Page 1 of 1

โอบายาชิ รับอานิสงส์ตั้งบอร์ด บีโอไอ รับเหมาก่อสร้างในนิคมอุ

Posted: 11 Jul 2014, 09:45
by brid.siriwan
โอบายาชิ รับอานิสงส์ตั้งบอร์ด บีโอไอ รับเหมาก่อสร้างในนิคมอุตสาหกรรมคึก


คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
โอบายาชิ รับอานิสงส์ตั้งบอร์ด บีโอไอ รับเหมาก่อสร้างในนิคมอุตสาหกรรมคึก
ไทยโอบายาชิ เผยอานิสงส์ตั้งบอร์ดบีโอไอ หนุนงานก่อสร้างในนิคมอุตสาหกรรมคึกคัก ระบุตลาดรับเหมาก่อสร้างโรงงานคึกคัก ระบุลุยประมูลงานใหม่ทั้งก่อสร้างโรงงาน อาคารสำนักงาน หวังรายได้ปีนี้ตามเป้า 1.1 หมื่นล้านบาท

นายสมพงษ์ จินตวงศ์วานิช กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท นันทวัน จำกัด (ไทยโอบายาชิ) เปิดเผยว่า จากที่ได้มีการตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ชุดใหม่ ทำให้โครงการลงทุนที่รอการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากบอร์ดบีโอไอจำนวนมาก ได้รับการอนุมัติเดินหน้าการลงทุน

“การจัดตั้งบอร์ดบีโอไอ ยังช่วยสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนให้กล้าตัดโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 กรกฎาคม 2557 15:28 น.
สินใจลงทุน หลังจากชะลอการตัดสินใจในช่วงก่อนหน้านี้ ส่งผลให้งานก่อสร้างภายในนิคมอุตสาหกรรมกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากในช่วงครึ่งปีแรก งานก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมมีการชะลอตัวลง”

ปัจจุบัน ตลาดรับเหมาก่อสร้างถือว่ายังมีการแข่งขันสูง แม้ว่าที่ผ่านมาผู้ประกอบการ จะมีการชะลอการลงทุน และเปิดตัวโครงการใหม่ แต่ก็ไม่สามารถปรับราคาเพิ่มขึ้นได้ ปัจจุบันต้นทุนค่าก่อสร้างสำนักงานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 33,000-40,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนคอนโดมิเนียม ต้นทุนค่าก่อสร้างเฉลี่ยประมาณ 15,000 บาท/ตร.ม.

นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายประมูลงานใหม่คิดเป็นมูลค่า 10,000-11,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนงานก่อสร้างโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม 50% และอีก 50% เป็นงานก่อสร้างอาคารเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะอาคารสำนักงาน

ปัจจุบัน บริษัทได้งานใหม่เข้ามาแล้ว มูลค่า 4,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการ “เอฟวายไอ เซ็นเตอร์” บริเวณสี่แยกพระราม 4 (ไผ่สิงโต) ของกลุ่มโกลเด้นแลนด์ ซึ่งได้งานในส่วนของอาคารสำนักงาน 2 อาคาร มูลค่า 2,000 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม บริเวณหลังสวน ของกลุ่มสยามสินธร มูลค่า 2,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังมีงานอยู่ระหว่างการประมูลอีก 2-3 โครงการ มูลค่า 2,000-3,000 ล้านบาท โดยหนึ่งในโครงการดังกล่าว เป็นโครงการการประมูลสร้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ และงานก่อสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในกัมพูชา ซึ่งเป็นของบริษัทญี่ปุ่นในไทย ที่มีการขยายการลงทุนไปในกัมพูชา ปัจจุบันบริษัทมีงานสะสมในมือที่รอรับรู้รายได้ (แบ็กล็อค) ประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้ในปี 2558-2559 ในส่วนของรายได้นั้น ปีนี้บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 10,000-11,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 10 กรกฎาคม 2557