Page 1 of 1

"ปนัดดา"คาดตรวจโกดังข้าวเสร็จ ส.ค.นี้

Posted: 10 Jul 2014, 13:56
by brid.siriwan
"ปนัดดา"คาดตรวจโกดังข้าวเสร็จ ส.ค.นี้

“ปนัดดา” เตรียมสรุปหลักฐานการลงพื้นที่ตรวจโกดัง-ไซโลข้าวต่อ "บิ๊กตู่" คาดแล้วเสร็จ ส.ค.นี้ แนะ ปชช.แจ้งเบาะแส ขรก.ทำตัวไม่เหมาะสม ย้ำต้องรับใช้ประชาชน ไม่ใช่เป็นเจ้าคนนายคน

เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดวันพฤหัสบดี 10 กรกฎาคม 2557 เวลา 11:09 น.
ดา ดิศกุล ปลัดสำนักงานรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังข้าวเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า ตนจะรวมรวมข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ จากการลงพื้นที่ รายงานให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.รับทราบ จากนั้นจะแถลงให้รับทราบต่อไป ยืนยันว่าทีมงานทั้ง 100 ชุดมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ เบื้องต้นพบว่ามีโรงสีหลายแห่งที่ยังมีข้อบกพร่องอยู่ จึงได้ขอให้ดำเนินการให้ถูกต้อง คาดว่าการสำรวจโกดัง และไซโลข้าว จะแล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค.นี้ ส่วนการวิเคราะห์เชิงกายภาพ รวมถึงตรวจดีเอ็นเอข้าวมีกรอบเวลาถึงช่วงเดือน ก.ย. โดยระหว่างการตรวจสอบโกดังข้าวทางกระทรวงพาณิชย์จะเป็นผู้พิจารณาในรายละเอียดว่าจะระบายข้าวส่วนใดได้บ้าง เพราะหากเก็บไว้นานคุณภาพของข้าวจะลดลง

เมื่อถามว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)สามารถนำข้อมูลในการลงพื้นที่ตรวจสอบไปใช้ดำเนินคดีกับรัฐบาลชุดที่แล้วได้หรือไม่ ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ป.ป.ช.และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ(ป.ป.ท.)มีหน้าที่ดำเนินการอยู่แล้ว ขณะที่ทีมงานของตนมีหน้าที่รับผิดชอบสำรวจคุณภาพข้าว ดังนั้นเรื่องการลงโทษ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับข้อกฎหมาย ไม่เกี่ยวกับทีมงานของตน อย่างไรก็ตามข่าวที่ตนไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวติดตามไปสังเกตการณ์ลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังข้าวนั้น ไม่เป็นความจริง สื่อสามารถลงไปทำข่าวได้ แต่อาจเป็นได้ที่ไม่ได้รับแจ้งจุดล่วงหน้า ส่วนทีมงานของตนก็จะไม่มีการปกปิดการลงพื้นที่ เพราะเป็นการเสนอข้อเท็จจริง

ส่วนความคืบหน้าการดำเนินงานปฏิรูประบบราชการนั้น ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า หลายส่วนราชการได้แจ้งข้อมูลกลับมาแล้วว่าแนวทางเรื่องใดที่ต้องการให้แก้ไขเป็นลำดับแรก เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ ทั้งนี้ตนย้ำกับทุกภาคส่วนว่างานที่ต้องให้บริการประชาชนเป็นประจำวันควรคัดเลือกบุคคลที่มีอัธยาศัยไมตรีดี มีความรู้ความสามารถ ไม่ใช่เอาคนที่น่าบูดบึ้งไปต้อนรับประชาชน และหากพบว่าเจ้าหน้าที่ราชการคนใดปฎิบัติตนไม่เหมาะ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยให้แจ้งข้อมูลกลับมาที่สำนักนายกรัฐมนตรีให้รับทราบเพื่อประสานกระทรวงต้นสังกัดรับทราบต่อไป ยอมรับว่าอาจเห็นผลไม่เร็วมาก แต่ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เพราะปัญหาสะสมมานานจึงต้องใช้เวลาในการแก้ไขเพื่อวางรากฐานระยะยาวให้ข้าราชการรุ่นใหม่ยึดถือป็นแบบอย่างต่อไปว่าข้าราชการมีบทบาทหน้าที่ในการรับใช้ประชาชน ไม่ใช่เข้ามาเป็นเจ้าคนนายคน.

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 10 กรกฎาคม 2557