บุโรพุทโธ พุทธเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Posted: 27 Jun 2014, 16:51
บุโรพุทโธ พุทธเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
มหาเจดีย์ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ บุโรพุทโธ พุทธเจดีย์ หรือ โบโรบูดูร์ (borobodur) ตั้งอยู่ใจกลางเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ชาวชวา เรียกว่า บาราบูดูร์ (Barabudur) คำว่า Bara มาจากคำว่า Biara มีความหมายถึงวิหาร (Vihara)หรือวัด ส่วนคำว่า Budur มีความหมายว่า ภูเขาสูง เมื่อรวมกันแล้ว จึงหมายถึงวิหารที่สร้างขึ้นบนภูเขาสูง
บุโรพุทโธ เป็นพุทธสถานอันงามสง่าและเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก สร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 14 ในสมัยของกษัตริย์ราชวงศ์ไศเลนทร์ แห่งอาณาจักรศรีวิชัย ในสมัยนั้นหมู่เกาะต่างๆ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอินเดีย ซึ่งเป็นที่มาของอิทธิพลทางด้านความเชื่อทางศาสนา ทั้งฮินดูและพุทธ ขณะนั้นกษัตริย์ในราชวงศ์ไศเลนทร์ของศรีวิชัยเป็นชาวฮินดู แต่เกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ประกอบกับชาวศรีวิชัยส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ทำให้เกาะชวาเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรศรีวิชัย
พุทธเจดีย์บุโรพุทโธ สร้างขึ้นจากความรักความศรัทธาอย่างเปี่ยมล้นต่อพระพุทธศาสนาของประชาชนชาวศรีวิชัย ประติมากรรมในเจดีย์มีการจัดวางอย่างงดงาม และมีความหมายทางธรรมอย่างลึกซึ้ง วัสดุที่ใช้สร้างเจดีย์มาจากหินลาวา สร้างขึ้นในพื้นที่ประมาณ 55,000 ตารางเมตร รูปทรงของฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างยาวด้านละ 123 เมตร มีบันไดทางขึ้นสู่เจดีย์ทุกด้าน เจดีย์มีทั้งหมด 10 ชั้น มีลักษณะรูปทรงแตกต่างกันคือ ชั้นที่ 1-6 เป็นรูปสี่เหลี่ยม ส่วนชั้นที่ 7-10 เป็นรูปทรงกลม
ฐานของเจดีย์ เป็นรูปบัวผลิบาน มีบันไดใหญ่ 4 ขั้น กำแพงรอบฐานเจดีย์ มีภาพสลัก 160 ภาพ เป็นภาพแสดงธรรมถึงการเกิดมาเป็นมนุษย์ที่ยังข้องอยู่ในกาม ผูกพันอยู่กับความสุข สนุกสนาน ความปรารถนาทางโลก อันไม่รู้จบสิ้น เรียกว่า ขั้นกามภูมิ
ส่วนบนของฐานเจดีย์ มีผนังทั้งด้านนอกและด้านใน มีรูปสลักเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติและชาดกต่างๆ จำนวน 1,460 ภาพ เรียกว่า ขั้นรูปภูมิ อันเป็นขั้นตอนที่มนุษย์หลุดพ้นจากกิเลสทางโลกมาได้บางส่วน
ส่วนของฐานกลม มีเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ จำนวน 72 องค์ แต่ละองค์บรรจุด้วยพระพุทธรูป ตั้งเรียงรายอยู่ 3 ระดับ โอบล้อมเจดีย์องค์ใหญ่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญสูงสุดของเจดีย์บุโรพุทโธ ความหมายในทางธรรม หมายถึง รูป 18 เจตสิก 52 จิต 1 และ นิพพาน 1
พุทธเจดีย์บุโรพุทโธ ดำรงความยิ่งใหญ่ ด้วยสามารถยึดเหนี่ยวจิตใจผู้คนชาวพุทธ จากกาลสมัยสู่สมัยมายาวนาน จนถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 18 เป็นยุคใกล้สิ้นสุดของอาณาจักรศรีวิชัย เนื่องด้วยชาวโปรตุเกสได้เริ่มเข้ามายึดครองหมู่เกาะต่างๆ และ อิทธิพลของศาสนาอิสลามได้เข้ามาแทนที่ เจดีย์บุโรพุทโธ ถูกลืมเลือนและถูกทิ้งร้างเป็นเวลานับ 100 ปี จนกระทั่งพุทธศตวรรษที่ 24 เซอร์โทมัส แสตนฟอร์ด ราฟเฟิล ซึ่งเป็นชาวดัทซ์ ผู้ที่ถูกส่งมาประจำการเป็นผู้สำเร็จราชการของอังกฤษปกครองอาณานิคมชวาในสมัยนั้น ได้ค้นพบ เจดีย์บุโรพุทโธ อีกครั้งในสภาพที่ปรักหักพัง ซึ่งได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งแรกในระหว่าง พ.ศ.2448-2453
