เดินตามสายงาน ‘บริการ’ ที่รัก พัฒนาสู่ระดับเออีซี
Posted: 17 Mar 2014, 17:28
เดินตามสายงาน ‘บริการ’ ที่รัก พัฒนาสู่ระดับเออีซี
จากคำพูดของคุณแม่ที่ห้ามไม่ให้ทำธุรกิจร้านอาหารและโรงแรม ด้วยทั้ง 2 ธุรกิจเหนื่อยและจุกจิก แต่แล้ว โบ๊ท-ชิตพล วิวัฒนาเกษม ลูกชายคนโตของ ภาคย์-ชุลีวรรณ วิวัฒนาเกษม อดีตกรรมการบริหาร บริษัท โมเดิร์นฟอร์ม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
จากคำพูดของคุณแม่ที่ห้ามไม่ให้ทำธุรกิจร้านอาหารและโรงแรม ด้วยทั้ง 2 ธุรกิจเหนื่อยและจุกจิก แต่แล้ว โบ๊ท-ชิตพล วิวัฒนาเกษม ลูกชายคนโตของ ภาคย์-ชุลีวรรณ วิวัฒนาเกษม อดีตกรรมการบริหาร บริษัท โมเดิร์นฟอร์ม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอเวอร์กรีน ชิปปิ้ง เอเยนซี่ (ไทยแลนด์) จำกัด ก็ยังคงเดินเข้ามาสู่สายงานร้านอาหารและโรงแรม ที่ตัวเองเลือกเองกับบทบาทกรรมการผู้จัดการกลุ่มแบรนด์อากะ บริษัท เซ็น เรสเตอร์รองโฮลดิ้ง จำกัด ดูแลร้านอาหารอากะ (AKA) 14 สาขาทั่วประเทศ ร้านปิ้งย่างสไตล์บุฟเฟ่ต์กิว กริล (Gyu Grill) และร้านปิ้งย่างระดับพรีเมี่ยมเท็ตซึ (Tetsu)
หลังเรียบจบปริญญาโท 2 ใบ จากคณะบริหารธุรกิจ สาขาการเงินและสาขาการตลาด ม.ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา และกลับมาเมืองไทย มีโอกาสพบกับเพื่อนคุณพ่อชาวไต้หวันเจ้าของโรงงานรองเท้า เข้าไปทำงานในตำแหน่ง ผช.ผจก.ฝ่ายการตลาด บ.เอฟ ดี ดี อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน การเริ่มงานที่แรกโบ๊ทได้เรียนรู้หลายด้าน โดยเฉพาะด้านการขายการตลาดและการบริหารงาน ทำได้ 2 ปี กลับมาเมืองไทยตั้งใจทำธุรกิจรองเท้า แต่สำรวจตลาดพบว่าสินค้าไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายคนไทย ช่วงนั้นเจอเพื่อนที่มีความรู้ด้านอาหาร จบจากเลอ กอร์ดอง เบลอ เกิดความคิดอยากเปิดร้านอาหาร เพราะสนใจในธุรกิจอาหารอยู่แล้ว ไม่ว่าเดินทางไปไหนจุดหมายปลายทางคือ ร้านอาหาร มีความสุขที่ได้ชิมได้ลองอาหารจากสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะประเภทปิ้งย่าง รวมถึงมองเห็นโอกาสทำธุรกิจเปิดร้านอาหารในศูนย์การค้าให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย
ช่วงแรกของการทำธุรกิจมีขลุกขลักบ้าง มีความกังวลหลายอย่างส่วนใหญ่เกี่ยวกับลูกค้า แต่ด้วยความที่เราเป็นคนง่าย ๆ กล้าลงไปทำงานด้วยตัวเอง ทั้งเสิร์ฟ พูดคุยหรือแม้แต่ล้างจาน ไม่ถือตัวว่าเป็นเจ้าของ นั่งบริหารเฉย ๆ เมื่อลงไปปฏิบัติให้พนักงานเห็นเขาก็เชื่อ เมื่อเราบอกกล่าวหรือแนะนำอะไรก็เกิดความเกรงใจ โบ๊ทบอกจุดเริ่มต้นก่อนบอกถึงหน้าที่หลักตอนนี้ว่า บริหารดูแลโดยรวมเฉพาะเรื่องการเงิน ควบคุมพนักงานและคุณภาพอาหาร รวมทั้งคิดโปรโมชั่นและกลยุทธ์การตลาด นอกจากนี้ยังมีหมวกอีกใบที่ต้องบริหารโรงแรมฟิชเชอร์แมน รีสอร์ท จ.เพชรบุรี ของครอบครัว
