ปรับปรุงดินสวนมะพร้าวด้วยปุ๋ยทำเอง...ฟื้นต้นโทรม ให้ผลผลิตนา

[brid.ladawan]

ปรับปรุงดินสวนมะพร้าวด้วยปุ๋ยทำเอง...ฟื้นต้นโทรม ให้ผลผลิตนานขึ้น

เกษตรกรในพื้นที่อำเภอทับสะแก ส่วนใหญ่จะปลูกมะพร้าวเป็นหลัก และมีการใช้สารเคมีอย่างมาก

พื้นที่อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นแหล่งปลูกมะพร้าวที่สำคัญแห่งหนึ่ง แต่ด้วยสภาพพื้นที่ที่ปลูกมะพร้าวมาอย่างยาวนาน อีกทั้งมีการใช้สารเคมีต่อเนื่อง ทำให้สภาพพื้นที่มีความเสื่อมโทรม ผลผลิตลดน้อยลง ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน

นายขวัญชัย โค้วปรีชา หมอดินอาสาประจำอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เกษตรกรในพื้นที่อำเภอทับสะแก ส่วนใหญ่จะปลูกมะพร้าวเป็นหลัก และมีการใช้สารเคมีอย่างมาก ซึ่งปริมาณสารเคมีที่สะสมมานานทำให้ดินเสื่อมโทรม เช่นเดียวกับสวนของตนที่ปลูกมะพร้าวมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ดินไม่เคยได้รับการปรับปรุงพัฒนา ยิ่งใส่ปุ๋ยเคมีมากขึ้นเท่าไรต้นมะพร้าวก็โทรมลงไปทุกขณะ ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงแต่ผลผลิตที่ได้กลับต่ำลง แต่เมื่อตนได้เข้ามาเป็นหมอดินอาสาประจำหมู่บ้านเมื่อปี 2538 และได้เลื่อนขั้นมาเป็นหมอดินประจำอำเภอในปัจจุบัน ก็ได้นำความรู้ที่ได้จากสถานีพัฒนาที่ดินประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 10 มาปรับปรุงพื้นที่สวนมะพร้าวของตนเอง จนฟื้นความอุดมสมบูรณ์เป็นลำดับ

เริ่มจากทำปุ๋ยหมักไว้ใช้เองทดแทนการใช้สารเคมี โดยใช้ขุยมะพร้าวที่เป็นวัสดุที่เหลือใช้จากผลผลิตที่มีอยู่จำนวนมากในพื้นที่มาผลิตเป็นปุ๋ยหมัก ส่วนผสมคือ ขุยมะพร้าว 1,000 กก. มูลสัตว์ 200 กก. ยูเรีย 2 กก. และสารเร่งพด.1 จำนวน 1 ซอง ซึ่งเป็นวิธีการทำปุ๋ยหมักที่ง่าย รวดเร็ว สามารถใช้ในการเตรียมหลุมปลูกพืชใหม่ หรือใช้กับพืชที่เติบโตแล้ว ปุ๋ยหมักที่ได้ทางสวนจะนำไปใส่โคนต้นมะพร้าวเพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน ที่สำคัญยังทำให้ดินโปร่ง ร่วนซุย ช่วยป้องกันลูกมะพร้าวที่ตกลงมาไม่ให้แตกเสียหาย พร้อมกันนี้จะปลูกพืชปุ๋ยสดอย่างถั่วพร้าและปอเทือง เพื่อปรับปรุงบำรุงดินเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน และปลูกหญ้าแฝกขวางทางลาดเท เป็นการกักเก็บน้ำเพิ่มความชุ่มชื้น ซึ่งแม้ช่วงนี้พื้นที่อำเภอทับสะแกจะแห้งแล้งแต่ทางสวนจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบ เพราะดินมีความชุ่มชื้นทำให้พืชสามารถยืนต้นอยู่ได้

แม้ว่างานพัฒนาที่ดินจะต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูหลายปี แต่ผลที่ได้กลับมานับว่าคุ้มค่า เนื่องจากสวนมะพร้าวของตนที่มีอายุต้นมากกว่า 50-60 ปี ต้นสูงมากถ้าเป็นสวนอื่นจะต้องโค่นต้นทิ้งแล้ว เพราะจะไม่ให้ผลผลิต แต่ทางสวนมีการปรับปรุงบำรุงดินทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ ขณะนี้ยังเก็บผลผลิตได้อยู่และให้ผลลูกโตกว่าเดิมด้วย อีกอย่างคือเดิมพื้นที่ค่อนข้างแห้งแล้งจึงไม่สามารถปลูกพืชอื่นแซมสวนมะพร้าวได้ แต่ตอนนี้ปลูกไม้ผลแซมได้หลากหลายชนิด เช่น ขนุน มะม่วง นับเป็นการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ที่สำคัญคือสามารถสร้างรายได้เสริมจากพืชหลักได้อีกทางหนึ่ง

การทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ไว้ใช้เองแม้ว่าปัจจุบันต้นทุนการผลิตจะเพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อน เนื่องจากวัตถุดิบที่นำมาใช้อย่างขุยมะพร้าวปรับราคาจากการที่มีคนหันมาทำปุ๋ยใช้เองมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับปุ๋ยเคมีแล้วยังถือว่าคุ้มค่ากว่า อย่างแรกคือผลผลิตที่ได้สูงกว่าการใช้ปุ๋ยเคมี เพราะปุ๋ยอินทรีย์ยิ่งใส่มากก็ทำให้ได้ผลผลิตมากตามไป ขณะที่ดินยังมีความอุดมสมบูรณ์ เมื่อดินดีปลูกอะไรก็ดีหมด ในทางกลับกันการใช้ปุ๋ยเคมียิ่งใส่ยิ่งทำให้ดินเสื่อมโทรม ผลผลิตตกต่ำ

จากความมุ่งมั่นของหมอดินขวัญชัย ทำให้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นศูนย์เรียนรู้การพัฒนาที่ดินตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเกษตรกรหรือผู้สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมผลสำเร็จของการปรับปรุงดินสวนมะพร้าว และงานพัฒนาที่ดินรูปแบบต่าง ๆ เพื่อนำไปปรับใช้ในพื้นที่ของท่านได้ ติดต่อโดยตรงที่นายขวัญชัย โค้วปรีชา เลขที่ 221 หมู่ 6 ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เบอร์โทรศัพท์ 08-6171-6196.

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 17 มีนาคม 2557