บลจ.เมอร์ชั่นรุกธุรกิจไพรเวตฟันด์ วางโพซิชันเป็นบูทีกเจาะนิช
Posted: 14 Jul 2014, 16:41
บลจ.เมอร์ชั่นรุกธุรกิจไพรเวตฟันด์ วางโพซิชันเป็นบูทีกเจาะนิชมาร์เกต
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
บลจ.เมอร์ชั่นรุกธุรกิจไพรเวตฟันด์ วางโพซิชันเป็นบูทีกเจาะนิชมาร์เกต
บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ เผยแผนหลังเข้าเทกโอเวอร์ บลจ.ทองคำ เร่งลงทุนบุคลากรและระบบลุยธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล วางโพซิชันของบริษัทเป็น บลจ.บูทีกเจาะกลุ่มลูกค้านิชมาร์เกต
นายถนอมพงษ์ ปฐมศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่เราได้เทกโอเวอร์บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทองคำ แอสเซท ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เราได้ขออนุมัติผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดทีซี ทองคำแท่ง (TC-GB) และกองทุนเปิดทีซี เอฟไอเอฟ โกลด์ (TC-GDFX) เพื่อปิดกองทุนในต้นปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน บลจ.กำลังอยู่ในช่วงดำเนินธุรกิจและจัดระบบกันอยู่ โดยเฉพาะกองทุนส่วนบุคคล ซึ่้งเราจะเน้นทั้งกลุ่มลูกค้าบุคคล และกลุ่มลูกค้าสถาบัน ทั้งนี้เรามีลูกค้าในกลุ่มดังกล่าวอยู่แล้ว ขณะเดียวกันในปีนี้อาจจะไม่ยังเห็นการดำเนินธุรกิจในส่วนของกองทุนรวม เนื่องจากเราอยากจะโฟกัสไปยังกลุ่มกองทุนส่วนบุคคลก่อน
“เนื่องจากทีมงานเราค่อนข้างเล็ก การรับลูกค้าในส่วนของกองทุนส่วนบุคคลนั้นเราอาจจะรับรายเล็กมากไม่ได้ โดยการบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลนั้นเราจะเน้นให้ความใกล้ชิดกับลูกค้า โดยการลงทุนนั้นจะมีทั้งการลงทุนในประเทศและต่างประเทศเพื่อเสริมศักยภาพการลงทุนให้ผลตอบแทนทีดีที่สุด สำหรับฐานลูกค้าของ บลจ. เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ นั้นจะมีทั้งสถาบันและรายย่อย ส่วนลูกค้าเดิมของ บลจ.ทองคำนั้นก็ยังมีอยู่ในฐานข้อมูลอยู่”นายถนอมพงษ์กล่าว
นายถนอมพงษ์ กล่าวต่อว่า บลจ.เรามีพาร์ทเนอร์กับหลาย บลจ.และหลายธนาคาร รวมถึงธนาคารในต่างประเทศ ซึ่งการลงทุนหรือธุรกิจใดที่เราไม่ถนัดเราก็จะไม่ทำตรงนั้น เราก็ใช้ในส่วนของพาร์ทเนอร์เป็นหลัก เช่น หากบริษัทนั้นมีโปรดักต์ที่ดีและให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจเราก็จะเป็นตัวกลางจัดสรรการลงทุนให้ลูกค้า เป็นต้น ในอนาคตเรามองว่า Wealth Management หรือการบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคล และ Asset Management หรือการบริหารสินทรัพย์ จะมีการเติบโตในอนาคต การที่บริษัทเข้ามาลงทุนในส่วนของ บลจ.นั้นเราเชื่อว่าจะเพิ่มมูลค่าให้ลูกค้าของ บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้ตั้งเป้าการเติบโตว่าตอนนี้จะต้องมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) เท่าไร ขณะเดียวกันการที่เราเป็น บลจ.ขนาดเล็กนั้นทำให้การวางโพซิชันในการทำธุรกิจได้ง่าย ต้นทุนการทำธุรกิจ การดำเนินธุรกิจก็จะชัดเจน ในส่วนของ บลจ. เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ นั้นเราวางโพซิชันของบริษัทเป็นบูทีกและเน้นเจาะตลาดแบบนิช มาร์เกตมากกว่า
“แม้ว่า บลจ.ทองคำ หรือเดิมก่อนที่ บลจ.ทองคำมาเทกโอเวอร์นั้นคือ บลจ.พรีมาเวสท์ จะขาดทุนสะสมมาก่อนหน้านี้ แต่เราและทีมผู้บริหารก็ไม่ได้กังวลในส่วนนี้มาก แต่เรามีเป้าหมายที่จะสร้างกำไรให้กับบริษัทให้ได้เร็วที่สุด”นายถนอมพงษ์กล่าว
นายถนอมพงษ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของภาพรวมตลาดหุ้นไทยนั้น เรายังมองว่าหุ้นไทยยังมีโอกาสเติบโตต่อไปได้ ทั้งนี้เมื่อเทียบกับกลุ่ม TIP นั้นจะเห็นว่าดัชนีหุ้นไทยนั้นปรับตัวขึ้นไปน้อยกว่าประเทศอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ในส่วนของเม็ดเงินลงทุนต่างชาติก็น่าจะกลับเข้ามา ซึ่งหากมีการจัดตั้งรัฐบาลก็คาดว่าภาพรวมตลาดหุ้นไทยก็น่าจะปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม พรีมาเวสท์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2540 ด้วยทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 250,000,000 บาท ในปลายปี พ.ศ. 2553 ได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น เป็นกลุ่มผู้ค้าปลีกทองคำ พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทองคำ แอสเซท จำกัด เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2554 พร้อมทั้งเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทเป็น 350,000,000 บาท และในวันที่ 1 มกราคม 2557 ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บลจ.ได้แก่บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน)
