องคมนตรีชี้เด็กไทยขาดการเรียนรู้สถาบันหลัก
Posted: 04 Apr 2014, 18:27
องคมนตรีชี้เด็กไทยขาดการเรียนรู้สถาบันหลัก
องคมนตรียกย่องสมเด็จพระเทพฯ ทรงเป็นต้นแบบพัฒนาระบบบริหารการศึกษาของโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารที่มีการเชื่อมโยงเรียนรู้สถาบันหลักของชาติทำให้เด็กเข้าใจความเป็นชาติไทย ในขณะที่ระบบการศึกษาหลักกลับละเลยเรื่องเหล่านี้
วันนี้(4เม.ย.)ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี กล่าวในการปาฐกถาพิเศษเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2557 ณ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงงานด้านการศึกษามากว่า 30 ปี โดยพระองค์จะเน้นส่งเสริม การวิจัยและการอุดมศึกษาทั้งในและต่างประเทศ การอาชีวศึกษา การศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาพิเศษ กศน. การเชื่อมโยงระหว่างระดับการศึกษา การศึกษาพระปริยัติธรรม โดยเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ เช่น ทรงออกแบบระบบการศึกษาของโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารในเวียดนาม กัมพูชา ลาว เมียนมา เป็นต้น
ศ.นพ.เกษม กล่าวต่อไปว่า ที่สำคัญพระองค์ทรงออกแบบการบริหารการศึกษาโรงเรียนตามชายขอบของประเทศไทย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อชุมชน และเด็กชายขอบเป็นอย่างมาก โดยพระองค์ได้มีการเชื่อมโยงสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไว้ในระบบการศึกษาให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ในเชิงลึก เพื่อที่จะได้เติบโตมาอย่างเข้าใจความเป็นชาติไทย รวมทั้งทำให้โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเชื่อมโยงถึงชุมชน ทั้งทางด้านเกษตร สาธารณสุข และคุณภาพชีวิต โดยพระองค์จะออกแบบระบบการศึกษาให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่นนั้นๆด้วย
" ที่ผ่านมาระบบการศึกษาหลักของประเทศไทย ไม่ได้ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้ศึกษาในเชิงลึกเกี่ยวกับความสำคัญของสถาบันหลัก เพื่อที่จะให้เด็กและเยาวชนเข้าใจว่า อดีตของประเทศเป็นเช่นไร และในอนาคตจะต้องเดินอย่างไร นี่คือจุดอ่อนของประเทศไทย" องคมนตรี กล่าว
ศ.นพ.เกษม กล่าวอีกว่า พระองค์ยังทรงให้ความสำคัญกับระบบอาชีวศึกษาเป็นอย่างมากด้วย โดยได้ทรงริเริ่มให้นักเรียนเรียนระดับ ปวช.และม.4-6 ในโรงเรียนเดียวกัน โดยเด็กจบมาจะได้วุฒิการศึกษาทั้ง 2 รูปแบบ เพื่อเป็นทางเลือกในการศึกษาต่อ และทรงพระราชทานทุนให้นักเรียน นักศึกษา ไปศึกษาต่อต่างประเทศ โดยเฉพาะเด็กในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งเด็กเหล่านี้เมื่อจบมาแล้ว ก็จะกลับมาเป็นครูในโรงเรียนเดิมของตน เพื่อส่งต่อความรู้สู่รุ่น ซึ่งต้องยอมรับว่า การจัดการศึกษาตามภูมิสังคมนั้น มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งเกิดผลให้เห็นแล้วตามแนวชายแดนของประเทศไทย ที่มีความมั่นคงเกิดขึ้นด้วยระบบการศึกษาที่พระองค์ได้ทรงแนวทางไว้
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 4 เมษายน 2557
องคมนตรียกย่องสมเด็จพระเทพฯ ทรงเป็นต้นแบบพัฒนาระบบบริหารการศึกษาของโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารที่มีการเชื่อมโยงเรียนรู้สถาบันหลักของชาติทำให้เด็กเข้าใจความเป็นชาติไทย ในขณะที่ระบบการศึกษาหลักกลับละเลยเรื่องเหล่านี้
วันนี้(4เม.ย.)ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี กล่าวในการปาฐกถาพิเศษเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2557 ณ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงงานด้านการศึกษามากว่า 30 ปี โดยพระองค์จะเน้นส่งเสริม การวิจัยและการอุดมศึกษาทั้งในและต่างประเทศ การอาชีวศึกษา การศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาพิเศษ กศน. การเชื่อมโยงระหว่างระดับการศึกษา การศึกษาพระปริยัติธรรม โดยเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ เช่น ทรงออกแบบระบบการศึกษาของโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารในเวียดนาม กัมพูชา ลาว เมียนมา เป็นต้น
ศ.นพ.เกษม กล่าวต่อไปว่า ที่สำคัญพระองค์ทรงออกแบบการบริหารการศึกษาโรงเรียนตามชายขอบของประเทศไทย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อชุมชน และเด็กชายขอบเป็นอย่างมาก โดยพระองค์ได้มีการเชื่อมโยงสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไว้ในระบบการศึกษาให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ในเชิงลึก เพื่อที่จะได้เติบโตมาอย่างเข้าใจความเป็นชาติไทย รวมทั้งทำให้โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเชื่อมโยงถึงชุมชน ทั้งทางด้านเกษตร สาธารณสุข และคุณภาพชีวิต โดยพระองค์จะออกแบบระบบการศึกษาให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่นนั้นๆด้วย
" ที่ผ่านมาระบบการศึกษาหลักของประเทศไทย ไม่ได้ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้ศึกษาในเชิงลึกเกี่ยวกับความสำคัญของสถาบันหลัก เพื่อที่จะให้เด็กและเยาวชนเข้าใจว่า อดีตของประเทศเป็นเช่นไร และในอนาคตจะต้องเดินอย่างไร นี่คือจุดอ่อนของประเทศไทย" องคมนตรี กล่าว
ศ.นพ.เกษม กล่าวอีกว่า พระองค์ยังทรงให้ความสำคัญกับระบบอาชีวศึกษาเป็นอย่างมากด้วย โดยได้ทรงริเริ่มให้นักเรียนเรียนระดับ ปวช.และม.4-6 ในโรงเรียนเดียวกัน โดยเด็กจบมาจะได้วุฒิการศึกษาทั้ง 2 รูปแบบ เพื่อเป็นทางเลือกในการศึกษาต่อ และทรงพระราชทานทุนให้นักเรียน นักศึกษา ไปศึกษาต่อต่างประเทศ โดยเฉพาะเด็กในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งเด็กเหล่านี้เมื่อจบมาแล้ว ก็จะกลับมาเป็นครูในโรงเรียนเดิมของตน เพื่อส่งต่อความรู้สู่รุ่น ซึ่งต้องยอมรับว่า การจัดการศึกษาตามภูมิสังคมนั้น มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งเกิดผลให้เห็นแล้วตามแนวชายแดนของประเทศไทย ที่มีความมั่นคงเกิดขึ้นด้วยระบบการศึกษาที่พระองค์ได้ทรงแนวทางไว้
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 4 เมษายน 2557