ปี พ.ศ.2516 รัฐบาลอินโดนีเซียได้จัดทำโครงการปฏิสังขรณ์อย่างจริงจังอีกครั้ง โดยมีองค์การยูเนสโก สหประชาชาติ สนับสนุนทุนในการบูรณะ รวมทั้งเงินทุนอุดหนุนจากบางประเทศที่นับถือพุทธศาสนาและประเทศไทยก็เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการบูรณปฏิสังขรณ์เจดีย์บุโรพุทโธด้วย
บุโรพุทโธ เป็นพุทธสถานที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก นอกเหนือจากการได้รับยกย่องว่า เป็นพระมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ภายใต้ชื่อ กลุ่มวัดบรมพุทโธ เมื่อปี พ.ศ.2534 ด้วยข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ดังนี้
- เป็นตัวแทนในการแสดงผลงานชิ้นเอกที่จัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันชาญฉลาดของมนุษย์
- เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่งในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาทางด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ที่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกอันทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
- เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้าง อันเป็นตัวแทนของการพัฒนาทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
ขอบคุณที่มา:http://www.myfirstbrain.com/main_view.aspx?ID=88354
มหาเจดีย์ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ บุโรพุทโธ พุทธเจดีย์ หรือ โบโรบูดูร์ (borobodur) ตั้งอยู่ใจกลางเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ชาวชวา เรียกว่า บาราบูดูร์ (Barabudur) คำว่า Bara มาจากคำว่า Biara มีความหมายถึงวิหาร (Vihara)หรือวัด ส่วนคำว่า Budur มีความหมายว่า ภูเขาสูง เมื่อรวมกันแล้ว จึงหมายถึงวิหารที่สร้างขึ้นบนภูเขาสูง
บุโรพุทโธ เป็นพุทธสถานอันงามสง่าและเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก สร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 14 ในสมัยของกษัตริย์ราชวงศ์ไศเลนทร์ แห่งอาณาจักรศรีวิชัย ในสมัยนั้นหมู่เกาะต่างๆ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอินเดีย ซึ่งเป็นที่มาของอิทธิพลทางด้านความเชื่อทางศาสนา ทั้งฮินดูและพุทธ ขณะนั้นกษัตริย์ในราชวงศ์ไศเลนทร์ของศรีวิชัยเป็นชาวฮินดู แต่เกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ประกอบกับชาวศรีวิชัยส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ทำให้เกาะชวาเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรศรีวิชัย
พุทธเจดีย์บุโรพุทโธ สร้างขึ้นจากความรักความศรัทธาอย่างเปี่ยมล้นต่อพระพุทธศาสนาของประชาชนชาวศรีวิชัย ประติมากรรมในเจดีย์มีการจัดวางอย่างงดงาม และมีความหมายทางธรรมอย่างลึกซึ้ง วัสดุที่ใช้สร้างเจดีย์มาจากหินลาวา สร้างขึ้นในพื้นที่ประมาณ 55,000 ตารางเมตร รูปทรงของฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างยาวด้านละ 123 เมตร มีบันไดทางขึ้นสู่เจดีย์ทุกด้าน เจดีย์มีทั้งหมด 10 ชั้น มีลักษณะรูปทรงแตกต่างกันคือ ชั้นที่ 1-6 เป็นรูปสี่เหลี่ยม ส่วนชั้นที่ 7-10 เป็นรูปทรงกลม
