เกาหลีคลั่งเสาะหาอุกกาบาตหลังฝนดาวตก
Posted: 18 Mar 2014, 17:34
เกาหลีคลั่งเสาะหาอุกกาบาตหลังฝนดาวตก
บรรดาชาวเกาหลีใต้กำลังเที่ยวหาของที่ระลึกจากอวกาศ หลังเกิดฝนดาวตกที่ไม่มีขึ้นบ่อยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 18 มี.ค. อ้างหนังสือพิมพ์รายวันจุงอังที่ระบุว่า ประชาชนหลายร้อยคนเที่ยวเสาะหาสะเก็ดดาวตกตามภูเขาและทุ่งนาในเมืองจินจู ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ หลังเกิดฝนดาวตกเมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ ชาวเกาหลีบางคนใช้อุปกรณ์จีพีเอสและเครื่องตรวจจับโลหะในการค้นหาสะเก็ดดาวตกกันเลยทีเดียว
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานมรดกทางวัฒนธรรมของเกาหลีบอกว่า สาเหตุที่ผู้คนเที่ยวเสาะหาดาวตก เนื่องจากสื่อในประเทศได้เผยแพร่เกินจริงว่า สะเก็ดดาวตกอาจทำให้พบสินแร่จำนวนมหาศาล จนก่อให้เกิดกระแสคลั่งไคล้หินจากอวกาศ ทำให้เจ้าของร้านปลูกผักเรือนกระจกท้องถิ่นหลายรายได้ขึ้นป้ายห้ามบุกรุก หลังมีคนพบหินจากอวกาศก้อนใหญ่ลูกแรก ซึ่งมีน้ำหนักราว 9 กิโลกรัม ในเรือนกระจกแห่งหนึ่งใกล้เมืองจินจู
ส่วนสะเก็ดดาวตกลูกที่สอง น้ำหนัก 4 กิโลกรัม ถูกพบโดยชาวบ้านอีกราย อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า ก้อนหินทั้งสองที่พบในช่วง 2 วันหลังเกิดฝนดาวตก มาจากนอกโลก นักล่าอุกกาบาตชาวอเมริกันได้แจกนามบัตรให้แก่ชาวบ้าน พร้อมขอซื้อสะเก็ดดาวตกที่พวกเขาพบ
ด้าน นายกรัฐมนตรีชุง ฮอง-วอน เสนอยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ โดยรัฐบาลจะช่วยประชาชนในการวิจัยหรือเก็บสะเก็ดดาวตกเป็นตัวอย่างทางธรรมชาติ แต่แหล่งข่าวจากสำนักงานมรดกทางวัฒนธรรมของเกาหลีระบุว่า ทางสำนักงานฯจะอธิบายว่า สะเก็ดดาวตกที่พบนั้นเป็นสมบัติทางวัฒนธรรม เพื่อป้องกันไม่ให้หินอวกาศถูกนำออกไปจากเกาหลีใต้ ทั้งนี้ อุกกาบาตคือดาวตกที่ยังไม่ได้ถูกเผาจนเป็นจุณ แต่ยังคงหลงเหลือกลายเป็นสะเก็ดดาวตกที่ร่วงหล่นสู่พื้นโลก
สำหรับสะเก็ดดาวตกถูกพบครั้งสุดท้ายในเกาหลีใต้เมื่อปี 2486 ครั้งนั้นคาบสมุทรเกาหลีอยู่ใต้อาณานิคมของญี่ปุ่น
ทีมา เดลินิวส์
วันที่ 18 มีนาคม 2557
บรรดาชาวเกาหลีใต้กำลังเที่ยวหาของที่ระลึกจากอวกาศ หลังเกิดฝนดาวตกที่ไม่มีขึ้นบ่อยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 18 มี.ค. อ้างหนังสือพิมพ์รายวันจุงอังที่ระบุว่า ประชาชนหลายร้อยคนเที่ยวเสาะหาสะเก็ดดาวตกตามภูเขาและทุ่งนาในเมืองจินจู ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ หลังเกิดฝนดาวตกเมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ ชาวเกาหลีบางคนใช้อุปกรณ์จีพีเอสและเครื่องตรวจจับโลหะในการค้นหาสะเก็ดดาวตกกันเลยทีเดียว
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานมรดกทางวัฒนธรรมของเกาหลีบอกว่า สาเหตุที่ผู้คนเที่ยวเสาะหาดาวตก เนื่องจากสื่อในประเทศได้เผยแพร่เกินจริงว่า สะเก็ดดาวตกอาจทำให้พบสินแร่จำนวนมหาศาล จนก่อให้เกิดกระแสคลั่งไคล้หินจากอวกาศ ทำให้เจ้าของร้านปลูกผักเรือนกระจกท้องถิ่นหลายรายได้ขึ้นป้ายห้ามบุกรุก หลังมีคนพบหินจากอวกาศก้อนใหญ่ลูกแรก ซึ่งมีน้ำหนักราว 9 กิโลกรัม ในเรือนกระจกแห่งหนึ่งใกล้เมืองจินจู
ส่วนสะเก็ดดาวตกลูกที่สอง น้ำหนัก 4 กิโลกรัม ถูกพบโดยชาวบ้านอีกราย อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า ก้อนหินทั้งสองที่พบในช่วง 2 วันหลังเกิดฝนดาวตก มาจากนอกโลก นักล่าอุกกาบาตชาวอเมริกันได้แจกนามบัตรให้แก่ชาวบ้าน พร้อมขอซื้อสะเก็ดดาวตกที่พวกเขาพบ
ด้าน นายกรัฐมนตรีชุง ฮอง-วอน เสนอยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ โดยรัฐบาลจะช่วยประชาชนในการวิจัยหรือเก็บสะเก็ดดาวตกเป็นตัวอย่างทางธรรมชาติ แต่แหล่งข่าวจากสำนักงานมรดกทางวัฒนธรรมของเกาหลีระบุว่า ทางสำนักงานฯจะอธิบายว่า สะเก็ดดาวตกที่พบนั้นเป็นสมบัติทางวัฒนธรรม เพื่อป้องกันไม่ให้หินอวกาศถูกนำออกไปจากเกาหลีใต้ ทั้งนี้ อุกกาบาตคือดาวตกที่ยังไม่ได้ถูกเผาจนเป็นจุณ แต่ยังคงหลงเหลือกลายเป็นสะเก็ดดาวตกที่ร่วงหล่นสู่พื้นโลก
สำหรับสะเก็ดดาวตกถูกพบครั้งสุดท้ายในเกาหลีใต้เมื่อปี 2486 ครั้งนั้นคาบสมุทรเกาหลีอยู่ใต้อาณานิคมของญี่ปุ่น
ทีมา เดลินิวส์
วันที่ 18 มีนาคม 2557