กรมพัฒนาธุรกิจไล่เช็กบิลนอมินีต่างชาติ
Posted: 17 Mar 2014, 13:43
กรมพัฒนาธุรกิจไล่เช็กบิลนอมินีต่างชาติ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าตรวจนอมินีในจังหวัดเชียงใหม่ 16 ราย พบ 2 รายเป็นนอมินีแอบทำธุรกิจขายอาหารและเครื่องดื่ม เตรียมเอาผิดตามกฎหมายพร้อมส่งดีเอสไอดำเนินการ
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการถือหุ้นแทนคนต่างชาติ (นอมินี) ในปี 57 ว่า ขณะนี้กรมฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบนอมินีในจังหวัดเชียงใหม่แล้ว 16 ราย แยกเป็นธุรกิจร้านอาหาร 7 ราย ธุรกิจท่องเที่ยว 8 ราย และธุรกิจสปา 1 ราย โดยเบื้องต้นพบว่าผู้ถือหุ้นคนไทยมีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นนอมินีในนิติบุคคล 2 ราย ซึ่งประกอบธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนธุรกิจท่องเที่ยว น่าจะมีการร่วมทุนกันจริงในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ โดยอาศัยความสามารถของทั้ง 2 ฝ่าย โดยคนไทยทำหน้าที่ในการจัดการด้านท่องเที่ยว ประสานงานโรงแรมที่พักในประเทศ ส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติจะเป็นผู้จัดหานักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามา
สำหรับแผนการตรวจสอบนอมินีในจังหวัดที่เหลือ กรมฯ จะเริ่มตรวจนิติบุคคลในจังหวัดชลบุรี และภูเก็ต ในเดือนเม.ย.-พ.ค.57 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กระบี่ พังงา เดือนมิ.ย.2557 และจังหวัดตราด เดือนก.ค. 57
“ตามแผนกรมฯ ได้มีการแบ่งธุรกิจที่จะตรวจสอบเป็นรายกลุ่ม ซึ่งได้กำหนดไว้ 6 กลุ่ม ได้แก่ ขายอาหารและเครื่องดื่ม ท่องเที่ยว ให้เช่าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ นายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ ให้เช่ารถยนต์ และสปา โดยมีจำนวนที่เข้าข่าย 6,942 ราย แต่กรมฯ ได้คัดกรองแล้ว เหลือกลุ่มเสี่ยงที่อาจมีพฤติกรรมเป็นนอมินีที่จะต้องตรวจสอบ 198 ราย โดยหากผลการตรวจสอบพบว่าเป็นนอมินีจริง ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย และส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการด้วย”
น.ส.ผ่องพรรณ กล่าวว่า ส่วนผลการตรวจสอบนอมินีในปี 56 ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ตรวจสอบนิติบุคคลที่มีพนักงานของสำนักงานบัญชีและสำนักงานกฎหมายร่วมถือหุ้นกับคนต่างด้าว จำนวน 2,554 ราย ใน 7 จังหวัดท่องเที่ยว คือ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ กระบี่ ภูเก็ต เชียงใหม่และเชียงราย ซึ่งได้ส่งให้ดีเอสไอดำเนินคดีแล้ว 14 ราย แยกเป็นชลบุรี 9 ราย สุราษฎร์ธานี 3 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 2 ราย เนื่องจากพบว่ามีคนไทยให้ความช่วยเหลือ ถือหุ้นแทน และทำธุรกิจในบัญชีสงวน คือ นายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ 2 ราย นายหน้ารับจองที่พัก 1 ราย การก่อสร้าง 1 ราย ขายอาหาร 2 ราย ให้เช่าห้องพัก 2 ราย บริการทำความสะอาด 1 ราย ให้เช่ารถ 2 ราย รับตัดเย็บเสื้อผ้า 1 ราย ให้คำปรึกษางานด้านก่อสร้าง 1 ราย และผลิตหัวขุดเจาะ 1 ราย
