก พริกไทย ขิง ข่า กะเพรา โหระพา ตะไคร้ เงาะ ลำไย ลิ้นจี่ ทุเรียน ขนุน

ที่มา: หนังสือ ชีวจิต ปีที่ 4 ฉบับที่ 80 1 กุมภาพันธ์ 2545ภาพประกอบจาก http://libraryweb.umd.umich.edu/trainin ... s/baby.jpg
คอลัมน์ รู้เรา-รู้โรค หน้า 12 โดย ส้มจี๊ด
http://www.cheewajit.com
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”