“คุณแม่เคยบอกว่างานร้านอาหารและโรงแรมเป็นงานที่เหนื่อย จุกจิก เวลาคนอื่นพักเรากลับต้องทำงาน แต่เมื่อได้ทำรู้สึกชอบ ยิ่งลูกค้าเข้ามาแล้วมีความสุขและชอบอาหารของเราก็รู้สึกดีแล้ว โบ๊ทเอ่ยก่อนบอกว่า ตลอดเวลา 7 ปี กับการทำงานในสายบริการมีจังหวะที่รู้สึกเหนื่อยบ้าง แต่ก็เป็นงานที่รัก ควบคู่กับหลักการบริหารงานที่ต้องมีแบบแผนและมาตรฐานทั้งอาหารและบริการ ฝึกและเทรนพนักงาน มีการพูดคุยกัน พร้อมวางคนให้ถูกต้องกับงาน ก็จะซื้อใจพนักงาน ให้มีความคิดเดียวกับเรา เพื่อส่งสิ่งที่ดีให้แก่ลูกค้า ส่วนหลักที่ได้จากคุณพ่อคุณแม่เป็นเรื่องนิสัยใจคอและการมองเห็นจากการทำงาน มีหลายคนบอกว่า ผมคล้ายคุณพ่อด้านการเอาใจใส่พนักงาน เหมือนคุณแม่เรื่องความดุและเข้มงวด
สำหรับเป้าหมายในอนาคตโบ๊ทบอกด้วยความแน่วแน่ว่า ยังคงเดินทางในสายของร้านอาหาร แต่อาจขยายออกไปยังจังหวัดหัวเมืองต่าง ๆ และกำลังจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี ในปีหน้าก็กำลังมองประเทศที่น่าสนใจที่จะขยายออกไป แต่อาจเป็นธุรกิจอาหารในไลน์อื่น ๆ นอกเหนือจากร้านสไตล์ปิ้งย่าง โดยต้องมีการพัฒนาการบริการต่อไปเรื่อย ๆ.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 13 มีนาคม 2557
จากคำพูดของคุณแม่ที่ห้ามไม่ให้ทำธุรกิจร้านอาหารและโรงแรม ด้วยทั้ง 2 ธุรกิจเหนื่อยและจุกจิก แต่แล้ว โบ๊ท-ชิตพล วิวัฒนาเกษม ลูกชายคนโตของ ภาคย์-ชุลีวรรณ วิวัฒนาเกษม อดีตกรรมการบริหาร บริษัท โมเดิร์นฟอร์ม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
จากคำพูดของคุณแม่ที่ห้ามไม่ให้ทำธุรกิจร้านอาหารและโรงแรม ด้วยทั้ง 2 ธุรกิจเหนื่อยและจุกจิก แต่แล้ว โบ๊ท-ชิตพล วิวัฒนาเกษม ลูกชายคนโตของ ภาคย์-ชุลีวรรณ วิวัฒนาเกษม อดีตกรรมการบริหาร บริษัท โมเดิร์นฟอร์ม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอเวอร์กรีน ชิปปิ้ง เอเยนซี่ (ไทยแลนด์) จำกัด ก็ยังคงเดินเข้ามาสู่สายงานร้านอาหารและโรงแรม ที่ตัวเองเลือกเองกับบทบาทกรรมการผู้จัดการกลุ่มแบรนด์อากะ บริษัท เซ็น เรสเตอร์รองโฮลดิ้ง จำกัด ดูแลร้านอาหารอากะ (AKA) 14 สาขาทั่วประเทศ ร้านปิ้งย่างสไตล์บุฟเฟ่ต์กิว กริล (Gyu Grill) และร้านปิ้งย่างระดับพรีเมี่ยมเท็ตซึ (Tetsu)