ที่มา เดลินิวส์
วันที่16 มีนาคม 2557
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าตรวจนอมินีในจังหวัดเชียงใหม่ 16 ราย พบ 2 รายเป็นนอมินีแอบทำธุรกิจขายอาหารและเครื่องดื่ม เตรียมเอาผิดตามกฎหมายพร้อมส่งดีเอสไอดำเนินการ
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการถือหุ้นแทนคนต่างชาติ (นอมินี) ในปี 57 ว่า ขณะนี้กรมฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบนอมินีในจังหวัดเชียงใหม่แล้ว 16 ราย แยกเป็นธุรกิจร้านอาหาร 7 ราย ธุรกิจท่องเที่ยว 8 ราย และธุรกิจสปา 1 ราย โดยเบื้องต้นพบว่าผู้ถือหุ้นคนไทยมีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นนอมินีในนิติบุคคล 2 ราย ซึ่งประกอบธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนธุรกิจท่องเที่ยว น่าจะมีการร่วมทุนกันจริงในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ โดยอาศัยความสามารถของทั้ง 2 ฝ่าย โดยคนไทยทำหน้าที่ในการจัดการด้านท่องเที่ยว ประสานงานโรงแรมที่พักในประเทศ ส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติจะเป็นผู้จัดหานักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามา
สำหรับแผนการตรวจสอบนอมินีในจังหวัดที่เหลือ กรมฯ จะเริ่มตรวจนิติบุคคลในจังหวัดชลบุรี และภูเก็ต ในเดือนเม.ย.-พ.ค.57 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กระบี่ พังงา เดือนมิ.ย.2557 และจังหวัดตราด เดือนก.ค. 57
“ตามแผนกรมฯ ได้มีการแบ่งธุรกิจที่จะตรวจสอบเป็นรายกลุ่ม ซึ่งได้กำหนดไว้ 6 กลุ่ม ได้แก่ ขายอาหารและเครื่องดื่ม ท่องเที่ยว ให้เช่าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ นายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ ให้เช่ารถยนต์ และสปา โดยมีจำนวนที่เข้าข่าย 6,942 ราย แต่กรมฯ ได้คัดกรองแล้ว เหลือกลุ่มเสี่ยงที่อาจมีพฤติกรรมเป็นนอมินีที่จะต้องตรวจสอบ 198 ราย โดยหากผลการตรวจสอบพบว่าเป็นนอมินีจริง ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย และส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการด้วย”
น.ส.ผ่องพรรณ กล่าวว่า ส่วนผลการตรวจสอบนอมินีในปี 56 ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ตรวจสอบนิติบุคคลที่มีพนักงานของสำนักงานบัญชีและสำนักงานกฎหมายร่วมถือหุ้นกับคนต่างด้าว จำนวน 2,554 ราย ใน 7 จังหวัดท่องเที่ยว คือ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ กระบี่ ภูเก็ต เชียงใหม่และเชียงราย ซึ่งได้ส่งให้ดีเอสไอดำเนินคดีแล้ว 14 ราย แยกเป็นชลบุรี 9 ราย สุราษฎร์ธานี 3 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 2 ราย เนื่องจากพบว่ามีคนไทยให้ความช่วยเหลือ ถือหุ้นแทน และทำธุรกิจในบัญชีสงวน คือ นายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ 2 ราย นายหน้ารับจองที่พัก 1 ราย การก่อสร้าง 1 ราย ขายอาหาร 2 ราย ให้เช่าห้องพัก 2 ราย บริการทำความสะอาด 1 ราย ให้เช่ารถ 2 ราย รับตัดเย็บเสื้อผ้า 1 ราย ให้คำปรึกษางานด้านก่อสร้าง 1 ราย และผลิตหัวขุดเจาะ 1 ราย
ที่มา เดลินิวส์
วันที่16 มีนาคม 2557