Page 1 of 1

“นิด้า”คาดหากการเมืองลากยาวจีดีพีโตแค่1.4%

Posted: 20 Mar 2014, 11:33
by brid.ladawan
“นิด้า”คาดหากการเมืองลากยาวจีดีพีโตแค่1.4%

การเมืองฉุดเศรษฐกิจปี 57 โตติดดิน! “นิด้า” คาด เศรษฐกิจไทยปีนี้โตแค่ 2.6% หากปัญหาการเมืองจบไตรมาส 2 ตั้งรัฐบาลใหม่ได้ พร้อมประเมินกรณีเลวร้ายสุด หากการเมืองลากยาวถึงครึ่งปีหลัง เชื่อจีดีพีขยายตัวแค่ 1.4%

นายยุทธนาเศรษฐปราโมทย์ ผู้อำนวยการหลักสูตรเศรษฐศาสตร์การเงิน คณะพัฒนาการเศรษฐกิจสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)เปิดเผยในงานสัมมนาวิชาการเรื่องผลของวิกฤตการเมืองกับเศรษฐกิจไทย ปี 57 ว่าปัญหาทางการเมืองภายในประเทศไทยเป็นปัจจัยเสียงที่สำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี57 โดยนิด้าคาดว่าหากในไตรมาสที่2 สถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงโดยมีการเลือกตั้งรวมทั้งมีข้อตกลงเกี่ยวกับแนวทางการปฏิรูปและจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้จะส่งผลดีต่อการขยายตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้เศรษฐกิจไทยโตประมาณ 2.6% แต่ถ้าสถานการณ์ยังยืดเยื้อถึงช่วงครึ่งปีหลังประกอบกับเศรษฐกิจโลกยังชะลอตัวต่อเนื่อง โดยประเมินสถานการณ์ร้ายแรงที่สุดเชื่อว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้เพียง 1.4%เท่านั้น

ทั้งนี้ปัจจัยเสี่ยงสำคัญของปัญหาทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจนั้นจะส่งผลโดยตรงต่อรายจ่ายภาครัฐบาล ทั้งด้านการบริโภคและการลงทุนซึ่งเกิดจากความไม่แน่นอนของการจัดตั้งรัฐบาล ยังมีรัฐบาลรักษาการอยู่ยาวนานรวมทั้งยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปปิดสถานที่ราชการจะมีผลต่อการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐอย่างมาก ขณะเดียวกันการปิดสถานที่สำคัญในย่านธุรกิจยังส่งผลถึงการบริโภคเอกชนและรายได้จากการท่องเที่ยวลดลงด้วยนอกจากนี้ในด้านการลงทุนภาคเอกชนยังมีความเสี่ยงด้านนโยบายเศรษฐกิจจากการที่ดารเมืองไม่มีเสถียรภาพโดยปัจจัยทั้งหมดจะส่งผลกระทบทันทีต่อเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ในอัตราที่ต่ำ

“ถ้าการชุมนุมยังยืดเยื้อ แม้ว่าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มผู้ชุมนุมจะลดระดับย้ายไปชุมนุมจุดเดียว โดยในเดือนพ.ค.-มิ.ย.57 หากจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้การปฏิรูปไม่ชัดเจน จะมีผลไปถึงครึ่งปีหลัง ซึ่งการประเมินขั้นรุนแรงที่สุดซึ่งรวมปัญหาทางการเมืองของไทย และเศรษฐกิจโลก เช่น สถานการณ์ของสหรัฐฯและรัสเซียรุนแรงขึ้นจะทำให้การบริโภคลดลงเหลือ 0.4% ส่วนการลงทุนจะติดลบ 3.3% ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยโตเพียง1.4% แม้ว่าการส่งออกจะค่อยๆฟื้นตัวดีขึ้นมาก็ตามจึงถือว่าน่าเป็นห่วงอย่างมาก หากปล่อยให้สถานการณ์เป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ”

ที่มา เดลินิวส์
วันที่19 มีนาคม 2557