หลังเรียบจบปริญญาโท 2 ใบ จากคณะบริหารธุรกิจ สาขาการเงินและสาขาการตลาด ม.ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา และกลับมาเมืองไทย มีโอกาสพบกับเพื่อนคุณพ่อชาวไต้หวันเจ้าของโรงงานรองเท้า เข้าไปทำงานในตำแหน่ง ผช.ผจก.ฝ่ายการตลาด บ.เอฟ ดี ดี อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน การเริ่มงานที่แรกโบ๊ทได้เรียนรู้หลายด้าน โดยเฉพาะด้านการขายการตลาดและการบริหารงาน ทำได้ 2 ปี กลับมาเมืองไทยตั้งใจทำธุรกิจรองเท้า แต่สำรวจตลาดพบว่าสินค้าไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายคนไทย ช่วงนั้นเจอเพื่อนที่มีความรู้ด้านอาหาร จบจากเลอ กอร์ดอง เบลอ เกิดความคิดอยากเปิดร้านอาหาร เพราะสนใจในธุรกิจอาหารอยู่แล้ว ไม่ว่าเดินทางไปไหนจุดหมายปลายทางคือ ร้านอาหาร มีความสุขที่ได้ชิมได้ลองอาหารจากสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะประเภทปิ้งย่าง รวมถึงมองเห็นโอกาสทำธุรกิจเปิดร้านอาหารในศูนย์การค้าให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย
ช่วงแรกของการทำธุรกิจมีขลุกขลักบ้าง มีความกังวลหลายอย่างส่วนใหญ่เกี่ยวกับลูกค้า แต่ด้วยความที่เราเป็นคนง่าย ๆ กล้าลงไปทำงานด้วยตัวเอง ทั้งเสิร์ฟ พูดคุยหรือแม้แต่ล้างจาน ไม่ถือตัวว่าเป็นเจ้าของ นั่งบริหารเฉย ๆ เมื่อลงไปปฏิบัติให้พนักงานเห็นเขาก็เชื่อ เมื่อเราบอกกล่าวหรือแนะนำอะไรก็เกิดความเกรงใจ โบ๊ทบอกจุดเริ่มต้นก่อนบอกถึงหน้าที่หลักตอนนี้ว่า บริหารดูแลโดยรวมเฉพาะเรื่องการเงิน ควบคุมพนักงานและคุณภาพอาหาร รวมทั้งคิดโปรโมชั่นและกลยุทธ์การตลาด นอกจากนี้ยังมีหมวกอีกใบที่ต้องบริหารโรงแรมฟิชเชอร์แมน รีสอร์ท จ.เพชรบุรี ของครอบครัว
“คุณแม่เคยบอกว่างานร้านอาหารและโรงแรมเป็นงานที่เหนื่อย จุกจิก เวลาคนอื่นพักเรากลับต้องทำงาน แต่เมื่อได้ทำรู้สึกชอบ ยิ่งลูกค้าเข้ามาแล้วมีความสุขและชอบอาหารของเราก็รู้สึกดีแล้ว โบ๊ทเอ่ยก่อนบอกว่า ตลอดเวลา 7 ปี กับการทำงานในสายบริการมีจังหวะที่รู้สึกเหนื่อยบ้าง แต่ก็เป็นงานที่รัก ควบคู่กับหลักการบริหารงานที่ต้องมีแบบแผนและมาตรฐานทั้งอาหารและบริการ ฝึกและเทรนพนักงาน มีการพูดคุยกัน พร้อมวางคนให้ถูกต้องกับงาน ก็จะซื้อใจพนักงาน ให้มีความคิดเดียวกับเรา เพื่อส่งสิ่งที่ดีให้แก่ลูกค้า ส่วนหลักที่ได้จากคุณพ่อคุณแม่เป็นเรื่องนิสัยใจคอและการมองเห็นจากการทำงาน มีหลายคนบอกว่า ผมคล้ายคุณพ่อด้านการเอาใจใส่พนักงาน เหมือนคุณแม่เรื่องความดุและเข้มงวด
สำหรับเป้าหมายในอนาคตโบ๊ทบอกด้วยความแน่วแน่ว่า ยังคงเดินทางในสายของร้านอาหาร แต่อาจขยายออกไปยังจังหวัดหัวเมืองต่าง ๆ และกำลังจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี ในปีหน้าก็กำลังมองประเทศที่น่าสนใจที่จะขยายออกไป แต่อาจเป็นธุรกิจอาหารในไลน์อื่น ๆ นอกเหนือจากร้านสไตล์ปิ้งย่าง โดยต้องมีการพัฒนาการบริการต่อไปเรื่อย ๆ.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 13 มีนาคม 2557