ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติชี้ ศก.ไทยเริ่มฟื้นตัวคาดปกติปี 58
Posted: 19 Jul 2014, 07:43
ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติชี้ ศก.ไทยเริ่มฟื้นตัวคาดปกติปี 58
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จัดการสัมมนาวิชาการเรื่อง “มองอนาคตและเศรษฐกิจการเงินไทย” โดยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยระบุเศรษฐกิจไทยเริ่มกลับมาฟื้นตัว หลังเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเดือนพฤษภาคม 57 ทำให้นโยบายรัฐชัดเจนและเกิดความเชื่อมั่น คาดปี 2558 กลับสู่ภาวะปกติ
วันนี้ (18 ก.ค.57) ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ จัดการสัมมนาวิชาการเรื่อง “มองอนาคตและเศรษฐกิจการเงินไทย” โดยนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ทิศทางเศรษฐกิจการเงินไทย” ระบุว่า ในช่วงปี 2556 ที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งเริ่มส่งสัญญาณให้เห็นตั้งแต่ช่วงกลางปี จากการใช้จ่ายภายในประเทศที่ทยอยแผ่วลงหลังจากเร่งตัวขึ้นไปมากจากผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ประกอบกับภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงเป็นตัวจำกัดความสามารถในการใช้จ่าย ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองที่รุนแรงขึ้นในช่วงปลายปีและยืดเยื้อต่อเนื่องถึง 5 เดือนแรกของปีนี้ยิ่งทำให้เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว โดยมีเพียงภาคการท่องเที่ยวอย่างเดียวที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในช่วงเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นสิ่งช่วยลดความไม่แน่นอนทางการเมืองลง ขณะที่นโยบายภาครัฐก็มีความชัดเจนขึ้น หลายฝ่ายจึงเกิดความคาดหวังเชิงบวก ต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า ซึ่งความหวังแรก คือ ภาคการคลังที่จะกลับมาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย จากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปีปัจจุบัน และเร่งคืนเงินจํานําข้าวแก่ชาวนา ตลอดจนมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อจะช่วยเพิ่มเม็ดเงินให้กับระบบเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกันก็มีการเร่งรัดจัดทําแผนงบประมาณประจําปี 2558 และสร้างความชัดเจนที่จะเดินหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่จําเป็น ซึ่งจะเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า ความคาดหวังต่อมา คือ สถานการณ์ทางการเมืองที่คลี่คลายจะช่วยเสริมสร้าง บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย รวมทั้งจะช่วยให้การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว และสิ่งสุดท้าย คือ ภาคเอกชนจะกลับมาลงทุนในโครงการที่เลื่อนออกไปเพื่อตอบสนองความต้องการบริโภคที่ เพิ่มขึ้น รวมทั้งจะมีการลงทุนใหม่ๆ เพื่อเตรียมรองรับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของ ภาครัฐที่มีแผนชัดเจน
ทั้งนี้ จากข้อมูลเครื่องชี้เศรษฐกิจล่าสุดก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวของ เศรษฐกิจไทย ทั้งด้านการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น แต่โดยรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ก็ยังมีแนวโน้มหดตัว แต่คาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีจะกลับมาฟื้นตัวได้ และน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในปีหน้า โดยประมาณการว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 1.5 และประมาณร้อยละ 5.5 ในปี 2558
ด้านนายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เอ็มเอฟซี จำกัด(มหาชน) และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย มีความเห็นตรงกันในการเสวนาเรื่อง “มองอนาคตและเศรษฐกิจการเงินไทย” ว่า ภาวะการเงินและเศรษฐกิจโลกขณะนี้เริ่มดีขึ้นและอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจ เริ่มมีสัญญาณที่ดี
เช่น ความเสี่ยงเรื่องปัญหาฟองสบู่แตกในประเทศจีนลดลง เป็นสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจโลกที่กำลังจะดีขึ้น ขณะที่ประเทศไทยนั้นดัชนีตัวเลขเครื่องของการส่งออกและการท่องเที่ยวยังเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจดี ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจเริ่มพื้นตัวได้เร็ว นโยบายของภาครัฐและเสถียรภาพทางด้านการเมืองที่ขึ้นเป็นปัจจัยเสริม
อย่างไรก็ตาม นี้ยังมีปัจจัยเรื่องของหนี้ภาคครัวเรือนที่ขยับตัวสูงเป็นปัจจัยท้าทาย การลงทุนของภาครัฐเป็นไปด้วยความระมัดระวังเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชน ทำให้การลงทุนทำได้ช้าและมีผลกระทบจากนโยบายประชานิยมก่อนหน้านี้ เช่น รถคันแรกยังมีผลสืบเนื่องอยู่
แต่ทั้งนี้ภาวะลงทุนในตลาดหุ้นกลุ่มทุนต่างชาติเริ่มกลับมาในประเทศอีกครั้ง และด้วยปัจจัยต่างๆ ที่ได้ขับเคลื่อนในขณะนี้จะทำให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย(GDP) ขยายตัวแข็งแกร่งชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2558 ซึ่งอาจขยับตัวสูงเกินร้อยละ 4.5 แต่ปี 2557 นี้ อัตราการเจริญเติบโตน่าจะอยู่ในระดับร้อยละ 1.5
