รฟท.ลั่นดาลไม่คืนตลาดนัดให้ กทม.
Posted: 01 Jul 2014, 13:06
รฟท.ลั่นดาลไม่คืนตลาดนัดให้ กทม.
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงกรณีนายเฉลิมชัย เขียวประดิษฐ์ ผู้อำนวยการตลาดนัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ทำหนังสือถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอให้ กทม.กลับมาบริหารตลาดนัดจตุจักรว่า ในฐานะเจ้าของที่ดินยืนยันว่าไม่เห็นด้วย เพราะตั้งแต่ รฟท.เข้ามาบริหารตลาดนัดผู้ค้าส่วนใหญ่กว่า 80% ที่เป็นผู้ค้าขายจริงต่างพอใจกับผลงานของ รฟท. เพราะได้มีการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มจากผู้เช่า ส่วนผู้คัดค้านมีเพียงส่วนน้อย แค่กลุ่มที่มีคดีกับ รฟท. 618 ราย และกลุ่มที่มีหนี้ค้างชำระ รฟท.อยู่ “เรื่องนี้จะฟังเสียงคนส่วนน้อยที่ค้าน 618 ราย และไม่ดูแลคนส่วนใหญ่ที่เป็นผู้ค้าจริงไม่ได้ เมื่อคนส่วนใหญ่ไม่เอา กทม. หาก กทม.จะขอบริหารตลาดแห่งนี้ ผมว่าเปิดให้เอกชนรายใหม่เข้ามาประมูลดีกว่า”
นายประภัสร์กล่าวต่อว่า เงินรายได้ที่ รฟท.จัดเก็บค่าเช่าได้นั้น ได้นำมาปรับปรุงตลาดให้ดีขึ้นโดยมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด ปรับปรุงระบบกระจาย
เสียงในตลาด ปรับปรุงระบบไฟฟ้า ก่อสร้างห้องน้ำเพื่อบริการฟรีแก่นักท่องเที่ยวและผู้ค้าในตลาด ปรับเปลี่ยนหลังคาใหม่ และในปี 57 ยังตั้งงบประมาณไว้ 70 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงทางเดิน เปลี่ยนสายไฟเก่าทั้งหมดซึ่งเคยทำให้ตลาดนัดจตุจักรเกิดไฟไหม้มาแล้ว
สำหรับการเรียกเก็บค่าเช่า ยืนยันว่า รฟท.ไม่ได้เรียกเก็บแพงตามที่มีการกล่าวอ้าง เพราะได้กำหนดค่าเช่าแผง 3,157 บาท ค่าภาษีโรงเรือน 415 บาท รวมเป็น 3,562 บาท ส่วนที่อ้างว่าสมัย กทม.บริหารเก็บค่าเช่าแผงถูกกว่านั้น แต่เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้วสูงกว่าที่ รฟท.เรียกเก็บหลายเท่า โดยปัจจุบันมีแผงค้าในตลาดนัดจตุจักร 8,480 แผง โดยล่าสุดคณะกรรมการ รฟท.เพิ่งมีมติให้ผู้ค้ารายเดิมที่ไม่ค้างค่าเช่าได้สิทธิต่อสัญญาอีก 5 ปีจนถึง ก.พ.62 ในอัตราค่าเช่าเดิม ซึ่ง 80% ได้ต่อสัญญาแล้ว มีบางส่วน 1,189 แผงที่ยังไม่ต่อสัญญาเพราะติดคดีฟ้องร้องและหนี้ค้างอยู่กับ รฟท.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 1 กรกฎาคม 2557
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงกรณีนายเฉลิมชัย เขียวประดิษฐ์ ผู้อำนวยการตลาดนัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ทำหนังสือถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอให้ กทม.กลับมาบริหารตลาดนัดจตุจักรว่า ในฐานะเจ้าของที่ดินยืนยันว่าไม่เห็นด้วย เพราะตั้งแต่ รฟท.เข้ามาบริหารตลาดนัดผู้ค้าส่วนใหญ่กว่า 80% ที่เป็นผู้ค้าขายจริงต่างพอใจกับผลงานของ รฟท. เพราะได้มีการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มจากผู้เช่า ส่วนผู้คัดค้านมีเพียงส่วนน้อย แค่กลุ่มที่มีคดีกับ รฟท. 618 ราย และกลุ่มที่มีหนี้ค้างชำระ รฟท.อยู่ “เรื่องนี้จะฟังเสียงคนส่วนน้อยที่ค้าน 618 ราย และไม่ดูแลคนส่วนใหญ่ที่เป็นผู้ค้าจริงไม่ได้ เมื่อคนส่วนใหญ่ไม่เอา กทม. หาก กทม.จะขอบริหารตลาดแห่งนี้ ผมว่าเปิดให้เอกชนรายใหม่เข้ามาประมูลดีกว่า”
นายประภัสร์กล่าวต่อว่า เงินรายได้ที่ รฟท.จัดเก็บค่าเช่าได้นั้น ได้นำมาปรับปรุงตลาดให้ดีขึ้นโดยมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด ปรับปรุงระบบกระจาย
เสียงในตลาด ปรับปรุงระบบไฟฟ้า ก่อสร้างห้องน้ำเพื่อบริการฟรีแก่นักท่องเที่ยวและผู้ค้าในตลาด ปรับเปลี่ยนหลังคาใหม่ และในปี 57 ยังตั้งงบประมาณไว้ 70 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงทางเดิน เปลี่ยนสายไฟเก่าทั้งหมดซึ่งเคยทำให้ตลาดนัดจตุจักรเกิดไฟไหม้มาแล้ว
สำหรับการเรียกเก็บค่าเช่า ยืนยันว่า รฟท.ไม่ได้เรียกเก็บแพงตามที่มีการกล่าวอ้าง เพราะได้กำหนดค่าเช่าแผง 3,157 บาท ค่าภาษีโรงเรือน 415 บาท รวมเป็น 3,562 บาท ส่วนที่อ้างว่าสมัย กทม.บริหารเก็บค่าเช่าแผงถูกกว่านั้น แต่เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้วสูงกว่าที่ รฟท.เรียกเก็บหลายเท่า โดยปัจจุบันมีแผงค้าในตลาดนัดจตุจักร 8,480 แผง โดยล่าสุดคณะกรรมการ รฟท.เพิ่งมีมติให้ผู้ค้ารายเดิมที่ไม่ค้างค่าเช่าได้สิทธิต่อสัญญาอีก 5 ปีจนถึง ก.พ.62 ในอัตราค่าเช่าเดิม ซึ่ง 80% ได้ต่อสัญญาแล้ว มีบางส่วน 1,189 แผงที่ยังไม่ต่อสัญญาเพราะติดคดีฟ้องร้องและหนี้ค้างอยู่กับ รฟท.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 1 กรกฎาคม 2557