ฐานของเจดีย์ เป็นรูปบัวผลิบาน มีบันไดใหญ่ 4 ขั้น กำแพงรอบฐานเจดีย์ มีภาพสลัก 160 ภาพ เป็นภาพแสดงธรรมถึงการเกิดมาเป็นมนุษย์ที่ยังข้องอยู่ในกาม ผูกพันอยู่กับความสุข สนุกสนาน ความปรารถนาทางโลก อันไม่รู้จบสิ้น เรียกว่า ขั้นกามภูมิ
ส่วนบนของฐานเจดีย์ มีผนังทั้งด้านนอกและด้านใน มีรูปสลักเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติและชาดกต่างๆ จำนวน 1,460 ภาพ เรียกว่า ขั้นรูปภูมิ อันเป็นขั้นตอนที่มนุษย์หลุดพ้นจากกิเลสทางโลกมาได้บางส่วน
ส่วนของฐานกลม มีเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ จำนวน 72 องค์ แต่ละองค์บรรจุด้วยพระพุทธรูป ตั้งเรียงรายอยู่ 3 ระดับ โอบล้อมเจดีย์องค์ใหญ่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญสูงสุดของเจดีย์บุโรพุทโธ ความหมายในทางธรรม หมายถึง รูป 18 เจตสิก 52 จิต 1 และ นิพพาน 1
พุทธเจดีย์บุโรพุทโธ ดำรงความยิ่งใหญ่ ด้วยสามารถยึดเหนี่ยวจิตใจผู้คนชาวพุทธ จากกาลสมัยสู่สมัยมายาวนาน จนถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 18 เป็นยุคใกล้สิ้นสุดของอาณาจักรศรีวิชัย เนื่องด้วยชาวโปรตุเกสได้เริ่มเข้ามายึดครองหมู่เกาะต่างๆ และ อิทธิพลของศาสนาอิสลามได้เข้ามาแทนที่ เจดีย์บุโรพุทโธ ถูกลืมเลือนและถูกทิ้งร้างเป็นเวลานับ 100 ปี จนกระทั่งพุทธศตวรรษที่ 24 เซอร์โทมัส แสตนฟอร์ด ราฟเฟิล ซึ่งเป็นชาวดัทซ์ ผู้ที่ถูกส่งมาประจำการเป็นผู้สำเร็จราชการของอังกฤษปกครองอาณานิคมชวาในสมัยนั้น ได้ค้นพบ เจดีย์บุโรพุทโธ อีกครั้งในสภาพที่ปรักหักพัง ซึ่งได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งแรกในระหว่าง พ.ศ.2448-2453
ปี พ.ศ.2516 รัฐบาลอินโดนีเซียได้จัดทำโครงการปฏิสังขรณ์อย่างจริงจังอีกครั้ง โดยมีองค์การยูเนสโก สหประชาชาติ สนับสนุนทุนในการบูรณะ รวมทั้งเงินทุนอุดหนุนจากบางประเทศที่นับถือพุทธศาสนาและประเทศไทยก็เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการบูรณปฏิสังขรณ์เจดีย์บุโรพุทโธด้วย
บุโรพุทโธ เป็นพุทธสถานที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก นอกเหนือจากการได้รับยกย่องว่า เป็นพระมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ภายใต้ชื่อ กลุ่มวัดบรมพุทโธ เมื่อปี พ.ศ.2534 ด้วยข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ดังนี้
- เป็นตัวแทนในการแสดงผลงานชิ้นเอกที่จัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันชาญฉลาดของมนุษย์
- เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่งในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาทางด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ที่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกอันทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
- เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้าง อันเป็นตัวแทนของการพัฒนาทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
ขอบคุณที่มา:http://www.myfirstbrain.com/main_view.aspx?ID=88354