Page 1 of 1

ศรส. แจ้ง ครม.ยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน ใช้ พ.ร.บ ความมั่นคงแทน

Posted: 18 Mar 2014, 14:25
by brid.ladawan
ศรส. แจ้ง ครม.ยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน ใช้ พ.ร.บ ความมั่นคงแทน

ศรส. แจ้ง ครม.ยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน ใช้ พ.ร.บ ความมั่นคงแทน เริ่ม 19 มี.ค.นี้ เผยออกมาตรการช่วยภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากการชุมนุมหลายด้าน ทั้งด้านภาษี การตลาด ช่วยค่าใช้จ่ายระยะสั้น
วันอังคาร 18 มีนาคม 2557 เวลา 13:13 น.

เมื่อวันที่18 มี.ค ที่ศูนย์รักษาความสงบ ( ศรส.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ ) ในฐานะกรรมการ ศรส. แถลงผลการประชุม ศรส. กล่าวว่า วันนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร แทน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. - 30 เม.ย.นี้ นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการ กอ.รมน. จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายดังกล่าว รวมถึงการพิจารณาจัดโครงสร้างเพื่อการบริหารจัดการและการสนธิกำลังของหน่วยงานต่าง ๆ อันได้แก่ ตำรวจ ทหาร และพลเรือน ทั้งนี้จะมีการประชุมเรื่องนี้ เวลา 14.00 น. ภายในที่ตั้ง ศรส. เพื่อทำหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ที่จะกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรต่อไป

นายธาริต กล่าวว่า ส่วนการจัดตั้งคณะกรรมการ บริหารการใช้ พ.ร.บ ความมั่นคงฯ หากถามจะมีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือไม่นั้น ตนเองไม่ทราบ แต่ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ ส่วนการสนธิกำลังต่างๆยังคงเหมือนเดิม แต่อำนาจหน้าที่ของทหารจะถูกลดลง ต่างจาก พ.ร.ก ฉุกเฉิน ที่อำนาจทหารและตำรวจเท่ากัน

นายธาริต กล่าวด้วยว่า หลังจากได้รับรายงานจากสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เกี่ยวกับการประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคมอันเนื่องมาจากการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศลดลงเนื่องจากหลายประเทศได้ประกาศเตือนพลเมืองของตนเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทย ส่วนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงเป็นลำดับจนปัจจุบันดัชนีอยู่ที่ 61.4 ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจลดลงเป็นลำดับจนปัจจุบันดัชนีอยู่ที่ 45.4 ซึ่งเป็นความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง และตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจซึ่งเดิม สศช. ได้ประมาณการไว้ที่ร้อยละ 4.0 – 5.0 จะต้องปรับลดลงเหลือเพียงร้อยละ 3.0 – 4.0 ศรส.จึงขอให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม กปปส. กลุ่ม นปช. หรือกลุ่มใด ๆ ตระหนักถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ก่อให้เกิดผลเสียหายต่อประเทศชาติในระยะยาว และแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นด้วยสันติวิธีโดยเร็วเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติเป็นส่วนรวม

ศรส.ได้พิจารณาแนวทางการช่วยเหลือประชาชนและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมปิด กทม.ของ กปปส. ตามที่คณะทำงานฯ ที่มีเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สศช.) เป็นประธาน แล้ว มีมติเห็นชอบตามแนวทางที่คณะทำงานฯ เสนอ คือ

ในส่วนของขอบเขตการให้ความช่วยเหลือนั้น จะให้การช่วยเหลือแก่ประชาชนหรือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงธุรกิจขนาดใหญ่ ในเขตพื้นที่ชุมนุม และนอกเขตพื้นที่ชุมนุมที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม นับแต่เกิดเหตุชุมนุมและภายหลังการชุมนุมด้วย ส่วนหลักเกณฑ์การช่วยเหลือ กรณีประชาชน จะต้องเป็นผู้ได้รับความเสียหายแก่ร่างกาย โดยมีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ส่วนกรณีผู้ประกอบการธุรกิจ ต้องอยู่ในระบบเสียภาษีโดยมีหลักฐานการประกอบธุรกิจชัดเจน

มาตรการให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ มาตรการทางการเงิน ได้แก่ ด้านการยืดระยะเวลาชำระเงินต้น สนับสนุนเงินทุน โดยกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย จะประสานขอความร่วมมือจากสถาบันการเงินต่าง ๆ

มาตรการส่งเสริมการตลาด ได้แก่ จัดกิจกรรมเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าและบริการ โดยมีกระทรวงพาณิชย์และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) รับผิดชอบ

มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ ได้แก่ การลดต้นทุนการผลิต ปรับปรุงขั้นตอนกระบวนการผลิต การฝึกอบรมผู้ประกอบการ โดยมี กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงแรงงาน และ สสว. รับผิดชอบ

มาตรการผ่อนปรนการชำระภาษี ได้แก่ การขยายกำหนดเวลายื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม ขยายเวลาการส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคม ขยายเวลายื่นชำระภาษีโรงเรือนและที่ดิน โดยมีกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบ

มาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายระยะสั้น ได้แก่ การให้เงินช่วยเหลือเบื้องต้น การผ่อนปรนค่าสาธารณูปโภค การลดค่าเช่า การจัดหาสถานที่ทำการค้า โดยมีกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพาณิชย์ รับผิดชอบมาตรการแรงงาน ได้แก่การให้เงินช่วยเหลือผู้ประกอบการเพื่อรักษาสภาพการจ้างงาน โดยมีกระทรวงแรงงานรับผิดชอบ

ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นศูนย์รับแจ้งผลกระทบจากประชาชนและผู้ประกอบการ และประสานการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ศรส.จะได้เสนอแนวทางดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาโดยเร่งด่วนต่อไป.

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 18 มีนาคม 2557