ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง"ผู้กองเจษฎา"ยิงนายทหารเรือดับ
Posted: 18 Mar 2014, 14:27
ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง"ผู้กองเจษฎา"ยิงนายทหารเรือดับ
อุทธรณ์ยืนยกฟ้อง "ผู้กองเจษฎา" อดีตรอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง ยิงนายทหารเรือดับเมื่อปี 53 เหตุขับรถปาดหน้า ระบุพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ยกประโยชน์ให้จำเลย
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 มี.ค. ที่ห้องพิจารณา 803 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีฆ่าผู้อื่น หมายเลขดำ อ.841/2554 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง ร.ต.อ.เจษฎา เจตภรณ์ อายุ 31 ปี อดีตรอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น โจทก์ระบุฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2553 เวลากลางคืน ขณะที่จำเลยขับรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน 1818 กรุงเทพมหานคร ได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด หมายเลขทะเบียน ยิงประทุษร้าย น.อ.วุฒิชัย บุญฤทธิ์ สังกัดกรมกำลังพลทหารเรือ พระราชวังเดิม จำนวน 3 นัด เข้าที่ศีรษะทะลุด้านหลัง จนถึงแก่ความตายบนรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สตราด้า สีน้ำเงินเทา ทะเบียน ลษ 4811 กรุงเทพมหานคร ก่อนหลบหนีไป โดยมีสาเหตุจากขับรถปาดหน้ากัน กระทั่งเจ้าหน้าที่จับกุมจำเลยได้เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2553 และขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 และมาตรา 374, พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ. 2490 ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ
คดีนี้ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2555 โดยเห็นว่าพยานโจทก์ไม่สามารถจดจำใบหน้ารูปพรรณสัณฐานของคนร้ายได้ว่าเป็นคนเดียวกับจำเลยหรือไม่ ประกอบกับพนักงานสอบสวนไม่ได้นำปืนที่ใช้ก่อเหตุมาตรวจรอยเขม่าดินปืน และตรวจวิถีกระสุนพยานหลักฐานโจทก์ไม่ระบุชัดเจนเพียงพอว่าจำเลยเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงผู้ตาย ศาลจึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย พิพากษายกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์ อัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษด้วย ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษากันแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะลงโทษจำเลยได้ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน ยกฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2556 ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาอุทธรณ์ ที่พิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง คดีหมายเลขดำ อ.850/2554 ที่ ร.ต.อ.เจษฎา เป็นจำเลยในความผิดฐานพยายามฆ่านายมณเฑียร จิตตระกูล โชเฟอร์แท็กซี่ เมื่อคืนวันที่ 18 ก.ค. 2553 ที่ซอยจำเนียรเสริม แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร สาเหตุเกิดจากการขับรถปาดหน้ากัน เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์มีพิรุธน่าสงสัย จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้คดีดังกล่าวศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุก ร.ต.อ.เจษฎา จำเลยเป็นเวลา 10 ปี.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่18 มีนาคม 2557
อุทธรณ์ยืนยกฟ้อง "ผู้กองเจษฎา" อดีตรอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง ยิงนายทหารเรือดับเมื่อปี 53 เหตุขับรถปาดหน้า ระบุพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ยกประโยชน์ให้จำเลย
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 มี.ค. ที่ห้องพิจารณา 803 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีฆ่าผู้อื่น หมายเลขดำ อ.841/2554 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง ร.ต.อ.เจษฎา เจตภรณ์ อายุ 31 ปี อดีตรอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น โจทก์ระบุฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2553 เวลากลางคืน ขณะที่จำเลยขับรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน 1818 กรุงเทพมหานคร ได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด หมายเลขทะเบียน ยิงประทุษร้าย น.อ.วุฒิชัย บุญฤทธิ์ สังกัดกรมกำลังพลทหารเรือ พระราชวังเดิม จำนวน 3 นัด เข้าที่ศีรษะทะลุด้านหลัง จนถึงแก่ความตายบนรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สตราด้า สีน้ำเงินเทา ทะเบียน ลษ 4811 กรุงเทพมหานคร ก่อนหลบหนีไป โดยมีสาเหตุจากขับรถปาดหน้ากัน กระทั่งเจ้าหน้าที่จับกุมจำเลยได้เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2553 และขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 และมาตรา 374, พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ. 2490 ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ
คดีนี้ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2555 โดยเห็นว่าพยานโจทก์ไม่สามารถจดจำใบหน้ารูปพรรณสัณฐานของคนร้ายได้ว่าเป็นคนเดียวกับจำเลยหรือไม่ ประกอบกับพนักงานสอบสวนไม่ได้นำปืนที่ใช้ก่อเหตุมาตรวจรอยเขม่าดินปืน และตรวจวิถีกระสุนพยานหลักฐานโจทก์ไม่ระบุชัดเจนเพียงพอว่าจำเลยเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงผู้ตาย ศาลจึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย พิพากษายกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์ อัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษด้วย ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษากันแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะลงโทษจำเลยได้ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน ยกฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2556 ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาอุทธรณ์ ที่พิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง คดีหมายเลขดำ อ.850/2554 ที่ ร.ต.อ.เจษฎา เป็นจำเลยในความผิดฐานพยายามฆ่านายมณเฑียร จิตตระกูล โชเฟอร์แท็กซี่ เมื่อคืนวันที่ 18 ก.ค. 2553 ที่ซอยจำเนียรเสริม แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร สาเหตุเกิดจากการขับรถปาดหน้ากัน เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์มีพิรุธน่าสงสัย จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้คดีดังกล่าวศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุก ร.ต.อ.เจษฎา จำเลยเป็นเวลา 10 ปี.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่18 มีนาคม 2557