หวายบุ่น
Posted: 17 Mar 2014, 14:23
หวายบุ่น
หวายจัดเป็นพืชตระกูลปาล์ม ที่ลำต้นเลื้อยทอดไปตามพื้นดิน เป็นประเภทพืชหายากหรือใกล้สูญพันธุ์ ประชาชนภาคอีสานนิยมนำหวายบุ่นส่วนยอดอ่อนมาบริโภค ส่วนใหญ่ทำเป็นแกงกับน้ำใบย่านาง เรียกว่า แกงหวาย
หวายจัดเป็นพืชตระกูลปาล์ม ที่ลำต้นเลื้อยทอดไปตามพื้นดิน เป็นประเภทพืชหายากหรือใกล้สูญพันธุ์ ประชาชนภาคอีสานนิยมนำหวายบุ่นส่วนยอดอ่อนมาบริโภค ส่วนใหญ่ทำเป็นแกงกับน้ำใบย่านาง เรียกว่า แกงหวาย หวายบุ่น ลำต้นและกาบใบมีหนาม รากเป็นรากแขนง ช่อดอกประกอบด้วยกลุ่มแขนง ดอกไม่สมบูรณ์เพศ ออกจากลำต้น ผล มีเปลือกลักษณะเป็นเกล็ดซ้อนทับกันเป็นชั้น ๆ ค่อนข้างกลม ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีขาว
หวายบุ่นหรือหวายกระบอง ถ้ามี อายุมากจะให้เส้นหวายหนาใหญ่ นำไปทำเครื่องเรือน เช่น เก้าอี้หก ถักทอภาชนะ
ต่าง ๆ กลุ่มชนชาวผู้ไทยนิยมรับประทานแกงหวายและถือว่าหวายเป็นสมุนไพรอายุวัฒนะ และนิยมแกงหน่อหวายในการรับแขกที่มาเยี่ยมเยียน.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 13 มีนาคม 2557
หวายจัดเป็นพืชตระกูลปาล์ม ที่ลำต้นเลื้อยทอดไปตามพื้นดิน เป็นประเภทพืชหายากหรือใกล้สูญพันธุ์ ประชาชนภาคอีสานนิยมนำหวายบุ่นส่วนยอดอ่อนมาบริโภค ส่วนใหญ่ทำเป็นแกงกับน้ำใบย่านาง เรียกว่า แกงหวาย
หวายจัดเป็นพืชตระกูลปาล์ม ที่ลำต้นเลื้อยทอดไปตามพื้นดิน เป็นประเภทพืชหายากหรือใกล้สูญพันธุ์ ประชาชนภาคอีสานนิยมนำหวายบุ่นส่วนยอดอ่อนมาบริโภค ส่วนใหญ่ทำเป็นแกงกับน้ำใบย่านาง เรียกว่า แกงหวาย หวายบุ่น ลำต้นและกาบใบมีหนาม รากเป็นรากแขนง ช่อดอกประกอบด้วยกลุ่มแขนง ดอกไม่สมบูรณ์เพศ ออกจากลำต้น ผล มีเปลือกลักษณะเป็นเกล็ดซ้อนทับกันเป็นชั้น ๆ ค่อนข้างกลม ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีขาว
หวายบุ่นหรือหวายกระบอง ถ้ามี อายุมากจะให้เส้นหวายหนาใหญ่ นำไปทำเครื่องเรือน เช่น เก้าอี้หก ถักทอภาชนะ
ต่าง ๆ กลุ่มชนชาวผู้ไทยนิยมรับประทานแกงหวายและถือว่าหวายเป็นสมุนไพรอายุวัฒนะ และนิยมแกงหน่อหวายในการรับแขกที่มาเยี่ยมเยียน.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 13 มีนาคม 2557