คสช.' สั่ง 'กสทช.' ส่งเงินเข้าคลัง

[brid.siriwan]

คสช.' สั่ง 'กสทช.' ส่งเงินเข้าคลัง

คสช. ออกประกาศให้ กสทช. นำเงินรายได้จากประมูลทีวีดิจิตอลเข้ากระทรวงการคลัง ขณะที่ กสทช. ตั้งงบประมาณเบิก 7,000 ล้านบาท สำหรับใช้ในการแจกคูปอง 7 ล้านครัวเรือน...

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 80/2557 เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เกี่ยวกับการนำเงินประมูลในกิจการวิทยุโทรทัศน์และโทรคมนาคมเข้าเป็นรายได้แผ่นดิน จากเดิมที่นำส่งกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. ส่งผลให้ กสทช. ต้องนำส่งเงินที่ได้การประมูลทีวีดิจิตอลมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท ส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ 9 ก.ค.ซึ่งได้นำส่งงวดแรกแล้ว 11,000 ล้านบาท

ส่วนที่เหลือจะนำส่งหลังจากที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลนำมาจ่ายอีก 5 ปี แบ่งเป็น ปีที่สอง 8,000 กว่าล้านบาท ปีที่ 3 และปีที่ 4 ปีละ 8,000 กว่าล้านบาท และ ปีที่ 5 และปีที่ 6 อีกปีละ 7,000 กว่าล้านบาท ขณะที่ กสทช.เตรียมเสนอของบประมาณปี 2558 มูลค่า 7,000 ล้านบาท สำหรับการแจกคูปองในปีแรก 7 ล้านครัวเรือน ซึ่งเป็นการแจกตามพื้นที่โครงข่ายเข้าถึง

กระทรวงการคลัง สามารถยืมเงินจาก กทปส. ไปใช้ได้ตาม มาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ วรรคหก ที่ระบุว่า ส่งเสริมและสนับสนุนด้านงบประมาณให้กระทรวงการคลังสามารถยืมเงินกองทุน เพื่อนำไปใช้ในกิจการของรัฐอันเป็นประโยชน์สาธารณะ แต่จะต้องมีกรอบแผนการใช้เงินและจะต้องนำส่งคืนด้วย ล่าสุด คณะกรรมการ กทปส. มีเงินอยู่ 12,000 ล้านบาท

สำหรับรายได้ของคณะกรรมการ กทปส. มาจาก 4 ส่วนหลัก คือ
1.รายได้ที่โอนมาจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. เดิมประมาณ 3,000 ล้านบาท

2.เงินงบประมาณที่สำนักงานกสทช. จัดสรรให้ตามกฎหมายปีละไม่เกิน 50 ล้านบาท

3.เงินค่าปรับต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กสทช. กำหนด เช่น ค่าปรับจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 ราย กรณีที่ยังกำหนดวันอายุในบัตรเติมเงิน หรือ พรีเพด และ ค่าปรับที่เกิดจากโครงข่ายมีปัญหา รวม 396 ล้านบาท

4.ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ได้ใบอนุญาตเพื่อนำไปพัฒนาและกระจายบริการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะอย่างทั่วถึง หรือ ยูโซ่ แบ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตด้านโทรคมนาคมร้อยละ 3.75 ต่อปี ของรายได้ จนถึงปัจจุบันมีรายได้ส่วนนี้ 8,400 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ได้รับใบอนุญาตด้านกระจายเสียงและโทรทัศน์ ร้อยละ 2 ต่อปี ที่จะเริ่มมีรายได้ตั้งแต่เดือนมิ.ย.เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ประกาศ คสช. ยังมีคำสั่งให้ปรับเปลี่ยนคณะกรรมการ กทปส. โดยตัดผู้ทรงคุณวุฒิจาก 5 ราย เหลือ 2 ราย และเพิ่มผู้อำนวยการสำนักงบฯ ปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้ช่วยเลขานุการ แต่ยังคงประธานและเลขานุการไว้

ขณะที่ เวทีรับฟังความคิดเห็นเรื่องคูปองทีวีดิจิตอลภาคกลางที่กรุงเทพฯ วันนี้ ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับราคาคูปอง 1,000 บาท แต่ไม่ต้องการให้แลกกล่องดาวเทียม ส่วน 3 ภาค ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เห็นว่าราคาคูปองที่ 1,000 บาท เป็นราคาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ประชาชนแบกรับภาระมากเกินไป รวมถึงเห็นด้วยที่คูปองจะแลกได้ทั้ง เซตท็อปบ็อกซ์ ทีวี เสาอากาศ กล่องดาวเทียม เคเบิล โดยเห็นว่าประชาชนจะเป็นผู้เลือกเองว่าจะนำคูปองไปแลกซื้ออะไร และประเด็นกระบวนการแจกคูปอง ที่อยากให้แจกโดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม กสทช. จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. ในวันที่ 23 ก.ค. ก่อนเสนอต่อ คสช. พิจารณา และคาดว่าจะแจกคูปองได้ในเดือนก.ย.นี้.

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 10 ก.ค. 2557