สลดโลมาหัวบาตรตายเกยหาดสิชลตัวที่5
Posted: 21 Mar 2014, 14:50
สลดโลมาหัวบาตรตายเกยหาดสิชลตัวที่5
สลดโลมาหัวบาตรตายเกยหาดสิชล จ.นครศรีธรรมราช ตัวที่ 5 ในรอบ 3 เดือน คาดกินคราบน้ำมัน จากการขุดเจาะกลางทะเลอ่าวไทย
เวลา 10.00 น. วันที่ 21 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่หาดปลายทอย หมู่ 5 ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล จ.นครศรีรรมราช มีซากโลมาถูกคลื่นซัดมาติดหาด รีบไปตรวจสอบพบโลมาหัวบาตรหลังเรียบ เพศเมีย ยาว 1.5 เมตร น้ำหนักกว่า 40 กิโลกรัม ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย โดยบริเวณชายหาดมีคราบน้ำมันลอยมาติดอยู่ตลอดแนวฝั่ง โดยโลมาตัวดังกล่าวถือว่าเป็นโลมาตัวที่ 5 ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมาที่เสียชีวิต
ท้ังนี้นายสันติ นิลวัฒน์ นักวิชาการชำนาญการ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจังหวัดสงขลาได้เข้ามาเก็บซากโลมา เพื่อไปตรวจพิสูจน์ถึงสาเหตุการตาย พร้อมระบุเบื้องต้นว่า โลมาสายพันธ์ดังกล่าวเป็นโลมาที่เล็กที่สุดในโลก พบทั่วไปในท้องทะเล ตัวที่พบเป็นตัวเต็มวัยเพศเมีย อายุประมาณ 10 ปี
ขณะที่นายพิทักษ์ บริพิตร นายอำเภอสิชล กล่าวว่าสาเหตุการตายของโลมา น่าจะเกิดจากการการกินก้อนน้ำมัน ที่ถูกพัดมาติดชายหาดตลอดแนว จ.นครศรีธรรมราช เบื้องต้นสันนิษฐานว่าที่มาของก้อนน้ำมันดังกล่าวน่าจะมาจากแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางอ่าวไทยในภาคใต้ตอนล่าง ที่มีแนวลมตรงกับจุดดังกล่าวพอดี
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 21 มีนาคม 2557
สลดโลมาหัวบาตรตายเกยหาดสิชล จ.นครศรีธรรมราช ตัวที่ 5 ในรอบ 3 เดือน คาดกินคราบน้ำมัน จากการขุดเจาะกลางทะเลอ่าวไทย
เวลา 10.00 น. วันที่ 21 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่หาดปลายทอย หมู่ 5 ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล จ.นครศรีรรมราช มีซากโลมาถูกคลื่นซัดมาติดหาด รีบไปตรวจสอบพบโลมาหัวบาตรหลังเรียบ เพศเมีย ยาว 1.5 เมตร น้ำหนักกว่า 40 กิโลกรัม ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย โดยบริเวณชายหาดมีคราบน้ำมันลอยมาติดอยู่ตลอดแนวฝั่ง โดยโลมาตัวดังกล่าวถือว่าเป็นโลมาตัวที่ 5 ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมาที่เสียชีวิต
ท้ังนี้นายสันติ นิลวัฒน์ นักวิชาการชำนาญการ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจังหวัดสงขลาได้เข้ามาเก็บซากโลมา เพื่อไปตรวจพิสูจน์ถึงสาเหตุการตาย พร้อมระบุเบื้องต้นว่า โลมาสายพันธ์ดังกล่าวเป็นโลมาที่เล็กที่สุดในโลก พบทั่วไปในท้องทะเล ตัวที่พบเป็นตัวเต็มวัยเพศเมีย อายุประมาณ 10 ปี
ขณะที่นายพิทักษ์ บริพิตร นายอำเภอสิชล กล่าวว่าสาเหตุการตายของโลมา น่าจะเกิดจากการการกินก้อนน้ำมัน ที่ถูกพัดมาติดชายหาดตลอดแนว จ.นครศรีธรรมราช เบื้องต้นสันนิษฐานว่าที่มาของก้อนน้ำมันดังกล่าวน่าจะมาจากแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางอ่าวไทยในภาคใต้ตอนล่าง ที่มีแนวลมตรงกับจุดดังกล่าวพอดี
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 21 มีนาคม 2557