‘สมาร์ท คลาสรูม’ ตอบโจทย์เด็กไทย
Posted: 03 Jul 2014, 11:29
‘สมาร์ท คลาสรูม’ ตอบโจทย์เด็กไทย
สำหรับห้องเรียนสมาร์ท คลาสรูม จะประกอบไปด้วยการผสาน 4 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ ความพร้อมของบุคลากรครู เนื้อหาการเรียนการสอนแบบดิจิตอล ซอฟต์แวร์และบริการ และ ดีไวซ์ที่นำมาใช้ในห้องเรียน
ปิดฉากเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา ต่อ 1 นักเรียนของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามนโยบายประชานิยมของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีมติฟันธงไม่ขอเดินหน้าต่อโครงการ จัดซื้อแท็บเล็ตในโซน 4 และการจัดซื้อแท็บเล็ตในปี 2557 ในวงเงิน 5,800 ล้านบาท โดย คสช.ให้ความเห็นว่า การแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียนนั้นไม่คุ้มค่าและไม่เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน เพราะเด็กใช้เรียนแค่ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่ง คสช.อยากให้เปลี่ยนจากการแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียนทุกคนมาเป็นจัดห้องเรียน “สมาร์ท คลาสรูม” แทน เพราะจะทำให้เด็กได้หมุนเวียนใช้เรียนครบทุกคน
ซึ่งที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ถือเป็นอีกหนึ่งโรงเรียนนำร่องในการจัดห้องเรียน “สมาร์ท คลาสรูม” โดยมีบริษัทไมโครซอฟท์ ร่วมทดสอบห้องเรียนต้นแบบเพื่อเตรียมความพร้อมเด็กไทยรับศตวรรษที่ 21 ที่ผสานเทคโนโลยีแบบองค์รวม
สำหรับระบบห้องเรียนสมาร์ท คลาสรูม จะสามารถรักษาข้อมูลของทั้งครูและนักเรียนให้ปลอดภัยไม่รั่วไหลออกไปภายนอก อีกทั้งผู้เรียน ยังสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นและบริการคลาวด์ต่าง ๆ ของไมโครซอฟท์ พร้อมด้วยเนื้อหาและเครื่องมือเพื่อการศึกษาจากผู้พัฒนาคอนเทนต์และพันธมิตรชั้นนำ บนอุปกรณ์ แท็บเล็ตจากเอซุสเทค คอมพิวเตอร์ ได้อีกด้วย
ดร.สุนีย์ สอนตระกูล ผู้อำนวยการโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี อธิบายว่า เทคโนโลยีสามารถเปลี่ยนกิจกรรมต่าง ๆ ในห้องเรียนให้เชื่อมถึงกันผ่านโลกดิจิตอล เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ฝึกสมองและทำงานในรูปแบบใหม่ ๆ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความพร้อมสำหรับการทำงานต่อไปในอนาคตของเด็กไทย ดังนั้นการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนไม่ได้มีผลเพียงแค่ทำให้นักเรียนมีผลการเรียนดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการขับเคลื่อนการฝึกฝนทักษะสำคัญในโลกยุคศตวรรษที่ 21 ของนักเรียน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ต่อไป
สำหรับห้องเรียนสมาร์ท คลาสรูม จะประกอบไปด้วยการผสาน 4 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ ความพร้อมของบุคลากรครู เนื้อหาการเรียนการสอนแบบดิจิตอล ซอฟต์แวร์และบริการ และ ดีไวซ์ที่นำมาใช้ในห้องเรียน โดยทั้ง 4 องค์ประกอบมีพื้นฐานอยู่บนแนวคิดด้าน ทักษะสำคัญสำหรับศตวรรษที่ 21 ไม่ว่าจะเป็นความคิดสร้างสรรค์ การคิดวิเคราะห์ การสื่อสาร หรือความเข้าใจในเทคโนโลยี และสอดคล้องกับการเรียนการสอนในวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วย
ต้องยอมรับว่าการผสมผสานเทคโน โลยีให้เข้ากับการเรียนการสอนนั้น จะประสบความสำเร็จได้ต้องเกิดจากแนวคิดที่ครอบคลุมถึงทุกด้านของการเรียนรู้ โดยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การนำดีไซน์ใหม่ ๆ เข้ามาใช้งานในห้องเรียนเท่านั้น แต่ต้องเกิดการผสมผสานของโลกการเรียนรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างลงตัว.
