ดีเอสไอ-สตม.รวบแฮกเกอร์ชื่อดังส่งตัวกลับสวิสฯ
Posted: 18 Mar 2014, 14:31
ดีเอสไอ-สตม.รวบแฮกเกอร์ชื่อดังส่งตัวกลับสวิสฯ
ดีเอสไอ-สตม. รวบแฮกเกอร์ชื่อดังชาวรัสเซียตามคำร้องขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปสวิสฯ เผยพฤติกรรมดัดแปลงหน้าเว็บไซค์สถาบันการเงิน ขโมยข้อมูลลูกค้าไปทำธุรกรรม เสียหายกว่า 4,000 ล้านเหรียญ
เมื่อวันที่18 มี.ค. พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยว่าดีเอสไอได้ร่วมทำงานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.)สำนักงานอัยการสูงสุด สืบสวนสอบสวนดำเนินคดีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ได้ร้องขอผ่านสถานเอกอัครราชทูตสวิสเซอร์แลนด์ให้สืบสวนกลุ่มชาวต่างชาติสัญชาติรัสเซียและโมร็อคโคกลุ่มหนึ่ง ที่ในปี 2554 กลุ่มดังกล่าวมีพฤติกรรมเจาะข้อมูลเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์และดัดแปลงหน้าเว็บไซต์สถาบันการเงินหลายแห่ง ทำให้คนหลงเชื่อว่าเป็นหน้าเว็บไซต์จริงจึงได้ทำ ธุรกรรมทางการเงินผ่านเว็บไซต์ที่ทำปลอมขึ้นทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายพันราย มูลค่าความเสียหายกว่า 4,000 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนพบว่ามีผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติตามที่ได้รับข้อมูลจากสถานเอกอัครราชทูตทางการสวิสเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย โดยกลุ่มดังกล่าวมีพฤติกรรมใช้เงินจากการกระทำผิดมาใช้ชีวิตหรูหราใน กทม.และพัทยารวมถึงแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ทราบชื่อต่อมาคือนายฟาริด เอสเซ้บบาร์ (Farid Essebbar) อายุ 27 ปี สัญชาติรัสเซียกับพวกรวม 3คน ได้หลบหนีเข้ามาอยู่ประเทศไทยมานาน 4 ปี มีลักษณะเดินทางเข้าออกทั้งในประเทศฮ่องกงและประเทศเพื่อนบ้านเป็นประจำ ทั้งนี้จากการสอบประวัติพบนายฟาริดเคยถูกสำนักงานสอบสวนกลาง(เอฟบีไอ)จับกุมเมื่ออายุ 17-18ปี เนื่องจากเข้าไปแฮกข้อมูลทำให้ถูกดำเนินคดีจำคุกนานประมาณ 1 ปี ก่อนถูกปล่อยตัวและกระทำผิดซ้ำ
ทั้งนี้ ดีเอสไอและพ.ต.อ.ทิฆัมพร ศรีสังข์ ผกก.2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนสตม. ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมนานกว่า 2 ปี จนกระทั่งศาลอนุมัติหมายจับให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจากคนร้ายมีหมายจับของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จึงได้ขอความร่วมมือกับประเทศไทยให้ส่งตัวกลับไปดำเนินคดี ซึ่งตามขั้นตอนหลังจากนี้ภายใน 90 วัน จะมีการส่งตัวคนร้ายกลับไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ดีเอสไอร่วมกับสตม.เข้าจับกุมนายฟาริดได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านพระรามเก้าพร้อมของกลางเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุค 2 เครื่องโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้คือการดัดแปลงหน้าเว็บไซต์เพื่อเจาะข้อมูล โดยนำข้อมูลเหล่านั้นไปทำธุรกรรมเช่นไอแบงกิ้ง จองห้องพัก และใช้จ่ายหรูหรา ผู้เสียหายส่วนใหญ่อยู่แถบยุโรปเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและยิมยอมที่จะเดินทางกลับไปประเทศสวิสเซอร์แลนด์
“จากการตรวจสอบข้อมูลนายฟาริดเป็นบุคคลคนเดียวกับแฮกเกอร์ชื่อดังที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์วิกิพีเดียที่ระบุว่าเป็นอาชญากรคอมพิวเตอร์และเคยแฮกข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ของสื่อมวลชนหลายสำนัก ซึ่งไมโครซอฟและเอฟบีไอต่างต้องการตัวเช่นเดียวกัน คนร้ายกลุ่มนี้นำเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปใช้จ่ายในการท่องเที่ยวอย่างฟุ่มเฟือย แต่ไม่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการเล่นพนันหรือมีการครอบครองทรัพย์สินจำนวนมากในประเทศไทย เบื้องต้นคาดว่าทรัพย์สินจะอยู่ในต่างประเทศ โดยการเดินทางเข้าประเทศจะซื้อเพียงตั๋วเครื่องบินเข้าประเทศ ส่วนการจองโรงแรมหรือที่พักใช้บริการของเอเจนซี่เพื่อป้องกันการติดตามถึงตัวคนร้าย”ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศฯ กล่าว
