สิ่งทอแห่ลงทุนเพื่อนรับอานิสงส์จีเอสพี
Posted: 30 Jun 2014, 15:46
สิ่งทอแห่ลงทุนเพื่อนรับอานิสงส์จีเอสพี
แนะผู้ประกอบการไทย ไปลงทุนสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในกลุ่มประเทศอาเซียนหวังรับอานิสงส์จีเอสพี ส่งออกตลาดยุโรป
นายสุกิจ คงปิยาจารย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮงเส็งการทอ จำกัด ที่ปรึกษาสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยเปิดเผยว่าอยากแนะนำให้ภาคเอกชนในอุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มและเสื้อผ้าขยายการผลิตไปในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะจะมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีหลายด้านโดยในปัจจุบันบริษัทมีฐานการผลิตในประเทศเวียดนาม พม่า และจีน โดยเวียดนามได้สิทธิพิเศษทางภาษี เพราะเวียดนามมีการเปิดเสรีการค้า (เอฟทีเอ) กับสหรัฐและในปี 2561จะมีการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) กับสหรัฐด้วย
สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทในปีนี้ได้ขยายลงทุนในประเทศเวียดนาม ด้วยการลงทุนระยะ (เฟส) ที่ 2 ใช้ลงทุนประมาณ 7-10ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 8-9 เดือนข้างหน้าทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 18,600 ตัวต่อวันจากโรงงานแห่งแรกมีกำลังการผลิต 6,200 ตัวต่อวัน
นอกจากนี้ตั้งเป้าหมายภายในปี 59-60 จะเข้าไปลงทุนในประเทศพม่าคาดว่าจะใช้งบลงทุนสร้างโรงงานใหม่แต่ละแห่งประมาณ 7-10 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงการเพิ่มศักยภาพการผลิตในประเทศจีนส่วนในไทย บริษัทมีโรงงานผลิตในประเทศไทยจำนวน 2 โรงงานได้แก่ กทม.บริเวณซอยสุขสวัสดิ์ 30 มีกำลังการผลิต 40,000 ตัวต่อวัน และ อุบลราชธานีมีกำลังการผลิต 35,000 ตัวต่อวัน ดังนั้นคาดว่าในปี 63บริษัทจะมีกำลังการผลิตเสื้อผ้า 40 ล้านตัวต่อปี
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 25 มิถุนายน 2557
แนะผู้ประกอบการไทย ไปลงทุนสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในกลุ่มประเทศอาเซียนหวังรับอานิสงส์จีเอสพี ส่งออกตลาดยุโรป
นายสุกิจ คงปิยาจารย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮงเส็งการทอ จำกัด ที่ปรึกษาสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยเปิดเผยว่าอยากแนะนำให้ภาคเอกชนในอุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มและเสื้อผ้าขยายการผลิตไปในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะจะมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีหลายด้านโดยในปัจจุบันบริษัทมีฐานการผลิตในประเทศเวียดนาม พม่า และจีน โดยเวียดนามได้สิทธิพิเศษทางภาษี เพราะเวียดนามมีการเปิดเสรีการค้า (เอฟทีเอ) กับสหรัฐและในปี 2561จะมีการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) กับสหรัฐด้วย
สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทในปีนี้ได้ขยายลงทุนในประเทศเวียดนาม ด้วยการลงทุนระยะ (เฟส) ที่ 2 ใช้ลงทุนประมาณ 7-10ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 8-9 เดือนข้างหน้าทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 18,600 ตัวต่อวันจากโรงงานแห่งแรกมีกำลังการผลิต 6,200 ตัวต่อวัน
นอกจากนี้ตั้งเป้าหมายภายในปี 59-60 จะเข้าไปลงทุนในประเทศพม่าคาดว่าจะใช้งบลงทุนสร้างโรงงานใหม่แต่ละแห่งประมาณ 7-10 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงการเพิ่มศักยภาพการผลิตในประเทศจีนส่วนในไทย บริษัทมีโรงงานผลิตในประเทศไทยจำนวน 2 โรงงานได้แก่ กทม.บริเวณซอยสุขสวัสดิ์ 30 มีกำลังการผลิต 40,000 ตัวต่อวัน และ อุบลราชธานีมีกำลังการผลิต 35,000 ตัวต่อวัน ดังนั้นคาดว่าในปี 63บริษัทจะมีกำลังการผลิตเสื้อผ้า 40 ล้านตัวต่อปี
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 25 มิถุนายน 2557