ร้องกองปราบจับอดีต ผจก.แบงก์ฉ้อโกง
Posted: 18 Jul 2014, 16:26
ร้องกองปราบจับอดีต ผจก.แบงก์ฉ้อโกง
กลุ่มผู้เสียหายแจ้งจับอดีต ผจก.แบงก์ออมสิน ฉ้อโกง หลังจากตุ๋นให้ร่วมลงทุนโครงการสินเชื่อ มูลค่าเสียหายกว่า 200 ล้าน
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นางกันต์กนิษฐ์ ศรีวิเศษ เจ้าหน้าที่พยาบาล ชาว จ.ยโสธร พร้อมด้วยผู้เสียหายรวม 20 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนางเอื้องแก้ว สำเภา อายุ 41 ปี อดีตผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาคำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ในความผิดฐานฉ้อโกง โดยทำหนังสือร้องทุกข์ พร้อมกับเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินกับธนาคารสาขาดังกล่าว มามอบไว้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดี
นางกันต์กนิษฐ์ กล่าวว่า เมื่อช่วงปลายปี 2555 ได้รับการชี้ชวนจากนางเอื้องแก้ว ให้ร่วมลงทุนกับทางธนาคารเกี่ยวกับโครงการสินเชื่อ โดยจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวนร้อยละ10ของเงินที่ลงทุน เมื่อมีความสนใจจึงร่วมโครงการนี้ และได้ร่วมลงทุนเป็นเงิน 1 ล้านบาท ซึ่งต่อมาก็ได้ผลตอบแทนจริงตามข้อตกลง จากนั้นนางเอื้องแก้ว ได้ชักชวนให้ตนบอกกล่าวกับญาติพี่น้อง และเพื่อนให้มาร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว เพราะจะได้รับผลตอบแทนเหมือนกับตน
นางกันต์กนิษฐ์ กล่าวอีกว่า ภายหลังเมื่อตนได้ชักชวนญาติพี่น้อง และคนที่รู้จักมาลงทุนรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 28.5 ล้านบาท แต่กลับไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ เวลา 14:37 น.
อีก เมื่อได้ทวงถามจากนางเอื้องแก้ว ก็ได้รับคำตอบว่าจะเร่งหาเงินคืนให้ และมีการขอผลัดผ่อนเรื่อยมาโดยมีข้ออ้างต่างๆ ทำให้พวกตนรู้สึกร้อนใจเกรงว่าจะไม่ได้รับเงินคืน นอกจากนี้ยังทราบว่ามีผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนมากที่ถูกหลอกลวง รวมมูลค่าเสียหายกว่า 200 ล้านบาท จึงรวบรวมผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีในวันเดียวกันนี้ อย่างไรก็ดี ผู้เสียหายบางส่วนได้เข้าแจ้งความกับตำรวจในท้องที่เกิดเหตุแล้ว
นางกันต์กนิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า เท่าที่ตนทราบมา นางเอื้องแก้ว ยังหลอกลวงแม้แต่พนักงานธนาคารซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงาน จนหลงเชื่อเช่นเดียวกัน กระทั่งทางสำนักงานใหญ่ธนาคารดังกล่าวทราบเรื่อง จึงมีคำสั่งย้ายนางเอื้องแก้ว ไปประจำที่สาขาใน จ.ศรีสะเกษ รวมทั้งใหมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น ก่อนจะพิจารณาให้พักงานและไล่ออกในเวลาต่อมา
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้ โดยมอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ได้สอบปากคำผู้ร้องและตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป..
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 18 กรกฎาคม 2557
กลุ่มผู้เสียหายแจ้งจับอดีต ผจก.แบงก์ออมสิน ฉ้อโกง หลังจากตุ๋นให้ร่วมลงทุนโครงการสินเชื่อ มูลค่าเสียหายกว่า 200 ล้าน
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นางกันต์กนิษฐ์ ศรีวิเศษ เจ้าหน้าที่พยาบาล ชาว จ.ยโสธร พร้อมด้วยผู้เสียหายรวม 20 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนางเอื้องแก้ว สำเภา อายุ 41 ปี อดีตผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาคำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ในความผิดฐานฉ้อโกง โดยทำหนังสือร้องทุกข์ พร้อมกับเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินกับธนาคารสาขาดังกล่าว มามอบไว้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดี
นางกันต์กนิษฐ์ กล่าวว่า เมื่อช่วงปลายปี 2555 ได้รับการชี้ชวนจากนางเอื้องแก้ว ให้ร่วมลงทุนกับทางธนาคารเกี่ยวกับโครงการสินเชื่อ โดยจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวนร้อยละ10ของเงินที่ลงทุน เมื่อมีความสนใจจึงร่วมโครงการนี้ และได้ร่วมลงทุนเป็นเงิน 1 ล้านบาท ซึ่งต่อมาก็ได้ผลตอบแทนจริงตามข้อตกลง จากนั้นนางเอื้องแก้ว ได้ชักชวนให้ตนบอกกล่าวกับญาติพี่น้อง และเพื่อนให้มาร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว เพราะจะได้รับผลตอบแทนเหมือนกับตน
นางกันต์กนิษฐ์ กล่าวอีกว่า ภายหลังเมื่อตนได้ชักชวนญาติพี่น้อง และคนที่รู้จักมาลงทุนรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 28.5 ล้านบาท แต่กลับไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ เวลา 14:37 น.
อีก เมื่อได้ทวงถามจากนางเอื้องแก้ว ก็ได้รับคำตอบว่าจะเร่งหาเงินคืนให้ และมีการขอผลัดผ่อนเรื่อยมาโดยมีข้ออ้างต่างๆ ทำให้พวกตนรู้สึกร้อนใจเกรงว่าจะไม่ได้รับเงินคืน นอกจากนี้ยังทราบว่ามีผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนมากที่ถูกหลอกลวง รวมมูลค่าเสียหายกว่า 200 ล้านบาท จึงรวบรวมผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีในวันเดียวกันนี้ อย่างไรก็ดี ผู้เสียหายบางส่วนได้เข้าแจ้งความกับตำรวจในท้องที่เกิดเหตุแล้ว
นางกันต์กนิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า เท่าที่ตนทราบมา นางเอื้องแก้ว ยังหลอกลวงแม้แต่พนักงานธนาคารซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงาน จนหลงเชื่อเช่นเดียวกัน กระทั่งทางสำนักงานใหญ่ธนาคารดังกล่าวทราบเรื่อง จึงมีคำสั่งย้ายนางเอื้องแก้ว ไปประจำที่สาขาใน จ.ศรีสะเกษ รวมทั้งใหมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น ก่อนจะพิจารณาให้พักงานและไล่ออกในเวลาต่อมา
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้ โดยมอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ได้สอบปากคำผู้ร้องและตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป..
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 18 กรกฎาคม 2557