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 18 มีนาคม 2557
ดีเอสไอ-สตม. รวบแฮกเกอร์ชื่อดังชาวรัสเซียตามคำร้องขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปสวิสฯ เผยพฤติกรรมดัดแปลงหน้าเว็บไซค์สถาบันการเงิน ขโมยข้อมูลลูกค้าไปทำธุรกรรม เสียหายกว่า 4,000 ล้านเหรียญ
เมื่อวันที่18 มี.ค. พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยว่าดีเอสไอได้ร่วมทำงานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.)สำนักงานอัยการสูงสุด สืบสวนสอบสวนดำเนินคดีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ได้ร้องขอผ่านสถานเอกอัครราชทูตสวิสเซอร์แลนด์ให้สืบสวนกลุ่มชาวต่างชาติสัญชาติรัสเซียและโมร็อคโคกลุ่มหนึ่ง ที่ในปี 2554 กลุ่มดังกล่าวมีพฤติกรรมเจาะข้อมูลเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์และดัดแปลงหน้าเว็บไซต์สถาบันการเงินหลายแห่ง ทำให้คนหลงเชื่อว่าเป็นหน้าเว็บไซต์จริงจึงได้ทำ ธุรกรรมทางการเงินผ่านเว็บไซต์ที่ทำปลอมขึ้นทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายพันราย มูลค่าความเสียหายกว่า 4,000 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนพบว่ามีผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติตามที่ได้รับข้อมูลจากสถานเอกอัครราชทูตทางการสวิสเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย โดยกลุ่มดังกล่าวมีพฤติกรรมใช้เงินจากการกระทำผิดมาใช้ชีวิตหรูหราใน กทม.และพัทยารวมถึงแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ทราบชื่อต่อมาคือนายฟาริด เอสเซ้บบาร์ (Farid Essebbar) อายุ 27 ปี สัญชาติรัสเซียกับพวกรวม 3คน ได้หลบหนีเข้ามาอยู่ประเทศไทยมานาน 4 ปี มีลักษณะเดินทางเข้าออกทั้งในประเทศฮ่องกงและประเทศเพื่อนบ้านเป็นประจำ ทั้งนี้จากการสอบประวัติพบนายฟาริดเคยถูกสำนักงานสอบสวนกลาง(เอฟบีไอ)จับกุมเมื่ออายุ 17-18ปี เนื่องจากเข้าไปแฮกข้อมูลทำให้ถูกดำเนินคดีจำคุกนานประมาณ 1 ปี ก่อนถูกปล่อยตัวและกระทำผิดซ้ำ
ทั้งนี้ ดีเอสไอและพ.ต.อ.ทิฆัมพร ศรีสังข์ ผกก.2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนสตม. ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมนานกว่า 2 ปี จนกระทั่งศาลอนุมัติหมายจับให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจากคนร้ายมีหมายจับของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จึงได้ขอความร่วมมือกับประเทศไทยให้ส่งตัวกลับไปดำเนินคดี ซึ่งตามขั้นตอนหลังจากนี้ภายใน 90 วัน จะมีการส่งตัวคนร้ายกลับไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ดีเอสไอร่วมกับสตม.เข้าจับกุมนายฟาริดได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านพระรามเก้าพร้อมของกลางเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุค 2 เครื่องโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้คือการดัดแปลงหน้าเว็บไซต์เพื่อเจาะข้อมูล โดยนำข้อมูลเหล่านั้นไปทำธุรกรรมเช่นไอแบงกิ้ง จองห้องพัก และใช้จ่ายหรูหรา ผู้เสียหายส่วนใหญ่อยู่แถบยุโรปเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและยิมยอมที่จะเดินทางกลับไปประเทศสวิสเซอร์แลนด์
“จากการตรวจสอบข้อมูลนายฟาริดเป็นบุคคลคนเดียวกับแฮกเกอร์ชื่อดังที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์วิกิพีเดียที่ระบุว่าเป็นอาชญากรคอมพิวเตอร์และเคยแฮกข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ของสื่อมวลชนหลายสำนัก ซึ่งไมโครซอฟและเอฟบีไอต่างต้องการตัวเช่นเดียวกัน คนร้ายกลุ่มนี้นำเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปใช้จ่ายในการท่องเที่ยวอย่างฟุ่มเฟือย แต่ไม่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการเล่นพนันหรือมีการครอบครองทรัพย์สินจำนวนมากในประเทศไทย เบื้องต้นคาดว่าทรัพย์สินจะอยู่ในต่างประเทศ โดยการเดินทางเข้าประเทศจะซื้อเพียงตั๋วเครื่องบินเข้าประเทศ ส่วนการจองโรงแรมหรือที่พักใช้บริการของเอเจนซี่เพื่อป้องกันการติดตามถึงตัวคนร้าย”ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศฯ กล่าว
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 18 มีนาคม 2557