ไฟเขียว50ล้านช่วยชาวสวนผลไม้
Posted: 25 Jun 2014, 14:22
ไฟเขียว50ล้านช่วยชาวสวนผลไม้
คชก. ไฟเขียว สั่งจ่ายเงินกว่า 50 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ โอนเงินเข้าบัญชีกระทรวงเกษตรฯ ก่อนกระจายต่อไปยังชาวสวนผลไม้
นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะกรรมการคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) เปิดเผยว่า คชก.มีมติเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการตามแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาผลไม้ภาคตะวันออกปี 57 อนุมัติวงเงิน 50.93 ล้านบาท จากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อช่วยเหลือในด้านการกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิต และการส่งเสริมการแปรรูป ตั้งแต่21 มิ.ย.57–31 ธ.ค.58
“ที่ผ่านมาเกษตรกรชาวสวนผลไม้ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ผลไม้ภาคตะวันออก ปี 57เพิ่มขึ้นจาก ปี 56 อย่างมากทำให้เกิดการจำหน่ายผลไม้ออกสู่ตลาดกระจุกตัวสูงมากในช่วงเดือนมิ.ย.57 โดยเฉพาะมังคุดและเงาะส่งผลให้เกิดปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำ โดยยืนยันว่าจำนวนเงินดังกล่าวจะช่วยให้เกษตรกรสามารถมีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการจำหน่ายผลผลิตได้ตลอดฤดูกาลรวมถึงสามารถแปรรูปสินค้าไว้จำหน่ายได้ตลอดไม่เกิดการสูญเสีย”
ทั้งนี้กรมฯ ได้สั่งจ่ายเงินกองทุนฯ เข้าบัญชีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าว จะนำไปเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการจัดซื้อผลไม้และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อนำไปแปรรูป 2.80 ล้านบาท และอีก 48.13 ล้านบาท จะจ่ายขาดเพื่อสนับสนุนเงินชดเชยค่าขนส่งและบริหารจัดการผลผลิตในการกระจายผลผลิตสู่ตลาดตลาดปลายทางนอกแหล่งผลิต 39.75 ล้านบาท เป็นเงินชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ 3% ต่อปี ที่กู้ยืมจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อเสริมสภาพคล่องในการซื้อขายผลไม้ 6.54 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการแปรรูปมังคุด และเงาะเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต 450,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการติดตาม และบริหารจัดการโครงการ 1.39 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานกล่าวว่า ที่ประชุมยังได้อนุมัติให้ยกเว้นเบี้ยปรับจากการผิดนัดชำระหนี้ตามกรอบแนวทางการติดตามการชำระหนี้กองทุนรวม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้แก่กลุ่มเกษตรกร จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นลูกหนี้โครงการสนับสนุนการจัดซื้อเตาอบและเงินทุนหมุนเวียนรับซื้อลิ้นจี่เพื่อแปรรูป ปี 40 วงเงิน 26,631 บาท โดยนำค่าเบี้ยปรับที่กลุ่มเกษตรกรชำระแล้วมาชำระเป็นเงินต้นที่คงค้างเพื่อปรับลดภาระหนี้และตัดออกจากบัญชีลูกหนี้คงค้างของกรมส่งเสริมการเกษตร
อย่างไรก็ตามยืนยันว่า คสช. มีหลักการที่ชัดเจนในการช่วยเหลือเกษตรกรโดยจะมุ่งลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตต่อไร่เพื่อลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรอย่างยั่งยืนและจะสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามนโยบายอย่างเคร่งครัด
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 24 มิถุนายน 2557
คชก. ไฟเขียว สั่งจ่ายเงินกว่า 50 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ โอนเงินเข้าบัญชีกระทรวงเกษตรฯ ก่อนกระจายต่อไปยังชาวสวนผลไม้
นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะกรรมการคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) เปิดเผยว่า คชก.มีมติเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการตามแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาผลไม้ภาคตะวันออกปี 57 อนุมัติวงเงิน 50.93 ล้านบาท จากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อช่วยเหลือในด้านการกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิต และการส่งเสริมการแปรรูป ตั้งแต่21 มิ.ย.57–31 ธ.ค.58
“ที่ผ่านมาเกษตรกรชาวสวนผลไม้ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ผลไม้ภาคตะวันออก ปี 57เพิ่มขึ้นจาก ปี 56 อย่างมากทำให้เกิดการจำหน่ายผลไม้ออกสู่ตลาดกระจุกตัวสูงมากในช่วงเดือนมิ.ย.57 โดยเฉพาะมังคุดและเงาะส่งผลให้เกิดปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำ โดยยืนยันว่าจำนวนเงินดังกล่าวจะช่วยให้เกษตรกรสามารถมีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการจำหน่ายผลผลิตได้ตลอดฤดูกาลรวมถึงสามารถแปรรูปสินค้าไว้จำหน่ายได้ตลอดไม่เกิดการสูญเสีย”
ทั้งนี้กรมฯ ได้สั่งจ่ายเงินกองทุนฯ เข้าบัญชีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าว จะนำไปเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการจัดซื้อผลไม้และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อนำไปแปรรูป 2.80 ล้านบาท และอีก 48.13 ล้านบาท จะจ่ายขาดเพื่อสนับสนุนเงินชดเชยค่าขนส่งและบริหารจัดการผลผลิตในการกระจายผลผลิตสู่ตลาดตลาดปลายทางนอกแหล่งผลิต 39.75 ล้านบาท เป็นเงินชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ 3% ต่อปี ที่กู้ยืมจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อเสริมสภาพคล่องในการซื้อขายผลไม้ 6.54 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการแปรรูปมังคุด และเงาะเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต 450,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการติดตาม และบริหารจัดการโครงการ 1.39 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานกล่าวว่า ที่ประชุมยังได้อนุมัติให้ยกเว้นเบี้ยปรับจากการผิดนัดชำระหนี้ตามกรอบแนวทางการติดตามการชำระหนี้กองทุนรวม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้แก่กลุ่มเกษตรกร จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นลูกหนี้โครงการสนับสนุนการจัดซื้อเตาอบและเงินทุนหมุนเวียนรับซื้อลิ้นจี่เพื่อแปรรูป ปี 40 วงเงิน 26,631 บาท โดยนำค่าเบี้ยปรับที่กลุ่มเกษตรกรชำระแล้วมาชำระเป็นเงินต้นที่คงค้างเพื่อปรับลดภาระหนี้และตัดออกจากบัญชีลูกหนี้คงค้างของกรมส่งเสริมการเกษตร
อย่างไรก็ตามยืนยันว่า คสช. มีหลักการที่ชัดเจนในการช่วยเหลือเกษตรกรโดยจะมุ่งลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตต่อไร่เพื่อลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรอย่างยั่งยืนและจะสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามนโยบายอย่างเคร่งครัด
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 24 มิถุนายน 2557