อดีตอธิการบดีแนะปฏิวัติผู้บริหารมธ.

[brid.siriwan]

อดีตอธิการบดีแนะปฏิวัติผู้บริหารมธ.

3อดีตอธิการบดีฝากมุมมอง10ทศวรรษ มธ.ต้องฝ่าฟันและรักษาความเป็นความเป็นมหาวิทยาลัยที่เข้มแข็งทางวิชาการ แนะปฏิวัติแนวคิดของผู้บริหารมหาวิทยาลัย

วันนี้(27มิ.ย.) ที่ห้องประชุมสัญญา ธรรมศักดิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ จัดเสวนา หัวข้อ"สู่10 ทศวรรษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยอดีตอธิการบดี มธ. ซึ่ง ศ.นรนิติ เศรษฐบุตร กล่าวว่า การจะก้าวไปสู่ปีที่ 100 ของ มธ.นั้นจำเป็นต้องดูโครงสร้างด้านประชากรของประเทศที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มว่าคนจะรวยขึ้นและเลือกเรียนมากขึ้น ส่วนพฤติกรรมการเรียนของผู้เรียนจะเปลี่ยนไปเน้นให้ความสำคัญกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดังนั้นมธ.ต้องปรับกระบวนการบริหารจัดการ เพื่อรองรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วมาก เช่น นวัตกรรม ระบบการเรียนทางไกลแบบe-learning รวมถึงต้องทบทวนปรับหลักสูตรให้ทันสมัยตรงกับความประสงค์ของผู้เรียนมากขึ้น และเห็นว่าการเรียนในระดับปริญญาใช้เวลา4ปีอาจยาวไปควรปรับเวลากระชับเหลือแค่3ปี เพราะคนยุคนี้ต้องการความรวดเร็ว

รศ.ดร.นริศ ชัยสูตร กล่าวว่า ก้าวต่อไปของมธ.คือการปฏิวัติการศึกษาผ่านโลกดิจิตอล โดยนำเทคโลโลยีเข้ามาใช้ประโยชน์ทางการศึกษา เช่น การเรียนผ่านระบบออนไลน์ฟรีเหมือนกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ส่วนการเรียนการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยนั้นจะเน้นหลักสูตรเฉพาะสถาบันคงไม่ได้ต้องมีการแบ่งปันข้อมูลหรือหลักสูตรการสอนร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัย สำหรับบทบาทของอาจารย์ในชั้นเรียนนั้นต้องปรับเปลี่ยนไม่ใช่แค่สอนให้จดตามแต่ต้องกระตุ้นให้เด็กรู้จักคิด ทำหน้าที่ให้คำปรึกษา หากิจกรรมให้เด็กสนใจที่ไม่สามารถเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ได้ อย่างไรก็ตามต้องปฏิวัติความคิดของผู้บริหารมธ.ด้วย เพราะปัจจุบันนักศึกษาต้องการทักษะหลากหลายที่สอดคล้องกับความเจริญทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความสะดวกในการเดินทาง และเสรีภาพในมหาวิทยาลัย

ด้านศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ กล่าวว่า ในช่วง10 ที่ผ่านมามธ.สามารถฟันฝ่าการแข่งขันเชิงวิชาการ และรักษาระดับชั้นไว้ได้ท่ามกลางกระแสการแข่งขันที่สูงมาก รวมถึงมธ.ยังก้าวทันเทคโนโลยีอย่างเป็นรูปธรรมพิสูจน์ได้คือ มีระบบwi-fi ที่เสถียรสามารถใช้งานได้พร้อมกันกว่า1,000คนจนรองรับการสอบผ่านระบบออนไลน์ได้ อย่างไรก็ตามผู้บริหารมธ.ต้องคิดว่ามหาวิทยาลัยจำเป็นต้องเป็นมหาวิทยาลัยที่สมบูรณ์แบบครอบคลุมทุกสาขาวิชาทั้งเกษตรกรรม ศิลปกรรมและการศึกษาที่มธ.ยังไม่มีหรือไม่ หรือจะเน้นสร้างความเข้มแข็งในคณะที่มีอยู่ให้เข้มข้น และแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงทุนและทรัพยากรเป็นสำคัญ

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 27 มิถุนายน 2557