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 13 กรกฎาคม 2557
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
บลจ.เมอร์ชั่นรุกธุรกิจไพรเวตฟันด์ วางโพซิชันเป็นบูทีกเจาะนิชมาร์เกต
บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ เผยแผนหลังเข้าเทกโอเวอร์ บลจ.ทองคำ เร่งลงทุนบุคลากรและระบบลุยธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล วางโพซิชันของบริษัทเป็น บลจ.บูทีกเจาะกลุ่มลูกค้านิชมาร์เกต
นายถนอมพงษ์ ปฐมศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่เราได้เทกโอเวอร์บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทองคำ แอสเซท ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เราได้ขออนุมัติผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดทีซี ทองคำแท่ง (TC-GB) และกองทุนเปิดทีซี เอฟไอเอฟ โกลด์ (TC-GDFX) เพื่อปิดกองทุนในต้นปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน บลจ.กำลังอยู่ในช่วงดำเนินธุรกิจและจัดระบบกันอยู่ โดยเฉพาะกองทุนส่วนบุคคล ซึ่้งเราจะเน้นทั้งกลุ่มลูกค้าบุคคล และกลุ่มลูกค้าสถาบัน ทั้งนี้เรามีลูกค้าในกลุ่มดังกล่าวอยู่แล้ว ขณะเดียวกันในปีนี้อาจจะไม่ยังเห็นการดำเนินธุรกิจในส่วนของกองทุนรวม เนื่องจากเราอยากจะโฟกัสไปยังกลุ่มกองทุนส่วนบุคคลก่อน
“เนื่องจากทีมงานเราค่อนข้างเล็ก การรับลูกค้าในส่วนของกองทุนส่วนบุคคลนั้นเราอาจจะรับรายเล็กมากไม่ได้ โดยการบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลนั้นเราจะเน้นให้ความใกล้ชิดกับลูกค้า โดยการลงทุนนั้นจะมีทั้งการลงทุนในประเทศและต่างประเทศเพื่อเสริมศักยภาพการลงทุนให้ผลตอบแทนทีดีที่สุด สำหรับฐานลูกค้าของ บลจ. เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ นั้นจะมีทั้งสถาบันและรายย่อย ส่วนลูกค้าเดิมของ บลจ.ทองคำนั้นก็ยังมีอยู่ในฐานข้อมูลอยู่”นายถนอมพงษ์กล่าว
นายถนอมพงษ์ กล่าวต่อว่า บลจ.เรามีพาร์ทเนอร์กับหลาย บลจ.และหลายธนาคาร รวมถึงธนาคารในต่างประเทศ ซึ่งการลงทุนหรือธุรกิจใดที่เราไม่ถนัดเราก็จะไม่ทำตรงนั้น เราก็ใช้ในส่วนของพาร์ทเนอร์เป็นหลัก เช่น หากบริษัทนั้นมีโปรดักต์ที่ดีและให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจเราก็จะเป็นตัวกลางจัดสรรการลงทุนให้ลูกค้า เป็นต้น ในอนาคตเรามองว่า Wealth Management หรือการบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคล และ Asset Management หรือการบริหารสินทรัพย์ จะมีการเติบโตในอนาคต การที่บริษัทเข้ามาลงทุนในส่วนของ บลจ.นั้นเราเชื่อว่าจะเพิ่มมูลค่าให้ลูกค้าของ บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้ตั้งเป้าการเติบโตว่าตอนนี้จะต้องมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) เท่าไร ขณะเดียวกันการที่เราเป็น บลจ.ขนาดเล็กนั้นทำให้การวางโพซิชันในการทำธุรกิจได้ง่าย ต้นทุนการทำธุรกิจ การดำเนินธุรกิจก็จะชัดเจน ในส่วนของ บลจ. เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ นั้นเราวางโพซิชันของบริษัทเป็นบูทีกและเน้นเจาะตลาดแบบนิช มาร์เกตมากกว่า
“แม้ว่า บลจ.ทองคำ หรือเดิมก่อนที่ บลจ.ทองคำมาเทกโอเวอร์นั้นคือ บลจ.พรีมาเวสท์ จะขาดทุนสะสมมาก่อนหน้านี้ แต่เราและทีมผู้บริหารก็ไม่ได้กังวลในส่วนนี้มาก แต่เรามีเป้าหมายที่จะสร้างกำไรให้กับบริษัทให้ได้เร็วที่สุด”นายถนอมพงษ์กล่าว
นายถนอมพงษ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของภาพรวมตลาดหุ้นไทยนั้น เรายังมองว่าหุ้นไทยยังมีโอกาสเติบโตต่อไปได้ ทั้งนี้เมื่อเทียบกับกลุ่ม TIP นั้นจะเห็นว่าดัชนีหุ้นไทยนั้นปรับตัวขึ้นไปน้อยกว่าประเทศอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ในส่วนของเม็ดเงินลงทุนต่างชาติก็น่าจะกลับเข้ามา ซึ่งหากมีการจัดตั้งรัฐบาลก็คาดว่าภาพรวมตลาดหุ้นไทยก็น่าจะปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม พรีมาเวสท์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2540 ด้วยทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 250,000,000 บาท ในปลายปี พ.ศ. 2553 ได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น เป็นกลุ่มผู้ค้าปลีกทองคำ พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทองคำ แอสเซท จำกัด เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2554 พร้อมทั้งเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทเป็น 350,000,000 บาท และในวันที่ 1 มกราคม 2557 ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บลจ.ได้แก่บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน)
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 13 กรกฎาคม 2557