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 18 กรกฎาคม 2557
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จัดการสัมมนาวิชาการเรื่อง “มองอนาคตและเศรษฐกิจการเงินไทย” โดยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยระบุเศรษฐกิจไทยเริ่มกลับมาฟื้นตัว หลังเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเดือนพฤษภาคม 57 ทำให้นโยบายรัฐชัดเจนและเกิดความเชื่อมั่น คาดปี 2558 กลับสู่ภาวะปกติ
วันนี้ (18 ก.ค.57) ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ จัดการสัมมนาวิชาการเรื่อง “มองอนาคตและเศรษฐกิจการเงินไทย” โดยนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ทิศทางเศรษฐกิจการเงินไทย” ระบุว่า ในช่วงปี 2556 ที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งเริ่มส่งสัญญาณให้เห็นตั้งแต่ช่วงกลางปี จากการใช้จ่ายภายในประเทศที่ทยอยแผ่วลงหลังจากเร่งตัวขึ้นไปมากจากผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ประกอบกับภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงเป็นตัวจำกัดความสามารถในการใช้จ่าย ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองที่รุนแรงขึ้นในช่วงปลายปีและยืดเยื้อต่อเนื่องถึง 5 เดือนแรกของปีนี้ยิ่งทำให้เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว โดยมีเพียงภาคการท่องเที่ยวอย่างเดียวที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในช่วงเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นสิ่งช่วยลดความไม่แน่นอนทางการเมืองลง ขณะที่นโยบายภาครัฐก็มีความชัดเจนขึ้น หลายฝ่ายจึงเกิดความคาดหวังเชิงบวก ต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า ซึ่งความหวังแรก คือ ภาคการคลังที่จะกลับมาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย จากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปีปัจจุบัน และเร่งคืนเงินจํานําข้าวแก่ชาวนา ตลอดจนมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อจะช่วยเพิ่มเม็ดเงินให้กับระบบเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกันก็มีการเร่งรัดจัดทําแผนงบประมาณประจําปี 2558 และสร้างความชัดเจนที่จะเดินหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่จําเป็น ซึ่งจะเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า ความคาดหวังต่อมา คือ สถานการณ์ทางการเมืองที่คลี่คลายจะช่วยเสริมสร้าง บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย รวมทั้งจะช่วยให้การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว และสิ่งสุดท้าย คือ ภาคเอกชนจะกลับมาลงทุนในโครงการที่เลื่อนออกไปเพื่อตอบสนองความต้องการบริโภคที่ เพิ่มขึ้น รวมทั้งจะมีการลงทุนใหม่ๆ เพื่อเตรียมรองรับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของ ภาครัฐที่มีแผนชัดเจน
ทั้งนี้ จากข้อมูลเครื่องชี้เศรษฐกิจล่าสุดก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวของ เศรษฐกิจไทย ทั้งด้านการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น แต่โดยรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ก็ยังมีแนวโน้มหดตัว แต่คาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีจะกลับมาฟื้นตัวได้ และน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในปีหน้า โดยประมาณการว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 1.5 และประมาณร้อยละ 5.5 ในปี 2558
ด้านนายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เอ็มเอฟซี จำกัด(มหาชน) และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย มีความเห็นตรงกันในการเสวนาเรื่อง “มองอนาคตและเศรษฐกิจการเงินไทย” ว่า ภาวะการเงินและเศรษฐกิจโลกขณะนี้เริ่มดีขึ้นและอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจ เริ่มมีสัญญาณที่ดี
เช่น ความเสี่ยงเรื่องปัญหาฟองสบู่แตกในประเทศจีนลดลง เป็นสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจโลกที่กำลังจะดีขึ้น ขณะที่ประเทศไทยนั้นดัชนีตัวเลขเครื่องของการส่งออกและการท่องเที่ยวยังเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจดี ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจเริ่มพื้นตัวได้เร็ว นโยบายของภาครัฐและเสถียรภาพทางด้านการเมืองที่ขึ้นเป็นปัจจัยเสริม
อย่างไรก็ตาม นี้ยังมีปัจจัยเรื่องของหนี้ภาคครัวเรือนที่ขยับตัวสูงเป็นปัจจัยท้าทาย การลงทุนของภาครัฐเป็นไปด้วยความระมัดระวังเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชน ทำให้การลงทุนทำได้ช้าและมีผลกระทบจากนโยบายประชานิยมก่อนหน้านี้ เช่น รถคันแรกยังมีผลสืบเนื่องอยู่
แต่ทั้งนี้ภาวะลงทุนในตลาดหุ้นกลุ่มทุนต่างชาติเริ่มกลับมาในประเทศอีกครั้ง และด้วยปัจจัยต่างๆ ที่ได้ขับเคลื่อนในขณะนี้จะทำให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย(GDP) ขยายตัวแข็งแกร่งชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2558 ซึ่งอาจขยับตัวสูงเกินร้อยละ 4.5 แต่ปี 2557 นี้ อัตราการเจริญเติบโตน่าจะอยู่ในระดับร้อยละ 1.5
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 18 กรกฎาคม 2557