ปิดประตูโกงกู้ 2 ล้านล้านบาท : ครองขวัญ รอดหมวน

Post Reply
brid.ladawan
Posts: 7045
Joined: 29 Mar 2013, 13:36

ปิดประตูโกงกู้ 2 ล้านล้านบาท : ครองขวัญ รอดหมวน

Post by brid.ladawan »

ปิดประตูโกงกู้ 2 ล้านล้านบาท : ครองขวัญ รอดหมวน

ในที่สุดก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันสำหรับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ... วงเงิน 2 ล้านล้านบาท หลังจากล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 169 วรรคหนึ่ง และมาตรา 170 ด้วยมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง ขณะที่กระบวนการตราร่าง พ.ร.บ.ขัดรัฐธรรมนูญ ด้วยมติ 6 ต่อ 2 เสียง โดยมีตุลาการ 1 คนงดออกเสียง เนื่องจากเห็นว่าที่ประชุมได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ในประเด็นเนื้อหาของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ไปแล้ว
โดยส่วนหนึ่งที่ต้องยอมรับเกี่ยวกับกระบวนการจัดทำกฎหมายกู้เงินก้อนมหึมานี้ว่าไม่ค่อยโปร่งใสนัก นั่นเพราะวงเงินที่รัฐบาลต้องการกู้มีจำนวนมหาศาล และที่ผ่านมานักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านก็เคยออกมาตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับแผนการกู้เงินครั้งนี้อยู่ตลอดเวลา ว่าอาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย และยังไม่เห็นถึงความจำเป็นถึงการกู้เงิน ที่สุดท้ายจะส่งผลและเป็นภาระไปยังรุ่นลูก รุ่นหลาน หรืออาจจะยาวนานไปกว่านั้นก็เป็นได้
สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลในฐานะผู้คิดค้นกฎหมายฉบับนี้ขึ้น ต้องยอมรับว่า แผนการลงทุนบางโครงการในแผนการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทครั้งนี้ ยังขาดประสิทธิภาพที่จะหวังประสิทธิผลจากการลงทุนอย่างสิ้นเชิง บางโครงการไม่มีความจำเป็น หรือยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องดำเนินการ แต่รัฐบาลก็พยายามพลักดันให้เกิดขึ้นไม่ต่างอะไรกับการยัดเยียด โดยเฉพาะในโครงการรถไฟความเร็วสูง ที่นักวิชาการ รวมถึงผู้ทรงภูมิส่วนใหญ่ต่างเห็นตรงกันว่าโครงการดังกล่าวในบางเส้นทางก็ยังไม่ถึงจุดอิ่มตัวที่จะเร่งดำเนินการในขณะนี้
ความล้มเหลวของร่างกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทนี้ ส่วนหนึ่งเกิดมาจากความไม่รอบคอบของรัฐบาลเอง ทั้งในส่วนของกระบวนการ กรรมวิธีการตรากฎหมาย นั่นเพราะประเทศไทยไม่ได้จำเป็นที่จะต้องมีการกู้เงินเพื่อมาพัฒนาประเทศเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีระบบงบประมาณแผ่นดินที่เพียงพอและสามารถรองรับแผนการลงทุนในส่วนนี้ได้อย่างเต็มศักยภาพ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจริงจังกับการใช้งบประมาณ โดยเฉพาะในส่วนของการลงทุนให้เกิดประโยชน์ให้เต็มที่มากกว่านี้
แต่ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่สัมฤทธิ์ผลเรื่องการใช้งบประมาณอย่างเต็มที่ นั่นเพราะยังมีปัญหาเรื่องการ "ทุจริต คอร์รัปชัน" เกาะกินอยู่ในสังคม ความคิดที่เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัวนี้ มักเกิดขึ้นในหมู่มวลมนุษย์ที่มีอำนาจสั่งการใดๆ ตามที่ใจต้องการเพื่อให้ตนได้อย่างสิ่งที่หวัง ดังนั้นการร่างแผนการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทครั้งนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการเอื้อประโยชน์ให้แก่คนมีอำนาจ เพราะเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า ระบบงบประมาณมักจะมีกระบวนการตรวจสอบการใช้งบอย่างเข้มงวด นั่นก็เพื่อป้องกันการทุจริต คอร์รัปชัน ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการ "กู้นอกงบประมาณ" เช่นนี้ ที่แม้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลจะออกมายืนยันหนักแน่นว่า มีกระบวนการตรวจสอบความโปร่งใสในการใช้เงินและการลงทุนในทุกๆ โครงการ แต่ก็ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันได้ว่าจะไม่เกิดการทุจริต คอร์รัปชันขึ้น
ทั้งนี้ เชื่อว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยดังกล่าวออกมาอย่างเป็นทางการจนทำให้การกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทต้องมีอันจบลง แต่อีกนัยหนึ่งเห็นว่าน่าจะเป็นอีกเครื่องมือที่ช่วยป้องกันประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤติการคอร์รัปชันไปได้ในอีกระดับหนึ่ง แต่การพัฒนาประเทศคงหยุดอยู่เพียงเท่านี้ไม่ได้ ดังนั้นผู้ที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบในส่วนนี้ก็จะยังต้องทำหน้าที่ในการคิดค้นแนวทางและวิธีการเพื่อพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการด้านคมนาคมขนส่งของประเทศให้เติบโตได้อย่างมั่นคงมากขึ้น หน้าที่หลักๆ คงตกอยู่ที่กระทรวงคมนาคม ผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงจะต้องกลับไปพิจารณาถึงความสำคัญของโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ประเทศไทยกำลังต้องการจริงๆ ในขณะนี้ พิจารณาถึงข้อดี ข้อเสีย ความเหมาะสม และความถูกต้องให้มากกว่าในแผนกู้ 2 ล้านล้านบาท
ความหวังทั้งหมดทั้งมวลตกหนักอยู่ที่ "รัฐบาลชุดใหม่" ที่ขณะนี้ประชาชนคนไทยหวังใจว่าจะได้รัฐบาลที่มีประสิทธิภาพเข้ามาช่วยผลักดันการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นกับประเทศ ผ่านกระบวนการดำเนินการที่สุจริต และโปร่งใสมากกว่าที่เคยๆ มีมา แม้ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาคนไทยจะคุ้นชิ้นกับการทุจริต คอร์รัปชัน แต่หลังจากนี้เมื่อปัจจัยหลายๆ ด้าน มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงจนจะนำไปสู่การปฏิรูปประเทศในที่สุดแล้ว ปัญหา "ทุจริต คอร์รัปชัน" คงเป็นประเด็นใหญ่ที่คนไทยอยากเห็นการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าแม้แผนการกู้เงินเพื่อลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 2 ล้านล้านบาทจะไปไม่ถึงฝั่งฝัน แต่ก็คงไม่ใช่คำตอบสุดท้ายว่าประเทศไทยจะหยุดการพัฒนาไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทไม่ใช่คำตอบและทางออกในการยกระดับประเทศไทยที่ดีที่สุดเพียงทางเดียว ไทยยังมีประสิทธิภาพในด้านต่างๆ มากเพียงพอที่จะพัฒนาควบคู่ไปกับโครงสร้างพื้นฐานที่ยังรอการพัฒนาและปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หากผู้มีอำนาจรับผิดชอบดูแลในส่วนนี้จะใส่ใจผลประโยชน์และความเป็นไปของประเทศมากกว่าผลประโยชน์และความเป็นส่วนตัว.

ที่มา ไทยโพสต์
วันที่ 17 มีนาคม 2557
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”