อุทิตา รัตนภักดี
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 2 กรกฎาคม 2557
สำหรับห้องเรียนสมาร์ท คลาสรูม จะประกอบไปด้วยการผสาน 4 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ ความพร้อมของบุคลากรครู เนื้อหาการเรียนการสอนแบบดิจิตอล ซอฟต์แวร์และบริการ และ ดีไวซ์ที่นำมาใช้ในห้องเรียน
ปิดฉากเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา ต่อ 1 นักเรียนของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามนโยบายประชานิยมของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีมติฟันธงไม่ขอเดินหน้าต่อโครงการ จัดซื้อแท็บเล็ตในโซน 4 และการจัดซื้อแท็บเล็ตในปี 2557 ในวงเงิน 5,800 ล้านบาท โดย คสช.ให้ความเห็นว่า การแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียนนั้นไม่คุ้มค่าและไม่เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน เพราะเด็กใช้เรียนแค่ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่ง คสช.อยากให้เปลี่ยนจากการแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียนทุกคนมาเป็นจัดห้องเรียน “สมาร์ท คลาสรูม” แทน เพราะจะทำให้เด็กได้หมุนเวียนใช้เรียนครบทุกคน
ซึ่งที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ถือเป็นอีกหนึ่งโรงเรียนนำร่องในการจัดห้องเรียน “สมาร์ท คลาสรูม” โดยมีบริษัทไมโครซอฟท์ ร่วมทดสอบห้องเรียนต้นแบบเพื่อเตรียมความพร้อมเด็กไทยรับศตวรรษที่ 21 ที่ผสานเทคโนโลยีแบบองค์รวม
สำหรับระบบห้องเรียนสมาร์ท คลาสรูม จะสามารถรักษาข้อมูลของทั้งครูและนักเรียนให้ปลอดภัยไม่รั่วไหลออกไปภายนอก อีกทั้งผู้เรียน ยังสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นและบริการคลาวด์ต่าง ๆ ของไมโครซอฟท์ พร้อมด้วยเนื้อหาและเครื่องมือเพื่อการศึกษาจากผู้พัฒนาคอนเทนต์และพันธมิตรชั้นนำ บนอุปกรณ์ แท็บเล็ตจากเอซุสเทค คอมพิวเตอร์ ได้อีกด้วย
ดร.สุนีย์ สอนตระกูล ผู้อำนวยการโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี อธิบายว่า เทคโนโลยีสามารถเปลี่ยนกิจกรรมต่าง ๆ ในห้องเรียนให้เชื่อมถึงกันผ่านโลกดิจิตอล เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ฝึกสมองและทำงานในรูปแบบใหม่ ๆ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความพร้อมสำหรับการทำงานต่อไปในอนาคตของเด็กไทย ดังนั้นการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนไม่ได้มีผลเพียงแค่ทำให้นักเรียนมีผลการเรียนดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการขับเคลื่อนการฝึกฝนทักษะสำคัญในโลกยุคศตวรรษที่ 21 ของนักเรียน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ต่อไป
สำหรับห้องเรียนสมาร์ท คลาสรูม จะประกอบไปด้วยการผสาน 4 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ ความพร้อมของบุคลากรครู เนื้อหาการเรียนการสอนแบบดิจิตอล ซอฟต์แวร์และบริการ และ ดีไวซ์ที่นำมาใช้ในห้องเรียน โดยทั้ง 4 องค์ประกอบมีพื้นฐานอยู่บนแนวคิดด้าน ทักษะสำคัญสำหรับศตวรรษที่ 21 ไม่ว่าจะเป็นความคิดสร้างสรรค์ การคิดวิเคราะห์ การสื่อสาร หรือความเข้าใจในเทคโนโลยี และสอดคล้องกับการเรียนการสอนในวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วย
ต้องยอมรับว่าการผสมผสานเทคโน โลยีให้เข้ากับการเรียนการสอนนั้น จะประสบความสำเร็จได้ต้องเกิดจากแนวคิดที่ครอบคลุมถึงทุกด้านของการเรียนรู้ โดยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การนำดีไซน์ใหม่ ๆ เข้ามาใช้งานในห้องเรียนเท่านั้น แต่ต้องเกิดการผสมผสานของโลกการเรียนรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างลงตัว.
อุทิตา รัตนภักดี
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 2 กรกฎาคม 2557