Page 1 of 1

เกษตรฯลุยจับแหล่งผลิตปุ๋ยปลอม

Posted: 10 Jul 2014, 13:54
by brid.siriwan
เกษตรฯลุยจับแหล่งผลิตปุ๋ยปลอม

"อธิบดีกรมวิชาการเกษตร" สนองนโยบาย คสช.นำทีมสารวัตรเกษตร-ตำรวจ ลุยจับแหล่งผลิตสารเคมีปลอม จ.ราชบุรี พบของกลางเพียบ มูลค่ากว่า 20 ล้าน เตรียมลุยตรวจสอบต่อทุกสหกรณ์ ขู่ดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด

เมื่อวันที่ 10 ก.ค. นายดำรงค์ จิระสุทัศน์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร นำทีมสารวัตรเกษตร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพหัก พร้อมด้วยสื่อมวลชน เดินทางเข้าตรวจสอบอาคารร้างหลังป้อมตำรวจสถานีย่อย ต.ดอนคา อ.บางแพ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ผลิตสารเคมีทางการเกษตรปลอมแปลง ไม่ได้คุณภาพ

โดยนายดำรงค์ กล่าวภายหลังตรวจสอบว่า การตรวจพบครั้งนี้ถือเป็นรายใหญ่รายหนึ่ง เพราะมูลค่าสารตั้งต้นที่จับได้มีมูลค่ากว่า 5 แสนบาท สารเคมีทางการเกษตรปลอมสามารถผลิตสารกำจัดศัตรูพืชและสารเร่งผลผลิตปลอมได้จำนวนมาก รวมเป็นมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ซึ่งหากหลุดรอดส่งไปถึงมือเกษตรกรจะสร้างความเสียหายกว่าหลายร้อยล้านบาท และยังเสียโอกาสที่จะได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าโรงงานแห่งนี้ได้มีการจดทะเบียนใบอนุญาตประกอบกิจการในชื่อบริษัท กัปตันเคมี จำกัด โดยมีนางเกศริน ไตรรัตน์ประพันธ์ เป็นผู้ดำเนินกิจการ แต่ใบอนุญาตหมดอายุมานานแล้ว จากนั้นก็ลักลอบผลิตมาตลอด เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ และไม่มีการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย โดยจะมีการเก็บตัวอย่างตรวจหาวัตถุอันตรายอย่างละเอียดต่อไป และหากพบมีการลอบจำหน่ายจะส่งฟ้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

นายดำรงค์ กล่าวต่อว่า กรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินตรวจจับปุ๋ยและสารเคมีทางการเกษตรปลอมมาอย่างต่อเนื่อง ตามพื้นที่เป้าหมายในรัศมี 200 กม. จากกรุงเทพฯ เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตใหญ่ ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในเรื่องการลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร ซึ่งการกระทำครั้งนี้ถือว่าสร้างความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจอย่างมหาศาล โดยหลังจากนี้ ทีมสารวัตรเกษตรจะเข้าตรวจสอบทุกสหกรณ์และหน่วยงานของ ธกส.ที่จำหน่ายปัจจัยการผลิตให้กับเกษตรกร เพราะมีข้อมูลกลุ่มพ่อค้าที่จำหน่ายปัจจัยการผลิตผ่านช่องทางดังกล่าว ซึ่งหากตรวจพบจะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด ที่ผ่านมามีการจับและดำเนินคดีไปแล้วหลายราย โดยหลายคดียังค้างอยู่ที่ตำรวจและอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล จึงอยากขอให้เร่งรัดพิจารณาคดี

ด้านนายสุวัตร หวังช่วยกลาง คนเฝ้าอาคาร เปิดเผยว่า ตนเป็นเพียงคนเฝ้าอาคารแห่งนี้เท่านั้น มาทำงานแค่ 2 เดือนกว่า ได้เงินเดือน เพียงเดือนละ 7-8 พันบาท ส่วนเจ้าของทราบชื่อเพียงว่านายพิชัย ไม่ทราบนามสกุล เป็นสามีของนางเกศริน และขณะนี้ก็ไม่สามารถติดต่อกับนายพิชัยได้แล้ว ทั้งนี้ในการผลิตจะมีลูกจ้างเพียง 2-4 คน มาบรรจุลงขวดและจำหน่ายเป็นครั้ง ๆ ไป ซึ่งจะผลิตกันครั้งละประมาณ 10 กล่องหรือตามปริมาณที่สั่งเข้ามา.

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 10 กรกฎาคม 2557